เล็งระบายข้าวหมดคลังกลางปี60 เทขายอีก2.1ล้านตันคาดไม่คึกคัก
ผู้ส่งออกมองรัฐเร่งระบายข้าวเป็นเรื่องดี แต่ติงถี่ไป ตลาดจะกดราคา หลังคำสั่งซื้อไตรมาส 3 ไม่กระเตื้องจากภาวะเศรษฐกิจโลกกระทบตลาดส่งออกข้าวสำคัญอย่างแอฟริกาด้านพาณิชย์เตรียมเปิดขายข้าวสารในสต๊อกให้เอกชนที่มีคำสั่งซื้อปริมาณ 2.18 ล้านตันเป็นครั้งแรก พร้อมเตรียมระบายข้าวเสื่อมอีก 4 แสนตัน เล็งล้างสต๊อกข้าวรัฐหมดคลังกลางปี 60
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงกรณีที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมออกประกาศจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลให้กับภาคเอกชนที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ (2.18 ล้านตัน) มองรัฐบาลต้องการเร่งระบายข้าวออกมาเพราะเวลานี้ยังไม่มีข้าวใหม่ออกมากก็น่าจะระบายได้ แต่ก็มองว่าเป็นการระบายที่ถี่มากไปอาจทำให้ตลาดซบเซาได้เพราะว่าไตรมาส 3 เพราะตลาดข้าวยังไม่ค่อยดี เนื่องจากเศรษฐกิจโดยเฉพาะยุโรปมีปัญหาเรื่องความผันผวนด้านการเงิน จะส่งผลไปถึงตลาดแอฟริกาซึ่งเป็นตลาดส่งออกข้าวของไทยได้รับผลกระทบไปด้วย
ดังนั้นตลาดส่งออกข้าวในไตรมาส 3 จะชะลอตัวลงกว่าในช่วงต้นปี และราคาที่เอกชนเสนออาจจะต่ำกว่า 2 รอบแรก ซึ่งคงต้องดูอีกครั้งว่าข้าวที่กระทรวงพาณิชย์จะระบายออกมาครั้งนี้จะได้ราคาดีกว่า 2 ครั้ง ที่ผ่านมาหรือไม่ หากได้ราคาต่ำกว่าอาจทำให้ตลาดซบเซาลงไปอีก เพราะตลาดต่างประเทศจับตาดูอยู่ด้วย
“จริง ๆ กรมการค้าต่างประเทศน่าจะเป็นผู้ขายเองโดยตรงซึ่งจะช่วยกำหนดทิศทางของราคาข้าวที่ระบายออกมาได้ เพราะถ้าให้เอกชนเสนอซื้อแล้วนำข้าวไปขายต่อราคาก็จะไม่ไปในทิศทางเดียว เพราะต้นทุนของแต่ละรายไม่เท่ากัน การระบายข้าวรอบนี้อาจทำให้ราคาข้าวถูกกดลง เพราะปริมาณที่จะระบายครั้งนี้ 2 ล้านกว่าตันมองว่ามากไปน่าจะระบายครั้งละ5 แสนตันและมองว่าครั้งนี้คงไม่คึกคักเท่ากับ 2 ครั้งที่ผ่านมา เพราะปริมาณข้าวที่ออกมาตอนนี้ถือว่าอยู่ในมือผู้ส่งออกมากเช่นกัน”
เช่นเดียวกับนายเสริมศักดิ์ ควรทรงธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทไชยพรไรซ์ แอนด์ฟู้ด โปรดักส์ จำกัด ที่กล่าวว่า การเปิดประมูลข้าวให้กับภาคเอกชนที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศในครั้งนี้ ไม่น่าจะคึกคักเท่า 2 ครั้งแรก แต่บริษัทเองคงเข้าร่วมเพราะผู้ค้าเองก็รออยู่เช่นกัน
ด้านนางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศจะออกประกาศเปิดจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐให้กับภาคเอกชนที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ เพื่อส่งออกต่างประเทศครั้งที่ 1/2559 ปริมาณ 2.18 ล้านตันเป็นครั้งแรก เพราะมองว่าสถานการณ์ข้าวในต่างประเทศขณะนี้ปริมาณผลผลิตข้าวไม่เพียงพอกับปริมาณความต้องการข้าวในตลาด ขณะที่ผลผลิตข้าวในฤดูกาลใหม่กำลังจะทยอยออกสู่ตลาด ภาครัฐจึงจำเป็นต้องเร่งระบายข้าวในสต๊อกของรัฐเพื่อไม่ให้กระทบระดับราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรจะได้รับ โดยจะเปิดให้ยื่นซองเอกสารคุณสมบัติผู้เสนอซื้อ ในวันที่ 21 กรกฎาคม และยื่นซองเสนอราคาซื้อ ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2559
นอกจากนี้กรมเตรียมประกาศทีโออาร์ เงื่อนไขการระบายข้าวสต๊อกรัฐบาลในกลุ่มของข้าวเสื่อมเพื่อเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมตั้งแต่อาหารสัตว์ลงไปปริมาณ 4 แสนตัน โดยในขั้นตอนสุดท้ายจะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 25 กรกฎาคม คาดว่าปีนี้รัฐบาลน่าจะขายข้าวออกไปได้มากกว่า 6 ล้านตัน และทำให้จนถึงกลางปี 2560 จะระบายข้าวสต๊อกออกไปได้ทั้งหมด
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,171 วันที่ 3 - 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2559