แม็คโครประกาศ ดึงคนรุ่นใหม่ร่วมงานอีก 3,300 ตำแหน่ง รุกหนักอีคอมเมิร์ซ

29 เม.ย. 2565 | 07:23 น.

กลุ่มธุรกิจแม็คโคร ลุยสร้างงาน-สร้างคน หนุนการขยายสาขาและธุรกิจดิจิทัล วางกลยุทธ์พัฒนาบุคลากร สร้างงานใหม่กว่า 3,300 ตำแหน่ง รุกหนักอีคอมเมิร์ซ

 

นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจแม็คโคร เผยว่า ด้วยพันธกิจในการขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีกในภูมิภาคเอเชีย กลุ่มธุรกิจแม็คโคร มุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ และมีการขยายตำแหน่งงานเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ  โดยปีนี้มีแผนการเปิดตำแหน่งงานใหม่เพิ่มกว่า 3,300 ตำแหน่ง โดยเฉพาะในสายงาน O2O อีคอมเมิร์ซ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจดิจิทัล ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะสร้าง New S-Curve ให้กับองค์กร นอกจากนี้ยังเป็นการดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่จะช่วยผลักดันองค์กรให้ขับเคลื่อนสู่การเป็นองค์กรค้าส่งค้าปลีกยุคใหม่ (New Retail)

 

ธานินทร์  บูรณมานิต

 

“กลุ่มธุรกิจแม็คโครมีความต้องการบุคลากร เพื่อรองรับการขยายสาขาและธุรกิจดิจิทัลอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบุคลากรที่เป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านอีคอมเมิร์ซ และดิจิทัล ดังจะเห็นได้จากการที่ แม็คโครได้รับการจัดอันดับจากจ๊อบไทย (Job Thai) ในปี 2564 ว่าเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีคนรุ่นใหม่สนใจร่วมงานมากที่สุด ”นายธานินทร์ กล่าว

 

แม็คโครประกาศ ดึงคนรุ่นใหม่ร่วมงานอีก 3,300 ตำแหน่ง รุกหนักอีคอมเมิร์ซ

 

พร้อมกันนี้ยังได้วางยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากร ด้วยการพัฒนาทักษะเดิม (Upskill) และเพิ่มเติมทักษะใหม่ (Reskill) พร้อมกับวางแผนการพัฒนาทีมผู้บริหารเชิงรุก เพื่อรองรับกลยุทธ์การเติบโตอย่างต่อเนื่องและมุ่งเป้าสู่การเป็นธุรกิจค้าส่งค้าปลีกชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย

 

นอกจากการพัฒนาบุคลากรให้มีความเก่ง มีทักษะรอบด้านแล้ว  กลุ่มธุรกิจแม็คโครยังยึดถือแนวทางสำคัญในการพัฒนาบุคลากรของเครือเจริญโภคภัณฑ์(เครือซีพี) ที่เน้นเรื่อง การทำเร็วและมีคุณภาพ ทำเรื่องยากเป็นเรื่องง่าย ยอมรับการเปลี่ยนแปลง สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ซื่อสัตย์และมีคุณธรรม รวมถึงหลัก 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืน คือ ทำเพื่อประเทศชาติ ชุมชน สังคม และองค์กร

 

แม็คโครประกาศ ดึงคนรุ่นใหม่ร่วมงานอีก 3,300 ตำแหน่ง รุกหนักอีคอมเมิร์ซ

 

ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจแม็คโคร มีการดำเนินงานใน 10 ประเทศทั่วโลก โดยกลุ่มค้าส่งแม็คโครมีสาขาทั้งหมด 153 สาขา ส่วนกลุ่มค้าปลีกโลตัส มีจำนวนสาขาในไทยมากกว่า 2,300 แห่ง ในมาเลเซีย 64 แห่ง ซึ่งยังคงมีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการขยายแพลตฟอร์มดิจิทัลในตลาดอีคอมเมิร์ซ อย่าง maknet  แอปพลิเคชั่น B2B มาร์เก็ตเพลสที่เป็นตลาดค้าส่งออนไลน์,แม็คโครคลิก  และ Lotus’s แอปพลิเคชั่น