กางแผน ไทยวา ทุ่ม 300 ล้าน รุกตลาด "อาหารพร้อมทาน" บุกตลาดไทย-ต่างประเทศ

09 พ.ค. 2568 | 08:17 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ค. 2568 | 08:26 น.

ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกผันผวน ไทยวา กรุ๊ป ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 สุดฮึกเหิม กำไรสุทธิพุ่งกว่า 77% ย้ำความสามารถในการพลิกฟื้นธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง พร้อมจับมือ "ฟูจิ นิฮอน" ขยายตลาดส่วนผสมอาหารในเอเชียแปซิฟิก

ไทยวา กรุ๊ป (Thai Wah Group) หนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทย ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 ที่น่าจับตามอง โดยสามารถสร้างการเติบโตของกำไรได้อย่างโดดเด่น ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก บริษัทฯ รายงานยอดขายรวม 2,299 ล้านบาท และมี EBITDA สูงถึง 285 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไร 12% ของยอดขาย ขณะที่ กำไรจากการดำเนินงานหลักอยู่ที่ 171 ล้านบาท เติบโตถึง 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และที่สำคัญ กำไรสุทธิอยู่ที่ 117 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 77% จากปีก่อน

กางแผน ไทยวา ทุ่ม 300 ล้าน รุกตลาด \"อาหารพร้อมทาน\" บุกตลาดไทย-ต่างประเทศ

แผนธุรกิจเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการผลักดันกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน โดยเฉพาะธุรกิจอาหารของไทยวาเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์พร้อมรับประทาน (Ready-to-Eat) ที่ได้รับความนิยมอย่างมากหลังการเปิดตัว ซึ่งตัวเลขที่น่าสนใจในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปผู้ชายทานมากกว่าผู้หญิงกว่า 70%  ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์หลักอื่นๆ ในไทยและเวียดนามก็มีการเติบโตที่แข็งแกร่งเช่นกัน

และล่าสุด ไทยวาได้ประกาศความร่วมมือกับ ฟูจิ นิฮอน คอร์ปอเรชัน (Fuji Nihon Corporation) เพื่อทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น และเสริมความแข็งแกร่งในการขยายธุรกิจไปยังตลาดส่วนผสมอาหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการเติบโตของบริษัทฯ

ย้อนไป 10 ปีที่แล้ว สินค้าในกลุ่มอาหาร มุ่งนั้นไปที่กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร แต่ในปัจจุบันเน้นกลุ่มลูกค้า B2C มากกขึ้น ซึ่งรายได้ของธุรกิจอาหารของไทยวาในปี 2563 อยู่ที่ 1,565 ล้านบาท และเติบโตขึ้นเป็น 2,371 ล้านบาทในปี 2567 โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มรายได้ในส่วนนี้ให้เป็น 4,000 ล้านบาทภายในปี 2573

นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ธุรกิจอาหาร ธุรกิจแป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม (HVA) ธุรกิจในประเทศเวียดนาม และผลิตภัณฑ์พร้อมรับประทาน (Ready-to-Eat) ของไทยวา มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตราเลข 2 หลักมาตลอด 5 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของบริษัทฯ

ทั้งนี้แผนการลงทุนในปีนี้ ใช้งบลงทุน 300-400 ล้านบาทในเอเชียแฟซิฟิก แผนงานใน 3-5 ปีข้างหน้า บริษัทวางงบลงทุนราว 1,000 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจทั้งสร้างโรงงานผลิตสินค้า และตั้งสำนักงาน(ออฟฟิศ)ให้เพิ่มเป็น 18-20 แห่ง เพื่อลุยการทำตลาดในต่างประเทศโฟกัสตลาดยุโรป สหรัฐมาก เอเชียเหนือ เช่น ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ เป็นต้น โดยปัจจุบันบริษัทมีโรงงานและออฟฟิศ 15 แห่ง ได้แก่ ตั้งอยู่ในประเทศไทย 9 แห่ง ประเทศเวียดนาม 3 แห่ง และมีสำนักงานตั้งอยู่ที่ประเทศจีน ประเทศกัมพูชา และประเทศอินโดนีเซีย

ไทยวา กรุ๊ป ยังได้เปิดตัวโรดแมป "Thai Wah 2030" ซึ่งเป็นแผนการทรานสฟอร์มองค์กรในระยะยาว โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการ ได้แก่ การสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การพัฒนานวัตกรรม และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารระดับโลก โดยจะมุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก การลงทุนในธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูง และดำเนินการตามแนวทางด้านความยั่งยืน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในระดับสากล

3 กลยุทธ์หลักขับเคลื่อน "Thai Wah 2030"

เดินหน้าปรับพอร์ทโฟลิโอ ไทยวาตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์อาหารและผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่มเป็น 2 เท่าภายในปี 2573 โดยจะเน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำยอดขายสูง และขยายไปยังตลาดใหม่ๆ รวมถึงการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า เช่น แผ่นแป้งข้าวเจ้า เส้นมันเทศ วุ้นเส้นสด/แห้ง ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ ผลิตภัณฑ์พร้อมรับประทานแบบซอง เส้นหมี่สด/แห้ง เส้นก๋วยเตี๋ยวออร์แกนิก รวมถึงผลิตภัณฑ์พร้อมปรุงและพร้อมรับประทานต่างๆ นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าเป็นผู้เล่นในตลาดอาหารเพื่อสุขภาพมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในเอเชียแปซิฟิก โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ Clean-label และปราศจากกลูเตน/GMO

ขยายสู่ตลาดศักยภาพสูง ไทยวามุ่งขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคที่มีศักยภาพเติบโตสูง เช่น ตะวันออกกลาง ยุโรป เอเชียแปซิฟิก และจีน โดยตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาด 1 ใน 3 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักภายในปี 2573 ผ่านการพัฒนานวัตกรรมและความร่วมมือ ปัจจุบันมีสำนักงาน 10 แห่งใน 7 ประเทศ เพื่อเข้าถึงลูกค้าทั่วโลก ซึ่งรายได้ของตลาดส่งออก  15% ต่อปี  ตั้งเป้าปีนี้รายได้ส่งออก 20%ทั้งนี้มีโรงงานการผลิตที่ไทยและเวียดนาม

เพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนและสัดส่วนผลกำไร ธุรกิจแป้งมันสำปะหลังยังคงสร้างรายได้และกำไรต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ได้ยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและดำเนินงาน รวมถึงโครงการเพิ่มสัดส่วนกำไร เช่น ปรับปรุงต้นทุนซัพพลายเชน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และนำเทคโนโลยีมาใช้ ธุรกิจ HVA มีการจัดการที่ดีตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และมีเครือข่าย B2B ที่แข็งแกร่งในเอเชียแปซิฟิก

นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยวา กรุ๊ป กล่าวว่า ไทยวาตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำด้านอาหารของเอเชียภายในปี 2573 โดยจะพัฒนานวัตกรรมควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน แม้เศรษฐกิจโลกจะผันผวน แต่ไทยวาจะเร่งปรับตัว เพิ่มความยืดหยุ่น และตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีเป้าหมายเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มากกว่า 10 รายการในทุกปี

กางแผน ไทยวา ทุ่ม 300 ล้าน รุกตลาด \"อาหารพร้อมทาน\" บุกตลาดไทย-ต่างประเทศ

ไทยวายังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น โดยตั้งเป้า EBITDA อย่างน้อย 1 พันล้านบาทต่อปีตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ในปี 2567 ยังได้รับรางวัลบริษัทที่น่าทำงานที่สุดจาก HR Asia เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ตอกย้ำความใส่ใจในการดูแลพนักงาน