“บี.กริม”ลั่นทำธุรกิจคู่ดูแลสังคม 144 ปีอยู่ได้ จากทำเรื่องใหม่-ทันสมัย

30 พ.ย. 2565 | 11:05 น.

บี.กริม ลุยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนปี 2050 ควบคู่ทำธุรกิจดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมทั้งในไทยและต่างประเทศ ระบุ 144 ปีในไทยอยู่ได้ จากทำเรื่องใหม่ ๆ และทันสมัยเสมอ

ดร.ฮาราลด์  ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวบรรยายพิเศษ เรื่อง ECOSYSTEM. It’s all about the Development of Civilization in Harmony with Nature  ในงานสัมมนา Sustainability Forum 2023  จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ (30 พ.ย. 2565) ใจความสำคัญระบุว่า บี.กริมตั้งเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050  เช่นเดียวกับหลายองค์กร โดยหลักการสำคัญ บริษัททำธุรกิจโดยใช้ความรัก และดูแลระบบนิเวศ เพราะถ้าไม่ดูแลระบบนิเวศองค์กรก็ยากที่จะอยู่ได้

 

ทั้งนี้การทำธุรกิจ คนทั่วไปส่วนใหญ่มองเป็นเรื่องของการสร้างผลกำไรอย่างเดียว แต่ข้อเท็จจริงธุรกิจไม่ใช่แค่เรื่องของการแสวงหารายได้และกำไร แต่ยังเป็นเรื่องการสร้างประโยชน์ให้สังคม ซึ่งปัจจุบันหลาย ๆ บริษัทพูดถึงเรื่องการทำประโยชน์เพื่อสังคม ทั้งธุรกิจขนาดเล็กที่คิดเป็นสัดส่วนกว่า 90% ของภาคธุรกิจ รวมถึงบริษัทขนาดใหญ่ เช่น การทำประโยชน์ในการช่วยชุมชน โรงเรียน ช่วยเพื่อนมนุษย์

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ บรรยายเคล็ดลับหลักการทำธุรกิจในไทย

 

“เราต้องใช้หัวใจ ใช้ความรัก และทำธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี ช่วยพัฒนาสังคม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งการทำธุรกิจแน่นอนว่ามีการปล่อยมลพิษ แต่ทำอย่างไรจะปล่อยมลพิษให้น้อยลง ทำอย่างไรให้สังคมไปได้ด้วยดี มีการศึกษาที่ดี และลดมลพิษ ซึ่งในส่วนของคาร์บอน หรือก๊าซเรือนกระจกเป็นสิ่งที่เราต้องลด”

 

ในส่วนของบี.กริมได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกประเทศที่ไปลงทุน ในการดูแลสิ่งแวดล้อม และช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งมีคนถามว่าทำไม บี.กริมอยู่มาได้ 144 ปี (144 ปีในการดำเนินธุรกิจในเมืองไทย) เนื่องจาก “เราใหม่เสมอ และทันสมัยเสมอ” และสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ ของบี.กริม คือการเป็นมิตร และหุ้นส่วน ไม่ว่าจะในบริษัทเองที่ได้รับความมือกันเป็นอย่างดีจากพนักงาน ขณะที่ บี.กริม.ก็มีการร่วมทุนกับหลาย ๆ บริษัท เช่นกับ ซีพี ไทยเบฟ ปตท. และกับหลายองค์กรทั้งในประเทศไทยและในประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงร่วมทุนกับบริษัทในต่างประเทศที่เป็นยักษ์ใหญ่ของโลก ไม่ว่าจะเป็นยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้
 

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ย้อนอดีตจนถึงปัจจุบันของการทำธุรกิจในไทย 144 ปี

 

“ในการบริหาร บี.กริม ได้ใช้หลักการของศาสนาพุทธคือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา(พรหมวิหาร 4) รวมถึงใช้หลักการของเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งบางครั้งก็ต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์ในการอธิบายว่าทำไมคนเราต้องรักกัน ทำไมเราต้องใช้หัวใจ ทำไมเราต้องร่วมมือกัน ซึ่ง บี.กริมเน้นหนักการทำธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี ดูแลสังคม และระบบนิเวศทำให้มีโครงการต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น ดูแลเสือโคร่ง ตั้งโรงเรียนเพื่อสนับสนุนด้านการศึกษา โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ให้ทุนพยาบาล ดูแลคนพิการ การสนับสนุนวงดุริยางค์ ดนตรีคลาสสิค กีฬาโปโล สนับสนุนการสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพ ร่วมกับหอการค้าไทย เป็นต้น”