โตชิบา ปั้นแบรนด์ REGZA ชิงแชร์ตลาดทีวี 3 หมื่นล้าน

27 พ.ค. 2565 | 02:29 น.

โตชิบา ทีวี เดินหน้ารุกชิงแชร์ตลาดทีวี 3 หมื่นล้านเมืองไทย ส่งซีรีส์ใหม่ 6 รุ่น ตอบรับไลฟ์สไตล์นิว นอร์มอล พร้อมตั้งเป้ากวาดยอดขาย 330 ล้านบาทในปีนี้ ก่อนเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ 10% ภายในปี 2569

นายเจสัน ซู ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปส่วนงานปฎิบัติการต่างประเทศ TVS REGZA Corporation Japan เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมของตลาดทีวีในประเทศไทย ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท จะอยู่ในภาวะค่อนข้างอิ่มตัว และมีการเติบโตเฉลี่ย 3% ต่อปี เนื่องจากภาคเศรษฐกิจที่หดตัวจากผลกระทบของวิกฤติโควิด-19 ภายในประเทศ

 

และวิถีชีวิตของคนในสังคมที่เข้าสู่ยุค “Mobile First” เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลาผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต เมื่ออยู่นอกบ้านและภายในบ้าน ซึ่งกลายเป็นความท้าทายครั้งใหม่ของแบรนด์ผู้ผลิตทีวีเพื่อที่จะผลักดันให้ตลาดทีวีเติบโตต่อไปได้

ผู้บริหารโตชิบา ทีวี

ขณะที่ตลาดสมาร์ททีวี ซึ่งมีสัดส่วนตลาดราว 50% ของตลาดทีวีทั้งหมดในกลุ่มยุโรป อเมริกา และสิงคโปร์ ส่วนในไทยสมาร์ททีวี ยังมีสัดส่วนราว 25% ของมูลค่าตลาดทีวีในไทย ทำให้โตชิบา ทีวี พร้อมที่จะมาบุกตลาดทีวีไทยเชิงรุกตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ด้วยแผนการตลาดที่ครบเครื่อง เริ่มจากการนำ “โตชิบา ทีวี” สมาร์ททีวีสุดล้ำรุ่นล่าสุด ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี REGZA ครบครันด้วยภาพและเสียงระดับโรงภาพยนตร์ เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดทีวีพรีเมียม

 

“สมาร์ททีวีที่มาพร้อม “นวัตกรรม” ปัจจุบันมีการพัฒนาไปไกล เติมเต็มความสมบูรณ์แบบจากการดึงคอนเทนต์บนมือถือหรือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมารับชมผ่านจอทีวีที่มีขนาดใหญ่ ด้วยเทคโนโลยีภาพและเสียง REGZA ซึ่งเป็นตัวย่อของคำว่า “Real Expression Guaranteed by amazing Architecture แทนความหมายถึงความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ของโตชิบา ทีวี ที่จะนำเสนอเฉพาะโซลูชันที่ดีที่สุด

 

จึงให้ภาพที่มีความความคมชัดระดับ 4K และเสียงที่สมจริงประหนึ่งอยู่ในโรงภาพยนตร์ พร้อมเทคโนโลยีระดับไฮเอนด์และคุณสมบัติอัจฉริยะอีกมากมาย ทำให้ได้อรรถรสความบันเทิงมากกว่า ในราคาที่คุ้มค่าและเข้าถึงได้ง่าย โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขาย 330 ล้านบาท"

 

โตชิบา ทีวี พร้อมแนะนำ ไลน์อัพผลิตภัณฑ์ใหม่รวม 6 รุ่นด้วยกัน เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค หลังจากนโยบายการเปิดประเทศและการกำหนดให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นในปีนี้ เป็นปัจจัยเชิงบวกสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

โตชิบา ทีวี

รวมถึงการส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจโลก ประกอบกับการที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทยอยฟื้นตัว และการขยายตัวของความเป็นเมือง (Urbanization) จะส่งผลดีต่อ “โตชิบา ทีวี” ในการปลุกกระแสความต้องการของผู้บริโภคในตลาดทีวีอีกครั้ง

              

ด้านนายทัตสึฮิโระ นิชิโอกะ ผู้จัดการด้านภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์โตชิบา ทีวี, Toshiba TV Global TVS REGZA Corporation กล่าวว่า โตชิบา ทีวี ได้สร้างนวัตกรรมเพื่อเปิดโลกใหม่แห่งความบันเทิง อาทิ ทีวีกรอบจอคู่ (double-window) การชมแบบปรับเวลา (time-shift viewing) การชมภาพ 3 มิติแบบไม่ต้องใช้แว่นตา (glasses-free 3D) และอัลตร้าเอชดี 4 เค (UltraHD 4K)

 

เพื่อมอบประสบการณ์รับชมภาพในบ้านที่เสมือนนั่งชมในโรงภาพยนตร์ ทั้งนี้โตชิบา ทีวี แบรนด์ REGZA สามารถคว้าส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในตลาดญี่ปุ่นช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม พ.ศ.2565 ดังนั้นบริษัทจึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าทีวีรุ่นใหม่ที่เปิดตัวนี้จะตอบโจทย์ยุคนิวนอร์มอลได้เป็นอย่างดี

 

ในปี 2561 ตลาดสมาร์ททีวีทั่วโลกมีมูลค่า 152.96 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะสูงถึง 288.71 พันล้านดอลลาร์ในปี 2568 โดยมีการเติบโตเฉลี่ยสะสม 9.5% ตลอดระยะเวลาคาดการณ์ตามผลสำรวจของ Nielsen นอกจากนี้ยังพบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมา

โตชิบา ทีวี

มีแนวโน้มในการใช้สมาร์ททีวีเพื่อหลากหลายจุดประสงค์มากขึ้น ไม่เพียงแค่รับชมข่าวสาร แต่ยังมีบริการสตรีมมิ่งต่าง ๆ จากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทีวี อีกทั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังทำให้ใครหลายคนจำเป็นต้องทำงานจากที่บ้าน (WFH)

              

ด้านนายพงษ์เทพ ศิริสกุลเวโรจน์ ผู้จัดการอาวุโสแผนกขายผลิตภัณฑ์ทีวี, TVS REGZA Corporation Thailand Office กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 70 ปี บริษัทจึงขยายไลน์อัพโตชิบา ทีวี ประจำปีนี้มีรุ่นใหม่ถึง 6 รุ่น ได้แก่ X990 ซีรี่ส์ Z770 ซีรี่ส์ M550 ซีรี่ส์ C350 ซีรี่ส์ V35 ซีรี่ส์ และ S25 ซีรี่ส์ โดยโตชิบา ทีวี ตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดไว้ที่ 10% ภายในปี 2569

 

โดยจะมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 4% ในปี 2567 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทั้งยอดขายและส่วนแบ่งตลาด บริษัทจะดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดที่ช่วยกระตุ้นการซื้อ ด้วยงบประมาณการตลาด 5% ของยอดขาย การนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคสู่ตลาด

              

การขยายช่องทางการขาย ส่งเสริมแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและสร้างการรับรู้แบรนด์ให้ดียิ่งขึ้นผ่านโซเชียลมีเดีย รวมถึงรีวิวโดยนักอินฟลูเอนเซอร์ และการชูจุดแข็งขององค์กรให้แพร่หลายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังชูกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ในฐานะผู้สนับสนุนการแข่งขันฟุตบอล FIFA World Cup 2022 อย่างเป็นทางการ และฉลองครบรอบ 70 ปี ของโตชิบา ทีวี เพื่อให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มเป้าหมาย”

 

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,786 วันที่ 26 - 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2565