สยามสแควร์คึกคัก “ร้านอาหารคนรุ่นใหม่” ปูพรม 8 แบรนด์ทำเลทอง

08 พ.ค. 2568 | 11:00 น.
อัปเดตล่าสุด :08 พ.ค. 2568 | 11:45 น.

สยามสแควร์คึกคัก “รวยไม่หยุด” ปูพรม 8 แบรนด์ใหม่ในทำเลทอง ชูความหลากหลายตอบโจทย์ทุกกลุ่ม หวังดันยอดขายโต 20%

นางสาวชุติมา เปรื่องเมธางกูร ประธานบริหาร บริษัท รวยไม่หยุด จำกัด กล่าวว่า หลังสถานการณ์ โควิด-19 จะเห็นว่าธุรกิจอาหารในประเทศไทยมีการแข่งขันที่ดุเดือดมาก (Red Ocean) เต็มไปด้วยผู้เล่นทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ที่เข้ามาชิงส่วนแบ่งในตลาดร้านอาหารที่มีมูลค่าร่วม 7 แสนล้านบาท จนเกิดภาวะซัพพลายมากกว่าดีมานด์ร้าน

ขณะที่เทรนด์ผู้บริโภคยุคนี้เปลี่ยนแปลงไว ต้องการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ตลอดเวลา ในปีนี้ รวยไม่หยุด กรุ๊ป จึงตั้งใจเดินหน้าเสิร์ฟประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ลูกค้าได้มาสัมผัส กับการเปิดตัว 8 แบรนด์ใหม่ ซึ่งเป็นเวลากว่า 2 ปีที่เครือเราไม่ได้เปิดแบรนด์ใหม่เลย กระทั่ง เมื่อปลายปีที่ผ่านมา หลังจากศึกษาและพัฒนาคอนเซ็ปต์จนมั่นใจ จึงได้เปิดตัวแบรนด์ก๋วยเตี๋ยวเรือ “เกศเตี๋ยว” ซึ่งถือเป็น

นางสาวชุติมา เปรื่องเมธางกูร

แบรนด์แรกในเครือที่แตกไลน์มาสู่ร้านอาหารไทย เน้นเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม จนสร้างปรากฏการณ์ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือที่คิวแน่นตลอดทั้งวันมาตลอดระยะเวลากว่า 5 เดือนที่เปิดให้บริการ

ธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวเป็นสิ่งที่อยู่ในใจมาตลอด แต่เพิ่งมีโอกาสได้มาทำจริงจัง เพราะสมัยเด็ก เราก็เป็นมือปรุงก๋วยเตี๋ยวของเพื่อน จนได้ฉายาเกศเตี๋ยว บวกกับชอบกินอาหารรสจัด ชอบทำอาหารไทย ดังนั้นพอเห็นช่องว่างในตลาด เลยตัดสินใจปลุกปั้นแบรนด์เกศเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยวเรือที่กินได้ทุกวัน อร่อยแบบไม่ต้องปรุง

โดยเอาฉายาที่เพื่อนเรียกมาตั้งเป็นชื่อแบรนด์ เลือกปักหมุดที่สยามสแควร์ซอย 3 ซึ่งเป็นโลเคชั่นที่คุ้นเคย หลังจากเปิดมาร่วม 5 เดือน ก็ได้กระแสตอบรับถล่มทลายจากลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ ทำรายได้ไปกว่า 30 ล้านบาท ถึงจุดคุ้มทุนภายใน 2 เดือนแรก

โดยในปีนี้ มีแผนจะขยายสาขาเข้าไปในศูนย์การค้าเพิ่มเติม สาขาสองกำลังจะเปิดให้บริการที่ไอคอน สยาม พร้อมกันนี้ ยังจะเปิดตัวแบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มใหม่อีก 8 แบรนด์ ซึ่งมีทั้งแบรนด์ใหม่ที่ปั้นเอง แบรนด์ที่ซื้อแฟรนไชส์มาจากเกาหลี รวมถึงแบรนด์ใหม่ที่ร่วมกันพัฒนากับพาร์ทเนอร์ชาวเกาหลี โดยจะทยอยเปิดตัวในไตรมาส 3 นี้ทั้งหมด

 

นางสาวชุติมา กล่าวว่า เหตุผลที่เลือกเปิดแบรนด์ใหม่พร้อมกันถึง 8 แบรนด์ ว่าด้วยประสบการณ์ที่อยู่ในวงการอาหารมากว่า 8 ปี ทำให้เข้าใจอินไซท์ของลูกค้าเป็นอย่างดี ดังนั้นทั้ง 6 แบรนด์ที่จะเปิดตัวจึงเป็นการต่อยอดจากอินไซต์ของลูกค้า และเติมเต็มในสิ่งที่ตลาดยังขาด​

โดยทั้ง 8 แบรนด์ใหม่ เกือบทั้งหมดจะปักหมุดในย่านสยามสแควร์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญในการเปิดตัวทุกแบรนด์ในพอร์ตฯ เพราะเป็นย่านที่คุ้นเคย รู้อินไซท์ของลูกค้าเป็นอย่างดี บวกกับตั้งใจที่จะเติบโตไปกับย่านสยามสแควร์ ส่วนเหตุผลที่เลือกใช้โมเดลธุรกิจแบบปั้นแบรนด์เอง

และซื้อแฟรนไชส์ เพราะมองว่า แต่ละโมเดลมีจุดแข็งต่างกัน ในขณะที่การปั้นแบรนด์เอง อาจจะสามารถทำทุกอย่างได้ดั่งใจ แต่ก็ต้องใช้เวลา ขณะที่การซื้อแฟรนไชส์เหมือนเป็นทางลัด สามารถนำระบบที่วางไว้มาต่อยอดได้เลย สำหรับสไตล์ร้านอาหารที่เราอาจไม่ได้ถนัดมากนัก

นางสาวนันทนัช เอื้อศิริทรัพย์

“แต่ไม่ว่าจะโมเดลไหน สิ่งสำคัญคือ ความใส่ใจ จึงเป็นอีกเหตุผลที่เราเลือกเปิดแบรนด์ใหม่ในโลเคชั่นเดียวกัน เพื่อที่จะสามารถดูแลได้ทั่วถึง เพราะจากประสบการณ์ในการทำธุรกิจที่ผ่านมา ซึ่งเราเคยเจอมาทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว ทำให้เราตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้แม่นยำมากขึ้น

รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำหรือไม่ควรทำ เช่น การเปิดแบรนด์ใหม่ แต่ก่อนเราอาจจะเลือกเปิดแบรนด์ที่เราอยากทำ ซึ่งอาจจะมีทั้งสำเร็จและล้มเหลว แต่สำหรับ 8 แบรนด์ใหม่เราตั้งต้นว่าตลาดขาดอะไร ดังนั้น ต่อให้จะทยอยเปิดในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ในโลเคชั่นละแวกเดียวกัน เราก็ยังมั่นใจและไม่กังวลว่าแต่ละแบรนด์จะแย่งลูกค้ากันเอง หรือต่อให้สุดท้ายจะเป็นเช่นนั้นจริง ก็เป็นเรื่องปกติของธุรกิจร้านอาหารที่เป็น Red Ocean ต่อให้แบรนด์ของเราไม่กินส่วนแบ่งกันเอง คนอื่นก็กินส่วนแบ่งอยู่ดี”

นางสาวนันทนัช เอื้อศิริทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รวยไม่หยุด จำกัด กล่าวถึงกลยุทธ์ของรวยไม่หยุด กรุ๊ปในปีนี้ว่า แม้จะวางกลยุทธ์ปูพรมเปิดแบรนด์ใหม่ แต่กลยุทธ์การขยายสาขาของแบรนด์ในเครือ จะเป็นไปด้วยความรอบคอบมากขึ้น ไม่เน้นขยายสาขาเยอะ

สยามสแควร์คึกคัก “ร้านอาหารคนรุ่นใหม่” ปูพรม 8 แบรนด์ทำเลทอง

สำหรับแบรนด์ที่เปิดตัวใหม่ในปีนี้ จะดูกระแสตอบรับก่อน เพราะจากประสบการณ์ที่ลองขยายสาขาของแบรนด์ในพอร์ตฯไปยังโลเคชั่นต่างๆ ทำให้เรียนรู้แล้วว่า แบรนด์ไหนเหมาะกับลูกค้าในโลเคชั่นใด ที่สำคัญ ทำธุรกิจยุคนี้ นอกจากจะต้องเป็นปลาไว ต้องอ่านเกมให้ขาด ถ้าเห็นว่า สาขาหรือธุรกิจไหนอาจจะทำผลงานได้ไม่ดี หรือ เติบโตยาก ก็ไม่ควรยื้อ  

“ถ้าไปดูเทรนด์ร้านอาหารที่เกาหลีตอนนี้จะเห็นว่าเปลี่ยนแปลงไวมาก ไม่ต่างกับธุรกิจ Fast Fashion ที่มีทั้งแบรนด์ที่ปิดตัว และแบรนด์ใหม่ๆเกิดขึ้นตลอดเวลา ซึ่งเมื่อมาดูสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงอย่างเห็นได้ชัด

บวกกับ พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคนี้ที่ฉลาดเลือกมากขึ้น ไม่ได้มองหาแค่ร้านอาหารที่อร่อย ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ในราคาที่จับต้องได้ ยังมองหาร้านอาหารที่มีคอนเซ็ปต์ Back to Basic มอบประสบการณ์แบบ Casual Dining เน้นอาหารทานง่าย หรือ เมนูที่คิดถึง

แต่ปัจจุบันอาจจะหาร้านที่อร่อย หรือสะอาดมั่นใจรับประทานได้ยากขึ้น ซึ่งเครือรวยไม่หยุดของเราเล็งเห็นความสำคัญจุดนี้  ซึ่งการเปิดแบรนด์เกศเตี๋ยว ซึ่งเป็นแบรนด์เจาะสู่ตลาดแมสแบรนด์ที่สองของเครือตอบโจทย์คุณภาพที่ลูกค้ากลุ่มนี้มองหาได้ ซึ่งถือว่าเรามาถูกทาง จนได้รับผลตอบรับดีเกินคาด ดึงดูดกลุ่มลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติได้ทุกกลุ่ม สร้างความคึกคักให้สยามสแควร์ซอย 3 ได้สำเร็จอีกครั้ง”

 อย่างก็ตาม ตราบที่ยังเห็นช่องว่างในตลาด รวยไม่หยุด กรุ๊ป ก็ยังพร้อมเดินหน้าเติมแบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มใหม่ๆ เข้ามาในพอร์ตฯ จากปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งหมด 10 แบรนด์ นอกจากนี้ ในอนาคต รวยไม่หยุด กรุ๊ป ยังมีแผนที่จะต่อยอดธุรกิจ ด้วยการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยวเรือแบรนด์ “เกศเตี๋ยว” เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ เตรียมดันสู่ตลาดจีนและยุโรปภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ทั้งนี้ ตั้งเป้าว่า ด้วยกลยุทธ์การขยายแบรนด์ใหม่ในปีนี้ จะดันรายได้ของเครือให้โตขึ้นราว 20%

8 แบรนด์ใหม่ในเครือ "รวยไม่หยุด"

Premium Korean BBQ

  • Cheong Dam: Siam Paragon
  • Hannam: Central Dusit

Mass Brand

  • Standard Bun: Siam Square Block I
  • เกศเตี๋ยวป๊อก ป๊อก & ต้มยำ: Siam Square 10
  • ข้าวแกง & ปลาทู: Siam Square 10
  • Chago: Siam Square One
  • Daelim Korean Noodle: Siam Square
  • Sushi & Izakaya: Siam Square Block I

ร้านใหม่: Siam Square (ยังไม่ได้ตั้งชื่อ)