ลุ้นต้นปี 67 "กรมขนส่ง" เปิดเส้นทางใหม่ เดินรถสาย บึงกาฬ-บอลิคำไซ

25 เม.ย. 2566 | 07:28 น.

กรมขนส่ง-สปป.ลาว เดินหน้าศึกษาเส้นทางเดินรถแห่งใหม่ “บึงกาฬ-บอลิคำไซ” รองรับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 5 ภายในช่วงต้นปี 67 หวังเชื่อมการเดินทาง 2 ประเทศ เล็งเพิ่มเส้นทางอุดรธานี-บอลิคำไซ ในอนาคต

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับ รัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เตรียมเปิดให้บริการเส้นทางเดินรถระหว่างประเทศ ไทย-ลาวใหม่ เส้นทางบึงกาฬ-บอลิคำไซ เพื่อรองรับการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ภายในช่วงต้นปี 67

สำหรับความคืบหน้าในครั้งนี้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสำรวจเส้นทาง ประกอบด้วย จุดเริ่มต้น-จุดสิ้นสุด ระยะทาง จุดจอดรถ ประเภทรถโดยสารที่นำมาใช้บริการ จำนวนเที่ยววิ่ง ความถี่ในการให้บริการ เบื้องต้นขั้นต่ำ 2 เที่ยวต่อวัน หรือขั้นสูงประมาณ 4-5 เที่ยวต่อวัน คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารที่จะใช้บริการ และ กำหนดอัตราค่าโดยสาร เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน

ขณะเดียวกันหลังจากสำรวจเส้นทางแล้วเสร็จจะดำเนินการออกใบอนุญาตประกอบการเดินรถต่อไป โดยฝั่งไทยจะมอบหมายให้บริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) เป็นผู้ประกอบการเดินรถ ขณะที่ฝั่งลาวจะต้องจัดหาผู้ประกอบการมาเดินรถเช่นเดียวกัน โดยการเปิดเส้นทางใหม่นี้จะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบด้วย เนื่องจากเป็นการเปิดเดินรถระหว่างประเทศ

ลุ้นต้นปี 67 \"กรมขนส่ง\" เปิดเส้นทางใหม่ เดินรถสาย บึงกาฬ-บอลิคำไซ

 

นายจิรุตม์ กล่าวต่อว่า ตนได้ให้นโยบายว่า ถ้าเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 รถโดยสารเส้นทางบึงกาฬ-บอลิคำไซจะต้องมีความพร้อมและเปิดให้บริการพร้อมกับสะพานได้ทันที เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้ง 2 ประเทศ รวมทั้งป้องกันรถโดยสารที่ให้บริการมาถูกกฎหมายหรือรถเถื่อนมาให้บริการ รวมทั้งส่งเสริมให้มีการใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 ระหว่างไทย-ลาวดีขึ้น ทำให้มีการค้าขาย ระบบเศรษฐกิจและการเดินทางคมนาคมขนส่งสะดวกมากขึ้น

ลุ้นต้นปี 67 \"กรมขนส่ง\" เปิดเส้นทางใหม่ เดินรถสาย บึงกาฬ-บอลิคำไซ

 

ทั้งนี้หากเปิดให้บริการเส้นทางบึงกาฬ-บอลิคำไซแล้วได้รับผลตอบรับดี ในอนาคตอาจจะเปิดเส้นทางเพิ่มเติม ได้แก่ เส้นทางอุดรธานี-บอลิคำไซ โดยผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 เนื่องจากประชาชนสปป.ลาวนิยมเดินทางมาที่ จ.อุดรธานี เพื่อท่องเที่ยว ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค รักษาพยาบาล และ ทำกิจกรรมต่างๆ ส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวยิ่งขึ้น