เร่งกระจายรถโมบาย ลดสูงสุด60%ถึง8 มิ.ย.
“จุรินทร์” นำ พาณิชย์ ส่งรถโมบาย พาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชนกระจายทุกชุมชน ลดสูงสุด 60% วันนี้ - 8 มิ.ย. พร้อมเร่งช่วยผู้พิการจำนวน 8 แสนคน ที่ยังไม่เข้าข่ายเป็นผู้สูงอายุ ให้ได้รับสิทธิ์ในการฉีดวัคซีนในลำดับต้นๆ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากทีกระทรวงพาณิชย์นำรถโมบายพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ซึ่งดำเนินโครงการมาแล้ว 3-4 วัน โดยนำสินค้าราคาถูกไปจำหน่ายตามชุมชนต่างๆ ประมาณ 500 ชุมชน ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล นอกจากนั้นก็จะไปประจำอยู่ตามเขต 30 เขต ของกรุงเทพมหานคร ทุกวัน เพื่อให้ประชาชนสามารถไปจับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้าราคาถูกที่ลดสูงสุดถึง 60% ได้รับการตอบรับที่ดีจากคนในพื้นที่
โดยสินค้าสำคัญที่จำเป็นต่อการดำรงชีพนั้นประกอบด้วย ข้าวสาร ข้าวหอมมะลิ ถุงละ 5 กก. ราคา 120 บาท (กก.ละ 24 บาท) น้ำตาลทราย 1 กก. ราคา 20 บาท ปลากระป๋อง กระป๋องละ 10 บาท น้ำมันพืช ขวดละ 43 บาท นอกจากนั้นยังมี ไข่ไก่ถาดละ 30 ฟอง ถาดละ 83 บาท (ฟองละ 2.77 บาท) ซึ่งจะเป็นรถโมบายขนาดใหญ่ และรถพุ่มพวง จำนวน 730 คัน กระจายทั่วกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชนได้ โครงการนี้มีไปจนถึงวันที่ 8 มิ.ย.นี้
นอกจากนี้ตนในฐานะที่เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการแห่งชาติ ได้กล่าวถึงการดูแลผู้พิการในช่วงโควิดว่า ได้มีการดำเนินการไปแล้วหลายเรื่อง โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ที่เกี่ยวข้องกับโควิด โดยจะมี 2 มาตรการ ประกอบด้วย
มาตรการที่ 1 จะนำเสนอมติของคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการแห่งชาติ ไปยัง ศบค. ในการประชุมนัดครั้งต่อไปเพื่อขอช่องทางพิเศษให้กับผู้พิการได้สามารถฉีดวัคซีนได้ นอกจากที่เปิดโอกาสอยู่ขณะนี้ที่ให้ผู้สูงอายุ บุคลากรทางการแพทย์ อสม. และผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ก็จะได้เสนอให้เพิ่มผู้พิการเข้าไปด้วย เพราะขณะนี้มีผู้พิการจำนวน 8 แสนคน ที่ยังไม่เข้าข่ายเป็นผู้สูงอายุ รวมไปถึงผู้พิการที่มีอายุเกิน 18 ปีด้วย เพื่อให้คนกลุ่มนี้ได้รับสิทธิ์ในการฉีดวัคซีนในลำดับต้นๆ นอกจากนั้นในการดำเนินการฉีดวัคซีน ก็ขอให้เปิดเป็นช่องทางพิเศษเช่นเดียวกับผู้สูงอายุ หรือกลุ่มอื่นๆ
มาตรการที่ 2 ได้มีการเร่งรัดให้มีการเปิดโรงพยาบาลสนาม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับผู้ป่วยโควิดที่เป็นผู้พิการ เนื่องจากผู้พิการนั้นมีความหลากหลาย ทั้งตาบอด หูพิการ พิการด้านร่างกาย ก็จำเป็นต้องมีผู้ช่วย ดังนั้นก็อาจทำให้การเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลสนามร่วมกับคนปกติเป็นเรื่องยุ่งยาก จึงควรทำโรงพยาบาลสนามแยกออกมาต่างหาก ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้วที่อุทยานวิทยาศาสตร์ศิรินทร คลองหลวง ปทุมธานี โดยในวันพุธที่ 26 พ.ค. นี้ เวลา 10.00 น. ตนจะนำ คกก. ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการแห่งชาติ ไปติดตามความคืบหน้า และตั้งเป้าว่าจะเปิดให้บริการให้ได้ในวันที่ 1 มิ.ย. ต่อไป
ส่วนมาตรการอื่นๆ เช่นขณะนี้มีผู้พิการประมาณ 5 หมื่นคน ที่บัตรผู้พิการกำลังจะหมดอายุ และหากบัตรหมดอายุจะทำให้ไม่สามารถรับสวัสดิการได้ ดังนั้นจะได้ดำเนินการยืดอายุให้กับบัตรดังกล่าวเป็นเวลา 6 เดือน ให้สามารถใช้ต่อไปได้โดยไม่ต้องไปต่ออายุ
การดำเนินการการพักหนี้ให้ผู้พิการที่เป็นหนี้กองทุนผู้พิการ โดยจะได้ขยายเวลาในการรับสมัครผู้พิการที่ต้องการพักหนี้ จากเดิมที่จะหมดเขตในวันที่ 31 มี.ค. 2564 เป็น 31 มี.ค. 2565 เพื่อให้ผู้พิการที่ต้องการพักหนี้สามารถยื่นเรื่องดำเนินการได้อีก 1 ปี การขยายเวลาให้ผู้พิการขอกู้เงินรายละไม่เกิน 1 หมื่นบาท เพื่อไปประกอบอาชีพโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งเดิมจะหมดอายุในวันที่ 31 พ.ค.นี้ ก็จะขยายเวลาออกไปอีก 4 เดือน ให้ไปหมดเขตวันที่ 30 ก.ย. 2564 ขณะนี้มีผู้ยื่นในมาตรการนี้มาแล้ว 16,709 รายและดำเนินการแก้ไขระเบียบของกองทุน จากเดิมที่การกู้เงินของผู้พิการจะต้องมีบุคคลค้ำประกันเท่านั้น ก็จะเพิ่มโอกาสให้ผู้พิการสามารถเข้าถึงเงินกู้ได้ โดยจะให้องค์กรผู้พิการสามารถเป็นผู้ค้ำประกันได้ด้วย นอกจากนั้นหากเป็นการกู้ฉุกเฉิน ก็ไม่จำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกัน