วิกฤติทะเลแดงขยายวง กระทบกำไรหลายบริษัท ลางร้าย ศก.โลกทรุด

24 ม.ค. 2567 | 13:39 น.

วิกฤตทะเลแดงขยายวง กำลังส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อระบบการค้าโลก กระทบกำไรหลายบริษัท ต้นทุนเพิ่มขึ้น กดดันอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ผลักดันให้ราคาพลังงานแพง

KEY

POINTS

  • วิกฤตทะเลแดงขยายวง ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อระบบการค้าโลก กระทบกำไรหลายบริษัท ต้นทุนเพิ่ม กดดันเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ราคาพลังงานแพง
  • กาตาร์ ผู้ส่งออกก๊าซเหลวรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก เตรียมหยุดส่งเรือบรรทุก LNG ผ่านทะเลแดง
  • กลุ่มฮูตี ให้คำมั่นว่าจะโจมตีต่อไปจนกว่าอิสราเอลจะหยุดสงครามในฉนวนกาซา

กว่าสองเดือนที่กลุ่มกบฏฮูตีต่อต้านเรือพาณิชย์ในทะเลแดง ทำให้เกิดการหยุดชะงักอย่างรุนแรงต่อการขนส่งทั่วโลก สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรตอบโต้ด้วยการโจมตีกลุ่มฮูตีหลายครั้ง โดยมีเป้าหมายเพื่อหยุดการโจมตีและปกป้องการค้าผ่านเส้นทางเดินเรือที่สำคัญ

แล้วได้ผลไหม? มาดูผลกระทบที่เกิดขึ้น

เริ่มที่สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรดำเนินการในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 12 มกราคม กองทัพสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรเปิดฉากโจมตีทางทหารหลายครั้งในเยเมน การโจมตีดังกล่าวทำให้เป้าหมายอย่างน้อย 60 จุด ทั่วพื้นที่ 28 แห่งที่กลุ่มฮูตียึดครองทางตะวันตกของเยเมน และกำหนดเป้าหมายอาวุธและระบบยิง ในความพยายามที่จะจำกัดความสามารถของกลุ่มกบฏในการโจมตีที่เพิ่มขึ้น

บริษัทขนส่งรายใหญ่บางแห่ง เช่น เมอส์ก , ฮาแพค-ลอยด์ และ เมดิเตอร์เรเนียน ชิปปิงได้ระงับการเดินทางตามเส้นทางดังกล่าว

เทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่จากสหรัฐ วางแผนจะระงับการผลิตรถยนต์ที่โรงงานแห่งหนึ่งในเยอรมนีเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจากการขนส่งต้องล่าช้าออกไป วอลโว ค่ายรถสัญชาติสวีเดน ประกาศระงับการผลิตที่โรงงานในเบลเยียมเป็นเวลา 3 วัน ส่วนแบรนด์ค้าปลีกอังกฤษอย่าง เทสโก้, มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ และเน็กซ์ ส่งสัญญาณถึงความเสี่ยงที่จะปรับขึ้นราคาสินค้า

 

ขณะที่ ฮานเนเก เฟเบอร์ ซีอีโอบริษัท โลจิเทค อินเตอร์เนชันแนล (Logitech International) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์สัญชาติสวิส-อเมริกันเป็นหนึ่งในบริษัทแรก ๆ ที่ออกมายอมรับว่า อัตรากำไรของบริษัทจะได้รับผลกระทบจากค่าขนส่งที่สูงขึ้นเนื่องจากวิกฤตในทะเลแดงซึ่งส่งผลให้บริษัทขนส่งต้องเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าที่สำคัญระหว่างตะวันออกกับตะวันตก

รายงานระบุว่า เรือขนส่งอย่างน้อย 2,300 ลำต้องเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือที่ใช้เวลานานขึ้นเพื่อเลี่ยงการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตีในทะเลแดง ซึ่งปกติเส้นทางดังกล่าวรองรับการขนส่งสินค้าทางทะเลคิดเป็นสัดส่วนกว่า 12% ของทั่วโลก

การโจมตีของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร มีการโจมตีจากฝั่งกลุ่มฮูตีเกิดขึ้น ?

นับตั้งแต่การโจมตีของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ดำเนินการตอบโต้กลุ่มฮูตี ก็มีการโจมตีจากฝั่งกลุ่มฮูตีเกิดขึ้น เมื่อวันอังคารที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา เรือบรรทุกสินค้าเทกองที่กรีกเป็นเจ้าของได้รับความเสียหายหลังจากถูกขีปนาวุธโจมตีขณะเดินเรือทางตอนใต้ของทะเลแดง

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มกบฏฮูตีโจมตี เรือยิบรอลตาร์ อีเกิลของสหรัฐฯ ด้วยขีปนาวุธในอ่าวเอเดนนอกชายฝั่งเยเมนเมื่อวันจันทร์ที่ 15 มกราคม เรือดังกล่าวไม่ได้รับความเสียหายร้ายแรงจากการโจมตี แต่ก็ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของปฏิบัติการระหว่างสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา

กลุ่มฮูตีกล่าวว่าการโจมตีโดยสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อความสามารถในการโจมตีเพิ่มเติม แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ กลุ่มฮูตีระบุอย่างชัดเจนว่าเรือที่เกี่ยวข้องกับสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ตกเป็นเป้าหมายควบคู่ไปกับเรือในเครือข่ายของอิสราเอล

การโจมตีของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรส่งผลต่อการจราจรอย่างไร

การจราจรในทะเลแดงลดลงนับตั้งแต่การโจมตีของกลุ่มฮูตีครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 การวิเคราะห์จาก สถาบันเศรษฐกิจเยอรมัน IfW Kiel พบว่าจำนวนเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่เดินทางผ่านช่องแคบลดลง 60%ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อเร็วๆนี้ ว่า เรือ 114 ลำได้แล่นผ่านช่องแคบบับ เอล-มานเดบ ในช่วงไม่กี่วันหลังการโจมตี ซึ่งลดลงจาก 131 ลำ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และ 272 ลำ  เมื่อเดือนที่แล้ว

การโจมตีดังกล่าวยังส่งผลให้มีเรือบรรทุกน้ำมันและก๊าซจำนวนมากขึ้นหลีกเลี่ยงช่องแคบนี้  ซึ่งการจราจรทางเรือบรรทุกน้ำมันต่างจากเรือบรรทุกสินค้า ที่ส่วนใหญ่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนธันวาคม แม้จะมีการโจมตีของกลุ่มฮูตี แต่การวิเคราะห์ของ รอยเตอร์ เมื่อวันจันทร์ที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา พบว่าเรือบรรทุกน้ำมัน 15 ลำที่มุ่งหน้าไปยังทะเลแดงได้เปลี่ยนเส้นทาง

หลบหนีจากทะเลแดง กาตาร์ เตรียมหยุดขนส่งก๊าซเหลว

กาตาร์ ผู้ส่งออกก๊าซเหลวรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก เตรียมหยุดส่งเรือบรรทุก LNG ผ่านทะเลแดงภายหลังการโจมตีครั้งล่าสุด แม้ยังไม่ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่หากเส้นทางการเดินเรือที่สั้นที่สุดระหว่างเอเชียและยุโรปถูกทิ้งไว้เป็นเวลานาน พื้นที่เมดิเตอร์เรเนียนอาจจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากเรือบรรทุกก๊าซของโดฮาและซัพพลายเออร์รายอื่น ๆ ต้องผ่านทะเลแดงและคลองสุเอซของอียิปต์ โดยกาตาร์ถือเป็นผู้ส่งออก LNG รายใหญ่อันดับสองของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา โดยในปี 2566 ส่งออกเชื้อเพลิงมากกว่า 75 ล้านตัน แม้ว่าส่วนใหญ่จะส่งออกไปยังเอเชียก็ตาม

เรือบางส่วนยังเเล่นผ่านทะเลแดงแลกมาด้วยต้นทุน

รายงานระบุว่า ยังมีเรือบางลำที่ยังแล่นผ่านบริเวณนี้อยู่หลายสิบลำแม้จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่สิ่งนี้ต้องแลกมาด้วยต้นทุน โดยผู้ที่เลือกจะแล่นเรือต้องเผชิญกับเบี้ยประกันที่สูงขึ้น การประกันภัยเรือสำหรับการผ่านช่องแคบเพิ่มขึ้นเป็น 1% ของมูลค่าเรือจาก 0.7% ในสัปดาห์ที่แล้ว

นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มต้นทุนค่าแรงสำหรับธุรกิจขนส่ง เนื่องจากบริษัทต่างๆ ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเนื่องจากความเสี่ยงในเดือนธันวาคมปีที่เเล้ว โดยการเจรจาต่อรองระหว่างประเทศ ซึ่งเจรจาค่าจ้างคนเดินเรือ ได้ตกลงที่จะจ่ายโบนัสเท่ากับค่าจ้างพื้นฐานสำหรับคนงานตลอดระยะเวลาการเดินทางผ่านทะเลแดง

เรือเหล่านี้กำลังทำอะไรเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตี ข้อมูลจากหอการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่าเรือบางลำกำลังปิดระบบระบุตัวตนอัตโนมัติ เรืออื่นๆ กำลังประกาศว่าเรือเหล่านั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอิสราเอล ในกรณีที่ร้ายแรง เรือบางลำกำลังประกาศการเชื่อมโยงไปยังรัสเซียและจีน

ขณะที่ผู้ที่เดินทางผ่านช่องแคบจำนวนมากกำลังอัพเดทตำแหน่งกองกำลังสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรเป็นประจำมากขึ้น เพื่อให้สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วหากเกิดการโจมตีขึ้น ขณะที่เรือบางลำยังได้รับความคุ้มครองจากกองทัพเรือสหรัฐฯ ด้วยซ้ำ เดอะการ์เดียน รายงานว่า โฆษกของ Maersk บอกว่าเรือติดธงสหรัฐฯ ของบริษัทในเครือได้รับการคุ้มกันขณะที่เรือกำลังบรรทุกสินค้าของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

ส่วนเรือที่หลบเลี่ยงทะเลแดงอาจใช้เวลาเดินทางอ้อมรอบแหลมกู๊ดโฮปทางตอนใต้สุดของแอฟริกาใต้นานกว่าและมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า การเดินทางจากรอตเตอร์ดัมซึ่งเป็นท่าเรือสำหรับเติมเชื้อเพลงที่คับคั่งที่สุดและมีราคาเชื้อเพลิงที่ค่อนข้างต่ำไปยังสิงคโปร์ผ่านแหลมกู๊ดโฮป มีระยะทางยาวกว่าเกือบ 4,000 ไมล์ทะเล เมื่อเทียบกับเส้นทางทะเลแดง และใช้เวลาประมาณ 10 วัน

Xeneta ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการวิเคราะห์การค้าทางทะเล คาดการณ์ว่าอาจมีราคาเพิ่มขึ้นถึง 3 ล้านเหรียญสหรัฐต่อลำ ซึ่งรวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และประกันภัยและลูกเรือ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในแง่ของต้นทุนการขนส่งสินค้า ต้นทุนเฉลี่ยในการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุตจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งเพิ่มขึ้นจาก 4,300 ดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วเป็น 5,650 ดอลลาร์สหรัฐในวันอังคาร เมื่อเดือนที่แล้ว อัตราค่าขนส่งเหล่านี้อยู่ที่ 1,875 ดอลลาร์สหรัฐ ราคาที่เพิ่มขึ้นในการขนส่งไปจนถึงต้นทุนทางธุรกิจ และการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานมีความรุนแรงมากขึ้น เกือบจะแน่นอนว่าจะสร้างแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น  ซึ่งจะชะลอการเติบโตขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวมไปในที่สุด

ขณะที่การเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือ ผ่านแอฟริกาเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุโจมตีจากกลุ่มกบฏฮูตี กำลังปรับเปลี่ยนรูปแบบการเติมเชื้อเพลิง และหนุนความต้องการเชื้อเพลิงเติมเรือเพิ่มขึ้นในท่าเรือที่อยู่ห่างไกล ตั้งแต่ประเทศมอริเชียสและแอฟริกาใต้ไปจนถึงหมู่เกาะคานารี

คำถามก็คือ การหยุดชะงักจะคงอยู่นานแค่ไหน คำตอบส่วนใหญ่คงอยู่ที่กลุ่มฮูตี เพราะกลุ่มนี้ให้คำมั่นว่าจะโจมตีต่อไปจนกว่าอิสราเอลจะหยุดสงครามในฉนวนกาซา และการโจมตีในห้วงเวลานี้แสดงให้เห็นว่า อิสราเอลยังคงมีความสามารถในการโจมตีเช่นกัน