กระทรวงอุตฯตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs (SME Rescue Center)

21 ก.ค. 2559 | 06:58 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

กระทรวงอุตสาหกรรม คิ๊กออฟเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs (SME Rescue Center) เป็นตัวกลางประสานงานให้ความช่วยเหลือ SMEs ไทย ดึงหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการเงิน สร้างเครือข่ายพร้อมช่วยฟื้นฟูให้แก่ผู้ประกอบ SMEs ทั้งทางด้านการเงิน การตลาดและความช่วยเหลือด้านการจัดการและแผนธุรกิจ พร้อมอัดฉีดเงินปลอดดอกเบี้ยผ่านเงินทุนพลิกฟื้น SMEs หวังสร้างให้ SMEs ไทย เป็นรากฐานความเข้มแข็งของภาคเศรษฐกิจให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการในตลาดโลกได้

ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวในงานเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ  SMEs  (SME Rescue Center) ว่า ภาครัฐมีนโยบายให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบรัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ของไทยให้มีขีดความสามารถการแข่งขันที่ดีพร้อมปรับโครงสร้างกลไกสนับสนุนและการขับเคลื่อน SMEs ให้เป็นระบบ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการบริการต่างๆ ของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ประกอบการ SMEs ที่ประสบปัญหาในการทำธุรกิจและการเข้าถึงบริการของภาครัฐทำให้การดำเนินธุรกิจประสบปัญหา จึงได้มอบนโยบายให้กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความช่วยเหลือดูแลผู้ประกอบการ SMEs ไทย ที่ประสบปัญหาด้านต่างๆ เช่น การขาดโอกาสทางการตลาด ด้านการจัดการและนวัตกรรม ปัญหาทางด้านการเงิน เพื่อให้กลับมาเป็นผู้ประกอบการ SMEs ที่มีความเข้มแข็งและมีศักยภาพขีดความสามารถจะแข่งขันในตลาดได้และก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการ SMEs รุ่นใหม่ หรือ SMEs 4.0 ที่มีความเข้าใจด้านเศรษฐกิจและการตลาด รวมถึงใช้นวัตกรรมเพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจและช่วยขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจของไทย

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs (SME Rescue Center) กล่าวว่า จากนโยบายดังกล่าว กระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้เปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs (SME Rescue Center) เพื่อเป็นช่องทางการรวบรวมปัญหาและแนวทางการฟื้นฟูผู้ประกอบการ SMEs ที่ขาดปัจจัยเอื้อต่อการพัฒนาความสามารถการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมให้กลับมาเข้มแข็งและธุรกิจเดินหน้าต่อได้อีกครั้ง โดยใช้การบริหารงานในรูปแบบคณะกรรมการจากหน่วยงานเครือข่ายโดยมี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่ากระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานและมีตัวแทนจากหน่วยงานเครือข่ายต่างๆ เข้าร่วมการจัดตั้งศูนย์แห่งนี้ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวด้านการบริหารจัดการและบูรณาการแก้ปัญหาให้แก่ผู้ประกอบการได้อย่างรวดเร็ว โดยในช่วงแรกจะมีที่ทำการให้บริการที่ศูนย์บริการธุรกิจอุตสาหกรรม (BSC) ที่อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเป็นการชั่วคราวไปก่อน หลังจากนั้นจะย้ายมาตั้งที่กระทรวงอุตสาหกรรมต่อไป

สำหรับช่องทางการให้บริการของศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs (SME Rescue Center) มีจุดให้บริการกว่า 3,800 แห่งทั่วประเทศ และมีหน่วยคัดกรองวิเคราะห์ปัญหาและตรวจสอบข้อเท็จจริงของคำร้องที่ส่งผ่านหน่วยงานเครือข่ายต่างๆ ประมาณ 300 แห่งทั่วประเทศ ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการเงินของภาครัฐและเอกชน เช่น สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กรมบังคับคดี ศูนย์ดำรงชัยธรรม ธนาคารเอสเอ็มอี ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทยและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ที่เปิดให้ผู้ประกอบการ SMEs ประสบปัญหาส่งเรื่องร้องขอความช่วยเหลือ แล้วทางศูนย์ฯ จะนำข้อมูลวิเคราะห์และจัดชั้นแบ่งกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs เพื่อจัดลำดับและแนวทางแก้ไขปัญหาพร้อมส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ต่อไป

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นทางศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ได้จัดแบ่งกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพแต่มีปัญหาด้านการเงิน เช่น ขาดสภาพคล่องหรือมีมูลหนี้มาก ภาครัฐก็จะสนับสนุนเงินทุนจากกองทุนพลิกฟื้น SMEs เข้ามาสนับสนุนด้านเงินทุนหรือติดต่อสถาบันการเงินเข้ามาเจรจาประนอมหนี้เพื่อให้ธุรกิจกลับมาดำเนินกิจการและเกิดการจ้างงานต่อ ส่วนกลุ่มที่ 2 กลุ่มที่มีศักยภาพแต่มีปัญหาด้านการจัดการ จะส่งเรื่องให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)  และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เข้ามาช่วยวางแผนบริหารจัดการทางด้านการตลาดเพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันให้ดีขึ้น และกลุ่มที่ 3 กลุ่มที่ยังมีศักยภาพในการฟื้นฟูไม่มากจะมีหน่วยงานเข้าไปช่วยแนะนำการปรับโครงสร้างธุรกิจให้กลับมาดำเนินการได้ หรือหากจำเป็นต้องเลิกกิจการ จะช่วยพัฒนาผู้ประกอบการเหล่านี้ให้ไปสู่ธุรกิจใหม่ที่มีโอกาสทางการตลาดที่ดีกว่าหรือเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต

“เบื้องต้น ภาครัฐได้ให้การสนับสนุนเงินทุนจากแก่ผู้ประกอบการที่ผ่านกระบวนการฟื้นฟูและกลุ่มที่ผ่านการคัดกรองจากศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs (SME Rescue Center) จากกองทุนพลิกฟื้น SMEs ซึ่งมีวงเงินเริ่มต้นที่ 1,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการขออนุมัติเงินงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อนำมาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่มีศักยภาพแต่ประสบปัญหาไม่สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อจากสถาบันการเงินให้มีโอกาสได้รับสินเชื่อไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท  ปลอดอัตราดอกเบี้ยโดยมีระยะเวลาให้กู้ 5-7 ปี เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจต่อไป” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นอกจากนี้ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs (SME Rescue Center) ยังทำหน้าที่ในการบริหารจัดการข้อมูลที่จะนำไปทำการวิเคราะห์ปัญหาเพื่อนำไปสู่การกำหนดแนวนโยบายให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ไทยที่เหมาะ สมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ประกอบการเหล่านี้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจและมีความสามารถในการแข่งขันและก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการ SMEs 4.0 ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้ตามเจตนารมณ์ที่รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายไว้

นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมรัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า สสว. เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs (SME Rescue Center)พร้อมให้ศูนย์ให้บริการ SME ครบวงจร หรือศูนย์ OSS สสว. ซึ่งมี 11 ศูนย์ทั่วประเทศในขณะนี้ เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการที่ผู้ประกอบการจะติดต่อขอรับการช่วยเหลือ เพื่อเป็นสนับสนุนการดำเนินงานศูนย์ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs(SME  RESCUE Center)  ของกระทรวงอุตสาหกรรม