โตชิบา ท้าชิงเบอร์ 1 แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่นในไทย

โตชิบา ไทยแลนด์ เปิดแผนรุกหนักปี 65 ตั้งเป้าโตต่อเนื่อง 2 ดิจิต และเป็นที่หนึ่งในสินค้ากลุ่มตู้เย็น เปิดตัวสินค้าใหม่ 50 รุ่น เดินหน้ารุกตลาดระดับกลางถึงไฮเอนด์ เน้นการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น  

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับ โตชิบา มองว่าวิกฤตเป็นโอกาส ชีวิตต้องเดินหน้า เพราะฉะนั้นใน2ปีที่ผ่านมาแม้ว่าจะเจอกับสถานการแพร่ระบาดโควิด-19 โตชิบาไม่หยุดที่จะตั้งสติและมองหาวิธีปรับตัวให้สามารถดำเนินธุรกิจไปได้ทั้งเพื่อตัวเองและ partnerทั้งหมด

สิ่งที่โตชิบาสามารถทำได้กลายเป็นโอกาสธุรกิจที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์มากขึ้นเช่นฟังก์ชั่นดูแลสุขภาพ ภายใต้สถานการณ์วัตถุดิบที่ขาดแคลนและการเดินเรือต่างๆที่หยุดชงักแต่โตชิบาก็สามารถวางแผนการดำเนินงานและสามารถก้าวผ่านพ้นมาได้

นอกเหนือจากนั้นสิ่งที่สำคัญในปีที่ผ่านมาที่ โตชิบา ใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาผู้ค้าของเราคู่ค้า เช่นการจัดE-connect ,มีการจัด toshiba webminar เพื่อให้ความรู้กับคู่ค้า รวมทั้งผลักดันให้คู่ค้าเข้าสู่การขายออนไลน์ เพราะฉะนั้น โตชิบา จะมีช่องการขายมากขึ้นและมีดีลเลอร์ที่ยังแข็งแรงส่งผลให้โตชิบาสามารถเติบโตมากกว่าตลาดได้

ในปีนี้สถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอนแต่ โตชิบา มีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจปีนี้จะค่อยๆดีขึ้น และมีการวางแผนแบบไม่ประมาท การ์ดไม่ตก โดย โตชิบา มีการวางแผนการตลาดและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆรวมทั้งการบริหารงานหลังบ้าน และสิ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือเรื่องของการบริการหลังการขาย โลจิสติกส์ เพื่อให้เกิดความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว ความถูกต้องและมีประสิทธิภาพ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้โตชิบายังไม่หยุดในเรื่องของการพัฒนา ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับคู่ค้าของแบรนด์ แต่ทำให้คู่ค้ายังไม่หมดใจ เพราะโตชิบาเชื่อว่าพระอาทิตย์ยังขึ้นใหม่ได้เสมอในวงการเครื่องใช้ไฟฟ้า

“เป้าหมายของ โตชิบา ในปีนี้ ระยะสั้นของปีนี้เราต้องการที่จะเติบโตดับเบิ้ล ดีจิต ซึ่งก็หวังว่าเราจะเติบโตมากกว่าตลาดโดยรวม 2 เราจะคงความเป็นที่หนึ่งของผู้นำตู้เย็น ซึ่งเราเป็นผู้นำของตู้เย็น 1 ประตูและตอนนี้เราพร้อมที่จะครองความเป็นที่หนึ่งของตู้เย็นอีกหลายประเภท ส่วนเป้าหมายระยะยาวเราต้องการที่จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ายอดขายTop 3 ในใจผู้บริโภคและตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า และเป็นอันดับ 1แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่น ซึ่งเราเชื่อว่าสามารถทำได้เพราะนวัตกรรมที่เรามีไม่หยุดยั้งเรามี research and development ที่สร้างความแตกต่างบนมาตรฐานความเป็นญี่ปุ่นของเรา ซึ่งจะเน้นถึงความเข้าใจของผู้บริโภคทั้งในแง่ของการตอบโจทย์ความสะอาดสุขภาพและ wellness รวมไปถึงเรื่องของดีไซน์ที่ทันสมัยกับเด็กรุ่นใหม่

ในส่วนการพัฒนาทีมงานของเราให้เติบโตไปด้วยกัน ทีมงานของเราต่อไปจะไม่ใช่แค่เป็นพนักงานขายแต่ต้องเป็นพนักงานที่สามารถเล่าเรื่องราวและให้คำปรึกษาแก่ผู้บริโภคได้ ด้าน social media และออนไลน์เราจะต้องเข้าถึงคนในยุคปัจจุบันและอนาคตได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามในเวลาที่เปลี่ยนไปจุดยืนของ โตชิบา จะไม่เปลี่ยนแปลงคือปรัชญา “นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” ยังคงเป็นสิ่งที่เราทำมาอย่างต่อเนื่องและจะทำอย่างเข้มข้นมากขึ้น ผ่านแคมเปญ #Details Matter ซึ่งจะตอบโจทย์ปัญหาสภาพแวดล้อมและวิกฤตที่เกิดขึ้น”

ด้านนายฮิโรยูกิ ทากาเสะ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า “ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าประเทศไทยในปี 2564 ที่ผ่านมา มีมูลค่าการตลาดประมาณ 80,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตคงที่ เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดต่อเนื่องยาวนาน ที่ส่งผลให้การบริโภคไม่ดีเท่าที่ควร บวกกับปัจจัยเสริม อาทิ ภูมิอากาศไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ สภาพเศรษฐกิจที่ไม่เติบโต  รวมไปถึงค่าครองชีพที่แพงขึ้น

ในส่วนของ โตชิบา ไทยแลนด์ เอง ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย เติบโตกว่าตลาด โดยมีอัตราการเติบโตภาพรวมสูงถึง 17% ถ้าแยกดูแต่ละหมวด จะพบว่าสินค้ากลุ่ม Major Appliance โตประมาณ 18% และกลุ่ม Small Appliance โตประมาณ 15% และหากมองในแง่ Online กับ Offline จะพบว่าเติบโตทั้งคู่ แต่การขายสินค้าผ่าน Online มีเปอร์เซ็นต์การเติบโตที่สูงกว่า Offline

สำหรับทิศทางของบริษัทฯ เป้าหมายระยะยาว คือ ต้องการเป็น Top 3 แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่มียอดขายสูงสุดในประเทศ และเป็น No.1 แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่น สำหรับเป้าหมายระยะสั้น ปีนี้ต้องการยอดขายเติบโตต่อเนื่อง 2 ดิจิต และต้องการเป็น No.1 ในหมวดตู้เย็น และท้ายที่สุด คือการสร้างแบรนด์ให้มีภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัยและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น ให้ตอบรับกับผู้บริโภคกลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ Young Generation

กลยุทธ์การตลาดในปีนี้ บริษัทฯ เน้นในเรื่อง 1) เรื่องการเพิ่มจำนวนไลน์อัพสินค้าใหม่ให้มีความหลากหลาย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงความใส่ใจในรายละเอียด 2) การเน้นการทำตลาดแบบดิจิทัล หรือ Digital Marketing มากขึ้น เพื่อตอบรับกับเทรนด์ดิจิทัลที่เติบโตต่อเนื่อง และ 3)การบริหารคลังสินค้า ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่ทำให้สินค้าพร้อมสำหรับการส่งต่อให้ผู้บริโภค   

สำหรับสินค้าใหม่ ปีนี้ บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ 50 รุ่น โดยแบ่งเป็นตู้เย็น 13 รุ่น เครื่องซักผ้า 11 รุ่น และสินค้ากลุ่ม Small Appliance อาทิ ไมโครเวฟ หม้อหุงข้าว เครื่องฟอกอากาศ เครื่องดูดฝุ่น     ตู้กดน้ำ รวม 26 รุ่น ทั้งนี้ จะเน้นไปที่สินค้ากลุ่ม Middle to High และ IoT มากขึ้น ส่วนการทำตลาดแบบ Digital Marketing เป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกและประเทศไทยมีการเติบโตที่สูงขึ้นมาก โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมากับสถานการณ์โควิดที่เร่งให้มีการรับรู้ เข้าถึงสินค้า รวมถึงการสั่งซื้อผ่านช่องทางดิจิทัล และอีคอมเมิร์ซที่มากขึ้น ในปีนี้ โตชิบา ไทยแลนด์ทุ่มงบการทำตลาดดิจิทัลมากขึ้นจากอัตราส่วนเดิม 16% เป็น 22% โดยเริ่มจากการพัฒนาเว็บไซต์โตชิบาให้ทันสมัย ข้อมูลครบถ้วน และใช้งานง่ายยิ่งขึ้น การให้ความสำคัญกับการสร้าง Content รวมถึงรีวิว เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ของโตชิบาผ่านช่องทางโซเชียลและออนไลน์ แพลทฟอร์มได้ง่ายและมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างฐานแฟนเพจ รวมถึงการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งบนเฟซบุ๊ก อินสตราแกรม ไลน์ ยูทูป และติ๊กต็อกของโตชิบามากขึ้น สำหรับเรื่องการบริหารคลังสินค้า เป็นการสร้างรากฐานเพื่อให้พร้อมกับการเติบโตของโตชิบาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บริษัทฯ ได้ย้ายคลังสินค้าไปที่แห่งใหม่ ซึ่งมีพื้นที่มากถึง 24 ไร่ มากกว่าเดิมประมาณ 2 เท่า และในส่วนของพื้นที่การจัดเก็บ เพิ่มขึ้นถึง 75% รวมถึงนำเทคโนโลยีใหม่จากประเทศญี่ปุ่นมาใช้ในการบริหารพื้นที่ และการจัดเก็บให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นางสาวธัญปภัสส์  อริยะวรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวถึงสินค้าใหม่ที่เปิดตัวในวันนี้ว่า โตชิบา ไทยแลนด์ จะเน้นทำการทำตลาดสินค้าในกลุ่มระดับ Mid to High มากขึ้น ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องดีไซน์ที่สวยงามหรูหรา และรวมคุณสมบัติพิเศษมากมายที่สามารถแก้เพนพอยต์จากการใช้งานในชีวิตจริงไว้ทั้งหมดในเครื่องเดียว ที่สำคัญต้องประหยัด ลดค่าใช้จ่ายในครอบครัวให้กับลูกค้าได้