งดค้นตัวนักท่องเที่ยว ถือแบรนด์เนมผ่านได้เลย

06 กุมภาพันธ์ 2566

ศุลกากรอำนวยความสะดวกต่างชาติ งดค้นตัวนักท่องเที่ยวขาเข้าประเทศ รับนโยบายเปิดประเทศ ถือแบรนด์เนม สวมนาฬิกาหรูผ่านได้เลย

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า อธิบดีกรมศุลกากรมีนโยบายที่จะอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย โดยจะไม่ค้นตัวนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศ แม้ว่าจะมีของมูลค่าสูงติดตัวมาก็ตาม เพื่อจะไม่เป็นการสร้างภาระให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยด้วย

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร

"ศุลกากรจะไม่มีการค้นตัวนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย แม้ว่านักท่องเที่ยวรายนั้นจะสะพายกระเป๋าราคาแพงมูลค่าหลายแสน หรือสวมนาฬิกาหรูที่มูลค่าสูงหลายล้านก็ตาม หากเป็นการสวมใส่ เพื่อใช้เป็นส่วนตัว หรือเป็นของใช้ส่วนตัว ไม่ได้นำเข้าเพื่อการค้าเชิงพาณิชย์ เช่น ไม่ได้ใส่กล่องมา"นายพันธ์ทองกล่าว

ทั้งนี้ กรณีที่เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรจะขอค้นตัวนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศคือ กรณีที่มีข้อมูลทางลับที่แจ้งให้ทราบว่า มีการลักลอบนำเข้า หรือกรณีที่มีการแสดงอย่างชัดเจนว่า ไม่ใช่เป็นของติดตัวเช่น สวมนาฬิกาหลายเรือนบนข้อมือ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี กรมศุลกากรให้ความสำคัญในเรื่องภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ของกรม ดังนั้นหากอยู่ๆ เราจะไปตรวจค้นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย โดยไม่มีเบาะแสมาก่อน ย่อมส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ด้วย

ส่วนระเบียบปฏิบัติของกรมศุลกากรในเรื่องการนำของติดตัวเข้ามาทางท่าอากาศยานนั้น 

  • กรณีผู้โดยสารเดินเข้าช่องไม่มีสิ่งของต้องสำแดง หรือ ช่องเขียว (Nothing to declare) หมายถึง ผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งไม่มีของต้องชำระภาษีอากร ไม่มีของต้องห้าม หรือของต้องกำกัดเข้ามาพร้อมกับตน ให้เดินผ่านช่องตรวจเขียวหรือช่องไม่มีของต้องสำแดง โดยของที่ได้รับยกเว้นอากรมี ดังนี้
  1. ของใช้ส่วนตัวที่มีปริมาณพอสมควรสำหรับใช้ส่วนตัวและมีมูลค่ารวมทั้งหมดไม่เกิน 20,000.- บาท ซึ่ง มิใช่ของต้องห้าม ต้องกำกัด หรือเสบียงอาหาร
  2.  บุหรี่ไม่เกิน 200 มวนหรือยาสูบไม่เกิน 250 กรัมหรือน้ำหนักรวมทั้งหมดทุกประเภทไม่เกิน 250 กรัม.
  3.  เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปริมาตรไม่เกิน 1 ลิตร
  4. หากนำบุหรี่ ยาสูบ หรือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เข้ามาเกินกว่าปริมาณที่กำหนด โปรดหย่อนใส่กล่องที่กรมศุลกากรจัดไว้เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดี

กรมศุลกากรเน้นอำนวยความสะดวกกับผู้โดยสารโดยระบบบริหารความเสี่ยง (Risk Management) มาใช้ในการคัดเลือกตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร

  • กรณีการตรวจสัมภาระผู้โดยสารขาเข้า ณ ช่องมีสิ่งของต้องสำแดงหรือ ช่องแดง (Goods to declare)
  1. กรณีที่ 1 เป็นของติดตัวผู้โดยสาร ซึ่งไม่มีลักษณะเป็นเชิงการค้าและมีมูลค่าไม่เกิน 200,000 บาท เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะคำนวณค่าภาษีอากรปากระวาง
  2. กรณีที่ 2 เป็นของต้องห้าม และ/หรือต้องกำกัดที่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำเข้าจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย