คงเป็นผลงานชิ้นโบแดงของรัฐบาล "บิ๊กตู่"ที่ไล่ล่าแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญอย่างจริงจัง และต่อเนื่องนับตั้งแต่การบุกเข้าทลายเครือข่าย บริษั ทรานลี่ ทราเวิล จำกัด จังหวัดภูเก็ต ในข้อหานอมินี (ต่างชาติสวมสิทธิ์คนไทยทำธุรกรรมอำพราง) ยึดทรัพย์สินมูลค่านับพันล้านบาทและได้นำทรัพย์สินบางส่วน รถบัส เรือท่องเที่ยว ออกมาประมูลขายเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2559 ได้เงินมาร้อยกว่าล้านบาท
[caption id="attachment_97604" align="aligncenter" width="700"]
ปปง. ยึดทรัพย์ 2 เครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญ[/caption]
หวั่นกระทบทัวร์จีน 10 ล้านคน
ถัดมาวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ทำการอายัดและยึดทรัพย์บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด และเครือข่ายมูลค่าร่วมหมื่นล้านบาท ในข้อหา "อั้งยี่" กรณีหลังนี้ถึงกับ "ช็อก" วงการทัวร์จีน เพราะนอกจากข้อหาออกจะรุนแรงแล้ว ผู้ประกอบส่วนใหญ่อาศัยธุรกิจในเครือข่าย โอเอฯ เป็นหลัก โดยเฉพาะรถบัสท่องเที่ยวที่ให้บริการฟรีอยู่นับพันคัน จนต้องปรับเปลี่ยนโปรแกรมทัวร์กันวุ่นและบางรายถึงกับหยุดขายทัวร์ชั่วคราวเพื่อรอดูสถานการณ์ จนหวั่นกันว่าจะกระทบกับนักท่องเที่ยวจีน 10 ล้านคนที่คาดว่าจะเดินทางเยือนประเทศไทยสิ้นปีนี้
เรื่องนี้ทำเอาเจ้ากระทรวงฯ นั่งไม่ติดนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถึงกับเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (12 ก.ย. 59) แถลงการณ์ด่วนย้ำเตรียมความพร้อมทุกด้านรับมือเป็นอย่างดี และระบุว่าผลกระทบดังกล่าวจะเป็นเฉพาะบางพื้นที่และในระยะสั้นเท่านั้น โดยยืนยันว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1-11 กันยายน นักท่องเที่ยวจีนยังเพิ่มขึ้น 33.74% เมื่อเทียบกับจากปีทีแล้วและตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-11 กันยายน 2559 นักท่องเที่ยวจีนยังเพิ่มขึ้น 19.34 %
จีนหนุนจัดระเบียบ
ขณะที่หน่วยงานฝั่งจีน ทั้ง นางจาง ซิน หง ผู้อำนวยการ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจีน (ซีเอ็นทีเอ) กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวระหว่างไทยจีนอยู่ในจุด "พีก" ของการท่องเที่ยว และยังคงหวังว่าธุรกิจการท่องเที่ยวจะสามารถพัฒนาได้อย่างยั่งยืนต่อไป ส่วน นายเฉียน หรง เลขานุการโทและกงลุส จีนประจำประเทศไทย ก็ระบุว่า สถานทูตจีนพร้อมให้การสนับสนุนในการจัดระเบียบการท่องเที่ยวทัวร์จีน ของรัฐบาลไทย ที่เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวในเมืองไทยรวมถึงเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วย
ททท.ผนึกทีซีทีเอรับมือ
ก่อนหน้านั้นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน (ทีซีทีเอ) เรียกประชุมด่วนสมาชิกภายใน 72 ชั่วโมง เพื่อเคลียร์ปมปัญหารับมือเรื่องนี้ก่อนที่ปัญหาจะบานปลาย ที่ประชุมมีการหารือกันในวงกว้างกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตั้งรับนโยบายภาครัฐและการรื้อโครงสร้างทางการตลาดของทัวร์ไปสู่ตลาดทัวร์ที่มีคุณภาพ และเสียงส่วนใหญ่ต่างก็ยอมรับนโยบายปราบทัวร์ศูนย์เหรียญอย่างจริงจังของรัฐบาล
นายชนะพันธ์ แก้วกล้าไชยวุฒิ อุปนายกและเลขาธิการสมาคมทีซีทีเอ เผยว่า "ขอเวลาในการประสานกับฝ่ายจีนชี้แจงทำความเข้าใจ ต้องให้ข่าวสารออกไปในทิศทางเดียวกันและพร้อมเพรียงกัน โดยหน่วยงานภาครัฐ ต้องร่วมให้ข้อมูลเพื่อสร้างความเชื่อมั่น"
เขายังระบุว่า ที่มาของทัวร์ศูนย์เหรียญเป็นศัพท์ที่ทัวร์กับทัวร์คุยกันเองคือการส่งลูกทัวร์มาเมืองไทย ทัวร์จะไปเก็บเงินจากนักท่องเที่ยวเอง เนื่องจากสมัยแรก ๆ รัฐบาลจีนไม่มีนโยบายให้คนจีนนำเงินออกนอกประเทศ จึงมีการขายรายการนำเที่ยวเพื่อเก็บเงิน ซึ่งขณะนี้ห้างย่านราชประสงค์ ก็ให้เปอร์เซ็นต์เหมือนกันถือเป็นหลักสากลของการทำธุรกิจ แต่ถูกสังคมมองว่าทำผิด คนจีนเข้ามาเที่ยวเมืองไทยเที่ยวฟรีอยู่ฟรี ซึ่งไม่ใช่ เข้าพักโรงแรม เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว กินอาหารต้องเสียเงิน เลขาธิการสมาคมกล่าว
อย่างไรก็ดีบริษัททัวร์จีนยักษ์ใหญ่รายหนึ่งกล่าวว่า " เรื่องนี้ส่งกระทบต่อนักท่องเที่ยวแน่แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ อีกทั้งผลที่ตามมาบริษัทนำเที่ยวต้องปรับราคาแพ็กเกจทัวร์เพิ่มขึ้น เพราะราคารถเช่าจากเดิมได้ฟรีหรือราคาพิเศษก็ต้องจ่ายคันละ7พันบาทและโปรแกรมทัวร์ต้องปรับใหม่หมด"
ส่วนมุมมองโรงแรม 5 ดาวระบุว่าไม่กระทบเพราะเป็นนักท่องเที่ยวแบบเอฟไอทีหรือเดินทางมาเอง แต่โรงแรมเล็ก ๆ หรือคอนโดมิเนียนที่เคยให้เช่าทัวร์จีนกระทบแน่ โรงแรมบางแห่งแถบรัชดาภิเษก ถึงกับบ่นอุบว่ามีการยกเลิกการจองห้องพักกรุ๊ปทัวร์จีนไปถึง 50 % หรือราว 300 รูมไนต์ต่อคืนและอาจลากยาวไปถึงสิ้นเดือนกันยายน
[caption id="attachment_97603" align="aligncenter" width="336"]
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล
ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว[/caption]
ผงะรายได้ร้อยล้านเสียภาษีแสนเดียว
ฟากฝ่ายปราบปราม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลจีนได้ออกกฎหมายมีข้อหนึ่ง ว่าห้ามเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ท่านนายกรัฐมนตรีได้ประกาศ ให้เป็นวาระแห่งชาติ การเข้าการสู่มิติประชาคมอาเซียนให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางของทัวร์คุณภาพ มีแข่งขันเสรี และเสียภาษีถูกต้องตามกฎหมาย นำรายได้เข้าสู่ประเทศ จึงมีปฏิบัติตรวจจับอย่างต่อเนื่อง และทัวร์ประเภทมาฟรีกินฟรี มีอยู่จริง
ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ยังยกตัวอย่างอีกว่า "ท่านนายกรัฐมนตรีเน้นเรื่องการชำระภาษี การอายัดทรัพย์ที่ผ่านมามีการสอบเส้นทางการเงินของผู้บริหารบางบริษัทพบว่ามีเงินได้เข้าบัญชีส่วนตัวปีละร้อยกว่าล้านบาท แต่พบว่าเสียภาษีแค่แสนกว่าบาทบริษัทในเครือแจ้งบัญชีขาดทุนทั้งหมด มาเฟียในการท่องเที่ยวต้องไม่มี ไม่มีการผูกขาดทางการค้า" เขาย้ำ
[caption id="attachment_97602" align="aligncenter" width="336"]
สุธรรม เดชมี
รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว[/caption]
กม.ลูกคลอดธันวาตั้งราคาขั้นต่ำ
ขณะที่ผู้ถือดาบอาญาสิทธิ์อย่างนายทะเบียนกลางธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ นายสุธรรม เดชมี รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว เผยถึงนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ว่าจะเน้น 3 มาตรการคือ 1.การใช้มาตรการทางกฎหมายการแก้ไขพ.ร.บ.จัดระเบียบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ซึ่งจะมีการเพิ่มเติมเรื่องกำหนดราคาทัวร์ขั้นต่ำในกฎหมายลูกซึ่งคาดจะมีผลบังคับใช้เดือนธันวาคมนี้
2.การปราบปรามได้มีการตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองขึ้นมาตรวจสอบบริษัทที่ขอจดทะเบียนใหม่ว่าเข้าข่าย นอมินีหรือไม่ขณะเดียวกันมีการเดินสายตรวจสอบบริษัทต่างๆ ทั่วประเทศ เดือนละครั้งและ3. ตั้งคณะกรรมการฝ่ายไทยและจีนขึ้นเพื่อแก้ปัญหาทัวร์จีนโดยเฉพาะ มีตัวแทนฝ่ายไทยและจีนเข้าร่วมเพื่อแก้ปัญหาร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศ มีการแบล็กลิสต์รายชื่อบริษัททัวร์ที่ทำผิดด้วย
[caption id="attachment_97601" align="aligncenter" width="335"]
ศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์
รองผู้ว่าตลาดเอเชียและแปซิฟิก ททท.[/caption]
โรดโชว์อุดรูรั่ว
ส่วนมุมมองของททท. มุ่งทำตลาดทัวร์คุณภาพ ตามนโยบายของรัฐบาล โดย นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าตลาดเอเชียและแปซิฟิก ททท. กล่าวว่าเรื่องกฎหมายก็ว่ากันไปแต่ในส่วนการทำการตลาดเพื่อพัฒนาตลาดทัวร์จีนให้มีคุณภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนเป็นการปรับโครงสร้างทางการตลาด ซึ่งรายได้จากนักท่องเที่ยว 5 แสนล้านบาทต่อปีมาจากนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งถือว่ามีบทบาทสำคัญ
จึงเชิญชวนให้สมาชิกทีซีทีเอ หันทำทัวร์คุณภาพ ภายใต้โครงการ ควอลิตีแพ็กเกจ ควอลิตีเอเยนต์ ซึ่งททท.จะสนับสนุนด้านงบประมาณ และนำผู้ที่มีความพร้อมเดินทางไปโรดโชว์ ในจีนหาคู่ค้าที่มีคุณภาพ เพื่อชดเชยนักท่องเที่ยวที่หายไป เพื่อมิให้ปาดเจ็บไปมากกว่านี้ เราไม่รู้ว่าจะหายไปเท่าไรแต่เราต้องอุดรูรั่ว โปรโมตประเทศไทยไปสู่ตลาดทัวร์คุณภาพหรือผลักดันให้ไทย เป็น"ควอลิตีเลเชอร์ เดสติเนชัน" ของตลาดทัวร์จีน ซึ่งต้องสร้างดีมานด์ให้เกิดความต้องการมาเมืองไทย รองผู้ว่าการฯ ททท.ย้ำ
เปิดโปงที่มายึดทรัพย์
นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้บัญชาการสำนักบริหารกลาง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ช่วยราชการปปง. เผยว่าได้ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์ บริษัทฝูอัน ทราเวล จำกัด และบริษัทโอเอฯ ซึ่งทำธุรกิจนำเที่ยวพานักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยในราคาต่ำกว่าทุน หรือทัวร์ศูนย์เหรียญนั้น และ จากการตรวจสอบพบว่า บริษัทฝูอันฯ และซินหยวน ทราเวล มีนางธวัล แจ่มโชคชัย และชาวจีนที่นำชื่อนายสมเกียรติ คงเจริญ ที่เสียชีวิตไปแล้วมาสวมทำหน้าที่ เป็นกรรมการผู้จัดการและผู้ถือหุ้นในบริษัท และจะใช้บริการรถบัสของบริษัทโอเอ ฯ โดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่า
แต่มีข้อตกลงและเงื่อนไขคือ จะต้องนำนักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้า ตามร้าน ที่กำหนด คือ บริษัท รอยัลเจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ,บริษัท รอยัล พาราไดซ์ จำกัด ,บริษัท รอยัล ไทยเฮิร์บ จำกัด ,บริษัท บางกอก แฮนดิคราฟ เซ็นเตอร์ จำกัด โดยมัคคุเทศก์จะใช้วิธีบังคับ ล่อลวง ขู่เข็ญนักท่องเที่ยว ให้ซื้อสินค้าในราคาที่สูงเกินจริง โดยบริษัทโอเอฯจะจ่ายค่าตอบแทนกลับหรือที่วงการทัวร์เรียกกันว่า (เคบี) ให้กลับบริษัทฝูอันฯในอัตรา 20-30% จากยอดขาย ต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับชาวจีนที่สวนชื่อนายสมเกียรติ และนางธวัล ในความผิดฐานเป็นสมาชิกอั้งยี่ และร่วมกับประกอบธุรกิจนำเที่ยวอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว
วันที่23 สิงหาคม ศาลได้ออกหมายจับนางนิสา โรจน์รุ่งรังสี ประธานกรรมการ บริษัทโอเอฯและนายวสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี กรรมการบริษัทฯ ความผิด "อั้งยี่" ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมาและ ปปง.ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินและการทำธุรกรรมกระทั่งมีการยึดทรัพย์ดังกล่าว
Photo :
Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,192 วันที่ 15 - 17 กันยายน พ.ศ. 2559