โควิดเอาไม่อยู่ ทุบจีดีพีไทยวูบ 0.5% ต่อเดือน

21 เม.ย. 2564 | 06:35 น.
อัปเดตล่าสุด :24 เม.ย. 2564 | 06:29 น.

เอกชนชี้โควิดรอบ 3 หากยังเอาไม่อยู่จะกระทบจีดีพีวูบ 0.5% ต่อเดือน กรุงไทยประเมินทั้งปีดีสุดขยายตัวได้ 3% เอสเอ็มอีภาคบริการฝันสลายฟื้นธุรกิจ ทุบซํ้าสภาพคล่อง หอการค้าฯ เตรียมหารือสมาคมธนาคารช่วยอุ้ม ขณะ 45 กลุ่มอุตฯเพิ่มความเข้มข้นป้องกันการระบาดในโรงงาน ห่วงกระทบส่งออกขาขึ้น

การกลับมาระบาดของ โควิด-19 ระลอกใหม่ ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ มีผู้ติดเชื้อนับพันคนต่อวันต่อวันหลังเทศกาลสงกรานต์ เป็นความกังวลของทุกภาคส่วนถึงสถานการณ์และผลกระทบในวงกว้างที่อาจตามมา หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อ จะดับฝัน การขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายปีนี้จะขยายตัวที่ 4% และรัฐอาจต้องใช้ เม็ดเงินเยียวยา อีกมหาศาล

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ผลกระทบโควิด-19 หากยังมีการระบาดในรอบที่ใหม่ยังลุกลามยืดเยื้อจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของจีดีพีไทย 0.5% ต่อเดือน 2 เดือนก็ 1% และหาก 3 เดือนก็กระทบ 1.5% จากที่รัฐบาลตั้งเป้าขยายตัวทั้งปีที่ 4 % และเอกชนและหลายสำนักพยากรณ์คาดขยายตัวที่ 2.5-3% เป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้คงไปไม่ถึง

ขณะเดียวกัน การระบาดของโควิดระลอกใหม่ จะส่งผลกระทบซ้ำเติมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จากที่กำลังจะฟื้นตัวหลังการระบาดในสองรอบแรกคลี่คลาย ทั้งในเรื่องการฟื้นธุรกิจ และการขาดสภาพคล่อง เฉพาะอย่างยิ่งเอสเอ็มอีในภาคบริการ ได้แก่ ท่องเที่ยว โรงแรม ค้าปลีก รวมถึงผู้ประกอบการสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม เสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม เฟอร์นิเจอร์ และอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง

เกรียงไกร  เธียรนุกุล

“ในส่วนของภาคการผลิต โรงงานอุตสาหกรรมเวลานี้ไม่กระทบมาก จากโควิดสองรอบแรกเรามีการเตรียมแผนที่ดี โดยใช้แผน BCP (Business Continuity Plan หรือการวางแผนการผลิตให้มีความต่อเนื่อง)โดยให้ 45 กลุ่มอุตสาหกรรมสมาชิกของ ส.อ.ท. มีการตรวจคัดกรองคนงานและพนักงานก่อนเข้าสถานประกอบการเพื่อป้องกันโควิดอย่างเข้มข้น รวมถึงในเรื่องของระบบโลจิสติกส์ขนส่งต่าง ๆ ก็มีการทำความสะอาดฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ พอเกิดระบาดในรอบ 3 เราก็งัดแผน BCP ขึ้นมาใช้ให้เข้มข้นกว่าเดิม เพื่อไม่ให้การผลิตและส่งออกสะดุดจากเวลานี้การส่งออกฟื้นตัวมีคำสั่งซื้อหลายสินค้าเข้ามามาก เช่น กลุ่มอาหาร เครื่องมือแพทย์ ถุงมือยาง ชุด PPE เป็นต้น ดังนั้นเราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้การใช้กำลังผลิตสะดุด”

โควิดเอาไม่อยู่ ทุบจีดีพีไทยวูบ  0.5% ต่อเดือน

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า การระบาดของโควิดในรอบ 3 ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจโดยเฉพาะเอสเอ็มอีแน่ ล่าสุดคณะทำงานของหอการค้าไทยได้หารือกับตัวแทนธนาคารเพื่อให้ช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินและสภาพคล่อง และในเร็ว ๆ นี้มีนัดหารือกับนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทยเพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป

สนั่น  อังอุบลกุล

“รอบนี้ภาคการส่งออกยังดีอยู่ แต่ภาคบริการยังกระทบต่อเนื่อง รัฐบาลคงต้องเตรียมวงเงินช่วยเหลือเพิ่ม จากเวลานี้รัฐเหลือวงเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจ ตาม พ.ร.ก.กู้เงินอีก 2.4 แสนล้านบาท และอนุมัติในหลักการเพื่อใช้ในโครงการเศรษฐกิจฐานรากที่จะอนุมัติให้ 77 จังหวัดอีก 45,000 ล้านบาท หรือจังหวัดละ 500-700 ล้านบาท การระบาดรอบนี้ยังน่าห่วงหากยืดเยื้อจะกระทบเศรษฐกิจประมาณเดือนละ 1.5 แสนล้าน หาก 3 เดือนก็กว่า 4 แสนล้าน”

ด้าน นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิจัยกรุงไทยคอมพาส ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า หลังเกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอกสาม ทางศูนย์ฯได้ปรับประมาณการเติบโตของจีดีพีไทยเหลือ 1.5-3.0% จากเดิมคาดไว้ที่ระดับ 2.5% ด้วยสมมติฐานภาครัฐนำเม็ดเงินที่มีอยู่ประมาณ 2.5 แสนล้านบาทมาใช้กระตุ้นหรือเยียวยาในช่วงที่เหลือซึ่งอาจประคองจีดีพีทั้งปีเติบโตได้ 3.0% อย่างไรก็ดี รัฐบาลเคยมองจีดีพีปีนี้จะเติบโต 4% แต่พอเกิดการระบาดของโควิดระลอกใหม่ จีดีพีน่าจะเติบโตได้แค่ 3.0%

“ผลกระทบของโควิดระลอก 3 น่าจะทำให้จีดีพีปรับลดลง -1.3% (เดิมคาดไว้ที่ 2.5%) จะเหลือโต 1.2% แต่ปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่สะท้อนการฟื้นตัวดีขึ้นจะสนับสนุนให้การส่งออกของไทยขยายตัวได้ ซึ่งการส่งออกจะส่งผลบวกต่อ จีดีพีราว 0.3% เท่ากับจีดีพีจะตั้งต้นใหม่ที่ 1.5% แต่หากภาครัฐนำเม็ดเงินที่มีอยู่ประมาณ 2.5แสนล้านบาทมาใช้กระตุ้นหรือเยียวยาในช่วงที่เหลือก็จะส่งผลบวกให้จีดีพีดีขึ้นมา 1.5% ดังนั้นปีนี้จีดีพีจะขยายตัวได้ 3.0%”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,672 วันที่ 22 - 24 เมษายน พ.ศ. 2564