หยิบเงิน หยิบทอง By Maybank Kim Eng

28 มิ.ย. 2559 | 03:20 น.
อัปเดตล่าสุด :28 มิ.ย. 2559 | 10:58 น.
ตลาดหุ้นไทยวานนี้

SET INDEX วานนี้ฟื้นตัวสวนทางกับภาพรวมในเอเชีย และทะลุผ่าน 1,420 จุดขึ้นไปด้วยแรงผลักดันกลุ่มหลักอย่างกลุ่มธนาคาร / อสังหาฯ / วัสดุก่อสร้าง ปิดตลาด SET INDEX บวกทั้งสิ้น 11.12 จุด มาอยู่ที่ 1,424.31 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 44,786 ล้านบาท

กระแสเงินทุนต่างชาติยังคงชะลอตัว ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เพียง 1,324 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 747 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 เพียง 2,000 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้

•เงินทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดเงินตลาดทุนไทยเบาบางต่อเนื่อง

•ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปีลดลงแรงต่อเนื่อง วานนี้ลดลง 7.80bps ปิดที่ 2.028% สะท้อนกลับมายังหุ้นปันผล / กองทุน Property Fund / REIT / IFF เป็นบวกตามไปด้วย แต่กดดันหุ้นประกันชีวิต

•ตลาดหุ้นต่างชาติเริ่มทรงตัวดีขึ้น หลังปรับฐานลงตลอด 2 วันทำการที่ผ่านมา

•นายกฯ อังกฤษยืนยันไม่มีการลงประชามติรอบที่ 2 ต่อกรณี Brexit หรือ Bremain

•S&P ลดอันดับอังกฤษลง 2 ขั้น ส่วน Fitch rating ปรับลด 1 ขั้น

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 24)

เราประเมิน SET INDEX จะกลับมาแกว่งในกรอบแคบระหว่าง 1,415-1,430 จุด ด่าน 1,430 จุดยังไม่น่าผ่านในรอบการฟื้นตัวครั้งนี้ แม้ว่านักลงทุนต่างชาติจะขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นไปอย่างจำกัดก็ตาม แต่เม็ดเงินใหม่ที่จะผลักดัน SET INDEX ให้ผ่านด่านดังกล่าวเป็นไปอย่างจำกัด ขณะเดียวกัน SET INDEX จะยังไม่ปรับฐานลงแรง เพราะมี Window Dressing ในสัปดาห์นี้มาช่วยประคองหุ้นหลัก

สำหรับประเด็น Brexit ต่อภาวะการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก เราเชื่อว่าจะซึมซับไปมากแล้ว ตลาดหุ้นใน DM น่าจะเริ่มทรงตัวถึงฟื้นตัวลักษณะ Technical rebound รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างน้ำมันที่มีแนวโน้มฟื้นตัวทดสอบ US$50/barrel สำหรับ NYMEX ช่วยให้ภาวะความตึงเครียดต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงคลายตัว

อย่างไรก็ตาม เราแนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้จำกัด หรือหาที่พักเงิน หุ้นปันผล / กองทุน Property Fund / REIT / IFF น่าจะเป็นทางเลือก เพราะแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั่วโลกเปลี่ยนจากทรงตัวถึงปรับขึ้นเป็น ทรงตัวถึงปรับลง จากความไม่แน่นอนกรณี Brexit เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มดังกล่าว แต่จะเป็นประเด็นลบต่อหุ้นประกันชีวิต

กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำให้นักลงทุนเริ่มทยอยขายทำกำไรบริเวณ 1,430 จุด +/- เพื่อรอจังหวะเข้าเก็งกำไรเมื่อ SET INDEX ย่อตัว

Strategy of the Day

1.สะสม CK : ราคาปิด 27.50 บาท ราคาเหมาะสม 34.00 บาท

a)MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากเป็นกลุ่ม Domestic Play จึงได้รับผลกระทบจำกัดจากกรณี BREXIT

b)มีปัจจัยบวกรออยู่ในเดือน ก.ค. คือ การขายซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม จำนวน 6 สัญญา มูลค่า 7.6 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่า CK จะเป็น 1 ในตัวเต็งที่ได้งานอย่างน้อย 1 สัญญา เนื่องจากเป็นบริษัทรับเหมาขนาดใหญ่และมีความเชี่ยวชาญงานรถไฟฟ้า

c)ราคาหุ้น  Laggard โดย YTD ยังลดลง -5.2% เทียบกับ SET INDEX +10.5% และเชื่อว่าราคาหุ้นควรจะขยับขึ้นตามบริษัทลูกที่ Outperform ไปก่อนหน้า ได้แก่ CKP +48%, BEM +31% ส่งผลให้ NAV จากการถือหุ้นใน CKP, BEM, TTW คิดเป็นมูลค่า 27.00 บาทต่อหุ้น CK

2.สะสม PS : ราคาปิด 24.90 บาท ราคาเหมาะสม 35.00 บาท

a)MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่ม Property ที่ Valuation ถูก และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง จะ Outperform ตลาดได้ เนื่องจากเปรียบเสมือน Safe Haven ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากกรณี BREXIT

b) Presales เดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น +8% mom เป็น 4,151 ล้านบาท และ 5M59 เท่ากับ 17,822 คิดเป็นเป้าหมาย 35% ของบริษัทที่ 51,000 ล้านบาท  โดยจะมีการเปิดโครงการใหม่ใน 2H59 เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว

c)ยัง Laggard โดย 1 เดือนที่ผ่านมากลุ่ม Property +5.1% เทียบกับ SET INDEX +1.6% ขณะที่ PS -1.4% สวนทางหุ้นในกลุ่ม เช่น AP+22.7%, QH +12.6%, SIRI +11.8% และ SPALI  +12.9% เนื่องจาก PS จะทำการ Delist หุ้นออกจากตลาด และแลกหุ้นบริษัท Holding เข้าจดทะเบียนแทน ในช่วง คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ย. จึงเป็นโอกาสสะสม เนื่องจาก PER2559 ต่ำเพียง 7.3 เท่า และให้ Dividend Yield สูงถึง 6.8%

ที่มา : Maybank Kim Eng