บิ๊กตู่ ไฟเขียวตั้ง Global Monitoring Center  ติดตามความเคลื่อนไหวการใช้ภูมิปัญญาไทย 

30 ส.ค. 2559 | 07:52 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

วันนี้(30 ก.ย.2559)คณะผู้จัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 13 นำโดย นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ  อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เข้าพบนายกรัฐมนตรี  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำเนียบรัฐบาล  เพื่อประชาสัมพันธ์งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 13 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 4 กันยายน  2559  ณ  ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี อาคาร ๖6-8

ในการเข้าพบนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  โดย  นพ.จรัญบุญฤทธิการ  ผู้อำนวยการโรงพยาบาล  และ ภญ.ดร.สุภาภรณ์ปิติพร  รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทย  ได้เสนอนายกรัฐมนตรีให้สนับสนุนการจัดตั้ง Global Monitoring Centerfor Thai wisdom หรือศูนย์ติดตามความเคลื่อนไหวการใช้ภูมิปัญญาไทย  เพื่อสนับสนุนให้เกิดการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการจากภูมิปัญญาไทย

นพ.จรัญได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า  จากการจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติมาเป็นเวลา 12 ปีนั้น  ทำให้เราทราบสมุนไพรไทยหลายชนิดที่คนไทยไม่รู้จักนั้นได้ถูกนำไปศึกษาวิจัยต่อยอดโดยต่างชาติแล้ว  เช่น  ประดู่ทุ่ง มีเฉพาะในประเทศไทย แต่มีในฐานข้อมูลให้ใช้เป็นส่วนประกอบเป็นเครื่องสำอางได้ในยุโรป  ซึ่งนับว่าเป็นการสูญเสียความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างไม่สามารถประเมินค่าได้

ในปี 2559 ตลาดสมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั่วโลกจะสูงถึง 107 พันเหรียญสหรัฐ  ในขณะที่ตลาดสมุนไพรมีขนาดใหญ่ขนาดนี้ และประเทศก็จัดเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง  มีภูมิปัญญาการดูแลสุขภาพที่เก่าแก่  มีความถนัดทางด้านเกษตรกรรม  แต่กลับสามารถพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาเพื่อประโยชน์ทางด้านสุขภาพของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศได้น้อยมากดังนั้นกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย ฯ จึงได้เสนอนายกรัฐมนตรีให้สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวการใช้ภูมิปัญญาไทย อันจะเป็นทางลัดในการหายาใหม่จากสมุนไพรเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรสำหรับสัตว์ โดยที่ไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ ทำให้เกิดการตื่นตัวด้านการศึกษาวิจัยสมุนไพรไทย  เนื่องจากศูนย์จะมีการรายงานความเคลื่อนไหวทางวิชาการอย่างต่อเนื่อง  ทำให้เกิดการพัฒนายาและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรที่ตรงกับความต้องการตลาดโลก  สามารถวางแผนการปลูกสมุนไพรและการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่มีความเหมาะสม

ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ได้กล่าวทิ้งท้ายถึงการขอรับการสนับสนุนว่า “การขอรับการสนับสนุนการจัดตั้ง Global Monitoring Centerfor Thai wisdom นี้จะขอดำเนินการที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรก่อนเป็นแห่งแรก เนื่องจากจังหวัดปราจีนบุรีเป็นหนึ่งในเมืองสมุนไพร  (Herbal city) ที่ภาครัฐกำลังผลักดันอยู่  ประกอบกับทางโรงพยาบาลเองมีความพร้อมของข้อมูลการติดตามการเคลื่อนไหวการใช้ภูมิปัญญาไทยมาระดับหนึ่ง  และพร้อมที่จะเผยแพร่ฐานข้อมูลให้กับภาคเอกชน โดยการขอรับการสนับสนุนจะประกอบด้วย กำลังคน ได้แก่ เภสัชกรด้านสมุนไพร และบุคลากรประจำศูนย์  และการเข้าถึงฐานข้อมูลการวิจัยและสิทธิบัตรนานาชาติ  ที่จะทำให้การสืบค้นข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

โดยนายกรัฐมนตรี ได้รับเรื่องไว้ และบอกว่าให้ดำเนินการได้เลย พร้อมกับกำชับว่า สมุนไพรเป็นภูมิปัญญาไทยที่ต้องส่งเสริม ซึ่งจะต้องสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับอันตรายจากการใช้สมุนไพรที่ไม่ถูกต้อง พร้อมขอให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งจดสิทธิบัตร และให้ประสานกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ให้เป็นสินค้า OTOP รวมถึงส่งเสริมอุตสาหกรรมสมุนไพรอย่างจริงจัง เพื่อให้มีมาตรฐาน สามารถนำขึ้นไปจัดจำหน่ายบนเครื่องบินได้