"มิตซูบิชิ อิเล็คทริค" รุกหน้าธุรกิจในตลาดกัมพูชา รับดีมานด์อาเซียนโต

23 พ.ค. 2568 | 11:10 น.
อัปเดตล่าสุด :23 พ.ค. 2568 | 11:13 น.

"มิตซูบิชิ อิเล็คทริค" รุกตลาดกัมพูชา เปิดตัวสำนักงานผู้แทนการค้าและขยายสาขาใหม่ ดันศักยภาพภูมิภาคอาเซียน ตั้งเป้าสร้างเครือข่ายแข็งแกร่งตอบโจทย์การเติบโตระยะยาว

กลุ่มบริษัท มิตซูบิชิ อิเล็คทริค เดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยล่าสุด บริษัท มิตซูบิชิ อิเล็คทริค เอเชีย พีทีอี จำกัด (MEAP) ซึ่งเป็นสำนักงานประจำภูมิภาคในสิงคโปร์ ได้เปิดสำนักงานผู้แทนการค้าอย่างเป็นทางการในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา พร้อมด้วยการเปิดสาขาใหม่ของบริษัท มิตซูบิชิ เอลเลเวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อขยายเครือข่ายการให้บริการลิฟต์และบันไดเลื่อนในตลาดที่กำลังเติบโต หลังจากที่ได้เริ่มเข้าไปขยายฐานธุรกิจเครื่องปรับอากาศเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2567

โทชิมิตสึ อิโต

นายโทชิมิตสึ อิโต ผู้แทนภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คอร์ปเปอเรชั่น กรรมการผู้จัดการมิตซูบิชิ อิเล็คทริค เอเชีย ระบุว่า การขยายธุรกิจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาวที่มุ่งเสริมศักยภาพด้านการดำเนินงานในประเทศกัมพูชา ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากความต้องการโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกำลังซื้อของชนชั้นกลางที่ขยายตัว โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าระบบปรับอากาศและลิฟต์ที่ Mitsubishi Electric มีความเชี่ยวชาญ

โดยเฉพาะอย่างในกัมพูชาที่มีประชากรที่อายุน้อยและกำลังขยายตัวของชนชั้นกลางอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นศักยภาพการเติบโตในภาคที่อยู่อาศัย โรงแรม การท่องเที่ยว รวมถึงอุตสาหกรรมในอนาคต โดยบริษัทวางเป้าหมายการสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว ด้วยการส่งมอบสินค้าที่มีความทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน และให้ความสำคัญสูงสุดด้าน “ความปลอดภัย” ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์ญี่ปุ่นได้รับการยอมรับ แม้จะต้องเผชิญการแข่งในด้านราคาจากจีน

“แม้ตลาดกัมพูชาจะมีการแข่งขันด้านราคา โดยเฉพาะกับแบรนด์จากจีน แต่เรามองว่าลูกค้าในตลาดกำลังเติบโต ต้องการสินค้าที่ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน และปลอดภัย ซึ่งกลยุทธ์ของมิตซูบิชิจะไม่เน้นยอดขายระยะสั้น แต่จะมุ่งสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว” นายอิโตกล่าว

นายคัทสึยะ คาวาบาตะ กรรมการผู้จัดการมิตซูบิชิ เอลเลเวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดลิฟต์ในกัมพูชายังอยู่ในช่วงตั้งต้น โดยส่วนใหญ่เป็นอาคาร 5-10 ชั้น แต่ในอนาคตคาดว่าจะมีความต้องการอาคารสูงมากขึ้น โดยเฉพาะในกรุงพนมเปญและเมืองเศรษฐกิจหลักอื่น ๆ

“เรามองเห็นโอกาสจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพ ซึ่งต้องการลิฟต์ที่มีเทคโนโลยีความปลอดภัยสูง และระบบประหยัดพลังงาน โดยใช้ระบบควบคุมอัจฉริยะช่วยจัดการการจราจรของลิฟต์ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานในอาคารแต่ละแห่ง” นายคาวาบาตะกล่าว

คัทสึยะ คาวาบาตะ

สำหรับสายการผลิตหลักของมิตซูบิชิ อิเล็คทริค ยังคงอยู่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องปรับอากาศรายใหญ่แห่งหนึ่งของโลก โดยปัจจุบันส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย รวมถึงตลาดในอาเซียน เช่น กัมพูชา โดยตลาดต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนรายได้กว่า 85%

ในปัจจุบันโรงงานหลักของมิตซูบิชิฯ ตั้งอยู่ที่ประเทศไทย โดยมีการส่งออกเครื่องปรับอากาศจากไทยไปยังทั้งกัมพูชาและตลาดหลักทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และออสเตรเลีย ขณะที่ยอดขายในประเทศมีสัดส่วนประมาณ 15% ในเอเชียซึ่งไม่รวมประเทศไทยราว 20% และส่วนที่เหลือเป็นตลาดต่างประเทศอื่นๆ

"มิตซูบิชิ อิเล็คทริค" รุกหน้าธุรกิจในตลาดกัมพูชา รับดีมานด์อาเซียนโต

ทั้งนี้ ยังคงยืนยันว่า แม้จะมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก แต่บริษัทยังไม่มีแผนลดกำลังการผลิต เนื่องจากความต้องการเครื่องปรับอากาศยังสูงจากผลกระทบของภาวะโลกร้อน ซึ่งกลายเป็นหนึ่งปัจจัยผลักดันที่สำคัญของอุตสาหกรรม

อีกทั้ง มิตซูบิชิ อิเล็คทริค ยังเชื่อมั่นว่า การลงทุนในกัมพูชาในครั้งนี้จะช่วยสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ปัจจุบัน MEAP มีเครือข่ายธุรกิจครอบคลุมทั่วภูมิภาคอาเซียนและเอเชียแปซิฟิก รวมถึงไทย สิงคโปร์ อินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดยมองว่ากัมพูชาจะเป็นอีกหนึ่งฐานสำคัญในการผลักดันการเติบโตของบริษัทให้เป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนอย่างยั่งยืน