มันสดร่วงเหลือ1.20บ./กก. ญวนแสบตัดราคาแป้งมันไปจีน/คน.เร่งทุกทางช่วย

มันสำปะหลังปลายนาทะลักปะทะมันไร่ ทำผลผลิตพุ่ง ทุบราคาหัวมันสดตกต่ำ มันคละเหลือแค่ 1.20 บาท/กก. ขณะราคามันเส้นร่วงเหลือ 180 ดอลล์ต่อตัน เอกชนชี้ราคาถึงจุดต่ำสุดแล้ว ด้านแป้งมันเจอเวียดนามตัดราคาจากได้เปรียบผลผลิตหัวมันต่อไร่สูงกว่าไทย 2 เท่า คน.เตรียมจับเข่าคุยโรงแป้ง-รง.แก๊สโซฮอล์ ช่วยดูดซับมันส่วนเกินออกจากตลาด พร้อมเร่งหาตลาดใหม่ชดเชยตลาดจีนทรุด

นางสุรีย์ ยอดประจง นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ" ถึงภาพรวมสถานการณ์อุตสาหกรรมมันสำปะหลังของไทย ณ ปัจจุบันว่า เกษตรกรผู้ปลูกมันได้รับผลกระทบมาก จากราคาหัวมันสดที่ลดลง จากเป็นช่วงรอยต่อระหว่างมันที่ปลูกปลายนากับมันไร่ที่กำลังออกมามากในช่วงนี้ ส่งผลให้ราคามันสำปะหลังที่ต่ำอยู่แล้วราคายิ่งต่ำลงไปอีก เป็นประเด็นที่สมาคมกังวลเพราะเปอร์เซ็นต์แป้งมันของมันปลายนาคุณภาพไม่ได้ดีเหมือนเมื่อก่อน

ทั้งนี้เปอร์เซ็นต์แป้งของมันปลายนาเวลานี้เฉลี่ยอยู่ที่ 11-12% จากเดิมอยู่ที่ 15-16% ส่งผลให้ราคาหัวมันสดปลายนา เฉลี่ยอยู่ที่ 1.50-1.60 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่หัวมันเชื้อแป้ง 25% เฉลี่ยที่ 1.55-1.70 บาทต่อกิโลกรัม (ราคา ณ วันที่ 13 ก.ย.59) สาเหตุที่มันปลายนาออกมาในปริมาณที่มากผิดปกติในช่วงนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายลดพื้นที่ปลูกข้าวของรัฐบาล และสนับสนุนให้หันไปปลูกมันปลายนาเพิ่มขึ้น ล่าสุดล่าสุดราคาส่งออกมนเส้น(เอฟโอบี)อยู่ที่ 180 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตันน่าจะเป็นราคาที่ถึงจุดต่ำสุดแล้ว

"เราเองก็พยายามส่งสัญญาณไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงปัญหาของมันสำปะหลัง สมาคมลงพื้นที่เจอปัญหาหรือข้อมูลก็ส่งไปให้กรมการค้าภายใน และกรมการค้าต่างประเทศทราบเพื่อหามาตรการแนวทางช่วยเหลือให้ทันกับสถานการณ์"

ด้านนางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาและผลผลิตมันสำปะหลังว่าขณะนี้ราคามันสำปะหลังในภาพรวมตกต่ำลงมากโดยเฉพาะหัวมันสดคละราคาเหลือเพียง 1.20 บาทต่อกิโลกรัม ลดลงจากเดือนที่ผ่านๆ มาที่เฉลี่ยอยู่ที่ 1.25 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคาแป้งมันในตลาดโลก ก็ตกลงเหลือ 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน จากปีที่แล้วราคาอยู่ที่ 400 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน สาเหตุมาจากจีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของไทยลดการนำเข้ามันสำปะหลัง และหันไปใช้ข้าวโพดที่ผลิตในประเทศทดแทน ขณะเดียวกันเวียดนามเองก็มีโรงงานผลิตแป้งมันส่งออกแข่งกับไทยราคาก็ถูกกว่า ผลผลิตต่อไร่ก็สูงกว่าไทย โดยได้ผลผลิตเฉลี่ย 6 ตันต่อไร่ ขณะที่ไทยได้เฉลี่ย 3 ตันต่อไร่ ทำให้เกิดการตัดราคาส่งออกไปจีน

"ในเร็วๆ นี้ จะเรียกผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมมันสำปะหลังมาหารือ เช่น โรงงานแป้งมัน โรงงานผลิตแก๊สโซฮอลล์เพื่อให้ช่วยดูดซับมันสำปะหลังออกจากตลาด รวมทั้งจะหารือกับทางสถาบันการเงินเพื่อให้ช่วยเหลือผู้ประกอบการในกรณีที่อาจขาดสภาพคล่อง"

อย่างไรก็ดี ภาครัฐได้เร่งแก้ไขปัญหามันสำปะหลังในระยะยาวด้วยการหาตลาดใหม่ๆให้กับผู้ประกอบการ เพราะจะหวังพึ่งพาเพียงตลาดจีนอย่างเดียวคงไม่ได้แล้ว โดยตลาดที่มีศักยภาพเช่น อินเดียที่นำเข้าไปเพื่อผลิตเป็นสาคู ,ญี่ปุ่น ,เกาหลี ที่สามารถนำเข้าแป้งมันเพื่อผลิตเป็นเส้นอุด้ง ทั้งนี้กรมจะนำผลงานการวิจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไปนำเสนอให้กับผู้นำเข้าในตลาดใหม่ๆ รวมทั้งจะได้หารือร่วมกับทูตพาณิชย์ที่เป็นประเทศผู้ใช้มันเพื่อดึงผู้ประกอบการจากทั่วโลกมาร่วมงานจับคู่เจรจาธุรกิจกับโรงแป้งของไทยด้วย

"ทางกรมได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในประเทศร่วมกับนักวิชาการและนักวิจัยในมหาวิทยาลัยต่างๆในการนำผลงานวิจัยไปต่อยอดเพื่อให้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่ทำจากมันสำปะหลังออกมามากขึ้น เช่น การทำขนมจากมันสำปะหลัง ลูกชิ้น ไส้กรอก ซอสต่างๆ รวมถึงใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมพลังงาน เช่น การผลิตเอทานอล เป็นต้น"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,192 วันที่ 15 - 17 กันยายน พ.ศ. 2559