เทรนด์รักษ์โลกแรง Dow มุ่งเป้าลดโลกร้อน แก้ปัญหาขยะ

29 ต.ค. 2564 | 05:51 น.

Dow Pack Guru ชี้อนาคตเทรนด์บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกมาแรง เร่งปรับกลยุทธิ์หนุนวงจรรีไซเคิล สร้างบรรจุภัณฑ์นวัตกรรมลดโลกร้อน แก้ปัญหาขยะและสร้างความยั่งยืน

บรรจุภัณฑ์ในยุคนี้นอกจากคำนึงถึงเรื่องความทนทานและความสวยงามแล้ว ยังต้องตอบโจทย์ของความยั่งยืนที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ซึ่งกลายเป็นพันธกิจสำคัญสำหรับบริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ทั้งหลายที่จะต้องร่วมกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อช่วยกันสร้างบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก

 

ปัจจุบันผู้ประกอบการหันมาสนใจเรื่องการพัฒนาบรรจุภัณฑ์แบบยั่งยืนเกือบ 99% จึงทำให้กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ผู้นำด้านวัสดุศาสตร์ เล็งเห็นความสำคัญของการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อมาพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในอนาคต โดย Dowมีนักวิจัยมากถึง 7,000 คนทั่วโลกเพื่อค้นคว้าวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

นางสาวชมพูนุช จันทร์บัว Marketing Development Manager เปิดเผยว่าบรรจุภัณฑ์ในอนาคตนอกจากจะต้องมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ในเรื่องของการป้องกันสินค้าที่อยู่ภายในไม่ให้เสียหาย สามารถช่วยยืดอายุของอาหาร มีรูปแบบสวยงาม และสามารถนำไปใช้งานได้ง่าย สะดวกสบายแล้ว ยังมีอีกเทรนด์ที่กำลังมาแรงที่ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ต้องให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นคือการออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์แบบรักษ์โลก โดยเริ่มตั้งแต่ออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อให้สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ง่าย หรือบรรจุภัณฑ์ที่ใช้เม็ดพลาสติกในการผลิตน้อยลงแต่ยังคงความแข็งแรงได้ดีดังเดิม รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นต้น

 

ทั้งนี้ Dow ได้กำหนดเป้าหมายและขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง ใน 2 พันธกิจหลัก โดยมุ่งเน้นในการลดคาร์บอนเพื่อลดโลกร้อนเพื่อให้บรรลุสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็น zero carbon และการกำจัดขยะพลาสติกในสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นหยุดขยะพลาสติกไปจนถึงการส่งเสริมวงจรรีไซเคิลเพื่อเพิ่มผลกระทบในเชิงบวกต่อสังคม ลูกค้า และธุรกิจของ Dow

 

“ปัจจุบันนี้เรื่อง Future Packaging เป็นเรื่องไม่ไกลตัวเราอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้เราต้องช่วยกันลดผลกระทบที่เกิดจากก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้โลกร้อนขึ้น ดังนั้นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้งานในปัจจุบันจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวให้เป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกมากขึ้น”

ด้านนายอนุรักษ์ รัศมีอมรวิวัฒน์ Technical Service and Development &Climate Change Specialist ได้กล่าวเสริมว่า “ปัจจุบันมีความท้าทายเรื่องความยั่งยืนของบรรจุภัณฑ์อยู่ 2 เรื่อง คือทำอย่างไรให้เกิดการหมุนเวียนนำกลับมาใช้ซ้ำหรือเรียกว่าการกำจัดซากด้วยวิธีการที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ส่วนอีกเรื่องคือภาวะโลกร้อนที่โลกกำลังให้ความสำคัญกับการลดคาร์บอน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดก๊าซเรือนกระจก”

 

สำหรับวงจรของบรรจุภัณฑ์ที่มีการหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ได้นั้นมีอยู่ 3 ขั้นตอนคือ 1) การออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 2) การจัดเก็บบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วกลับเข้ามาในวงจรรีไซเคิล และ 3) การนำวัสดุที่มีสัดส่วนของวัสดุที่ได้มาจากกระบวนการรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์อีกครั้ง

 

“Dow มีผลิตภัณฑ์ของเม็ดพลาสติกมากมายเพื่อเป็นโซลูชันให้ทั้งเจ้าของแบรนด์สินค้า (brand owner) และโรงงานแปรรูปพลาสติก (converter) เลือกนำไปใช้พัฒนาบรรจุภัณฑ์สินค้าให้สามารถรีไซเคิลได้ 100% นอกจากนี้ Dow ยังมีนวัตกรรมเม็ดพลาสติกรีไซเคิลซึ่งผลิตจากกระบวนการ Mechanical Recycling ซึ่งได้รับรางวัลRingier Technology Innovation Awards”

 

นายรังสรรค์ เชาว์สุวรรณกิจ Technical Service Manager ได้กล่าวถึงแนวโน้มการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่นำเสนอโซลูชันใหม่ ๆ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าว่า “เทรนด์ที่ลูกค้าสนใจคือการทำฟิล์มบรรจุภัณฑ์ที่บางและแต่ยังคงความแข็งแรงเหมือนเดิม รวมทั้งการนำ PCR (post-consumer recycled) Resin ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติกที่มีส่วนผสมของพลาสติกที่ผ่านการใช้งานจากผู้บริโภคในสัดส่วน 40% สามารถนำมาผลิตเป็นฟิล์มหดรัดสินค้าที่ยังคงคุณสมบัติเทียบเท่ากับฟิล์มที่ทำมาจากเม็ดพลาสติกใหม่ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้เม็ดพลาสติกใหม่แล้ว จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 17% และประหยัดพลังงานได้กว่า 30% โดยประมาณ (ขึ้นอยู่กับปัจจัยประกอบ) ซึ่งช่วยให้ โรงงานแปรรูปพลาสติก (converter) เจ้าของแบรนด์สินค้า (brand owner) และบริษัทค้าปลีก( Retailer) บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของตนเองได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการช่วยหาทางออกวิธีใหม่ให้กับพลาสติกใช้งานแล้ว เพื่อไม่ให้ต้องกลายมาเป็นขยะ

 

 

ดร.ธวัชชัย ตุงคะเวทย์ Senior Technical Service and Development Specialist กล่าวถึงหน่วยงาน Application Development Center ของ Dow ที่ทำหน้าที่ออกแบบและคิดค้นนวัตกรรมด้าน Flexible Packaging เพื่อมาตอบโจทย์ของลูกค้าทั้งฟิล์มเมกเกอร์และเจ้าของแบรนด์ เพื่อสร้างความก้าวหน้าในการพัฒนาถุงบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน

“เทรนด์ของผลิตภัณฑ์ประเภท Food and Specialty Packaging เพื่อความยั่งยืนจะเน้นออกแบบจาก Flexible Packaging หรือบรรจุภัณฑ์ที่ประกอบด้วยวัสดุหลายชั้น มาเป็น Mono Material ซึ่งสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทั้งหมดนี้สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน”

 

กรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จของ Dow คือการยกมาตรฐานถุงข้าวสารเป็นถุงข้าวรักษ์โลก ซึ่ง ดร.ธวัชชัยอธิบายเพิ่มเติมว่าในอดีตถุงบรรจุข้าวสารผลิตจากโพลิเมอร์ 2 ชนิด มีความหนา 110 ไมคอน ซึ่งไม่สามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ แต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา Dow ร่วมมือกับ บริษัท CPI บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) และบริษัท พรีแพค ประเทศไทย จำกัด เพื่อพัฒนาถุงข้าวตราฉัตรขึ้นมาเรียกว่า “all PE recycle rice bag ” โดยนำเทคโนโลยี INNATETM ที่ Dow พัฒนาขึ้นมาช่วยทำให้ถุงข้าวมีคุณสมบัติบางลงแต่ยังคงมีความแข็งแรงใกล้เคียงเดิม ข้อดีคือสามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ 100% ช่วยลดการใช้พลาสติก และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์