การแพร่ระบาดของไวรัสที่เป็น วิกฤต COVID-19 ทำให้วงการธุรกิจอาหารปรับตัวและต้องเร่งคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นเพื่อทดแทน หรือ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ชีวิตได้ดำเนินไปได้ดีขึ้นในอนาคต วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับนวัตกรรม FoodTech ที่ต้องบอกเลยว่า อนาคตอันใกล้นี้มนุษญ์เตรียมโบกมือลาประสบการณ์การบริโภคอาหารแบบเดิมๆ ไปได้เลย เราจะมาอัปเดตโลกธุรกิจอาหารกันว่ามีการปฏิวัติอุตสาหกรรมและสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้บริโภคกันแบบไหนบ้าง?
1. อาหารเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพ PRECISION FOOD DESIGN
แน่นอนว่าคุณอยากแก้ปัญหาสุขภาพ และรู้ไหมว่าปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่ มาจากพฤติกรรมการ “กิน” นั้นเอง จึงเป็นที่มาของเทรนด์นวัตกรรมอาหารที่ออกแบบโดยอาศัยข้อมูลสุขภาพของแต่ละคน เช่น พันธุกรรม อายุ โรค อาการแพ้ ฯลฯ โดยต้องอาศัยข้อมูลทางชีววิทยาจำนวนมาก เพื่อให้สามารถออกแบบมื้ออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอและเหมาะสมต่อความต้องการและสภาวะร่างกายของแต่บะบุคคล นวัตกรรมที่กำลังเป็นที่จับตามอง คือการดีไซน์คอร์สอาหารเพื่อปรับสมดุลในระบบทางเดินอาหาร ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรค และช่วยส่งเสริมให้คนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
2. โปรตีนทางเลือกจากธรรมชาติ PROTEIN ALTERNATIVE
ร่างกายต้องการโปรตีน? แต่คุณรู้ไหมไม่จำเป็นต้องกินแต่เนื้อสัตว์เสมอไป หนึ่งในแหล่งโปรตีนทางเลือกที่นักวิชาการคิดค้นจนประสบความสำเร็จ คือ “โปรตีนที่มาจากผลผลิตทางการเกษตร” หรือที่เรามักได้เห็น ได้กิน ตอนช่วงเทศการกินเจนั้นเอง โดยได้โปรตีนสูงจากถั่วเหลือง ถั่วลันเตา เห็ด ข้าวสาลีและธัญพืช และนำมาแปรรูปเป็นอาหารประเภทต่างๆ เป็นทางเลือกแทนการรับประทานเนื้อสัตว์ได้ เทรนด์การบริโภคผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือกเหล่านี้ ไม่เพียงตอบโจทย์ในแง่ของคุณค่าทางสารอาหาร แต่ยังสามารถจัดการกับภาวะขาดแคลนเนื้อสัตว์ หรือภาวะโรคระบาด ที่เราควบคุมสภาพแวดล้อมไมได้ “โปรตีนทางเลือก” เหล่านี้ จะกลายเป็นอาหารหลักของเราในไม่ช้า
3. อาหารสังเคราะห์ SYNTHETIC FOOD
นับเป็นเรื่องที่หลายองค์กรระโลกกำลังเร่งแก้ปัญหา ความขาดแคลนอาหารหลายประเทศยังคงพบผู้อดยากจำนวนมากที่ไม่มีอาหารบริโภคเลยแม้แต่มื้อเดียว นับเป็นโจทย์ใหญ่ให้กับภาคอุตสาหกรรมว่า ผลิตอาหารให้มากและเร็วขึ้น แต่ยังรักษาคุณภาพและมาตรฐานให้เพียงพอกับโลกเราได้อย่างไร? จึงเกิดเป็นเทรนด์การพัฒนาอาหารสังเคราะห์ (Synthetic Food) โดยอาศัยเทคโนโลยีชีวภาพ เช่น การตัดต่อพันธุกรรม (genetic engineering) การทำปฏิกิริยาทางเคมี ฯลฯ ทำให้สามารถสังเคราะห์สารอาหารที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้จำนวนมาก ในเวลาอันรวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการตามธรรมชาติซึ่งกินเวลานาน ทั้งยังควบคุมคุณภาพการผลิตได้ดีอีกด้วย
4. ระบบออโตเมชัน FOOD SUPPLY CHAIN AUTOMATION
นี่คือวิวัฒนการของโลกอนาคตที่แท้จริง นั้นคือ การใช้หุ่นยนต์ มาทำงานแทนมนุษย์ เพราะหุ่นยนต์ไม่เคยเหนื่อย ไม่มีบ่น และที่สำคัญที่สุดคือไม่ต้องมีการลา ‘ป่วย’ และนี่เป็นที่มาที่ทำให้ อุตสาหกรรมต่างๆ หันมาลงทุนใช้หุ่นยนต์อัจฉริยะในด้านการผลิตวัตถุดิบ จัดการสต๊อกสินค้า ขนย้ายอาหาร ในโรงงานผลิตเพิ่มมากขึ้น และที่เห็นได้ชัดคือการใช้หุ่นยนต์มาทำงานแทนมนุษย์ในร้านอาหาร ยกตัวอย่าง จากประเทศจีน “PuduTech” ที่เริ่มทดลองใช้เบลล่าบอท หุ่นยนต์เจ้าเหมียวที่เสิร์ฟออเดอร์ถึงโต๊ะลูกค้าทดแทนการใช้พนักงานเสิร์ฟ หรือจะเป็นที่อเมริการ้าน “Café X” ที่ใช้หุ่นยนต์ชงกาแฟ แทนการใช้บาริสต้า ซึ่งหุ่นยนต์บาริสต้านี้สามารถชงกาแฟได้รวดเร็วเพียง 20 วินาทีเท่านั้น แม้ว่าหุ่นยนต์เหล่านี้ อาจจะยังอยู่ในช่วงทดลองใช้ แต่ทางสมาพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติ (IFR) ก็มั่นใจว่า หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมอาหาร จะเป็นอนาคตใหม่ให้กับห่วงโซ่การผลิตอาหารอย่างแน่นอน
5. มิติใหม่ของธุรกิจร้านอาหาร RESTAURANTTECH
เทรนด์นวัตกรรมจัดการธุรกิจอาหารที่เรียกว่า RestaurantTech ถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทั้งลูกค้า เช่นลดการเสียเวลาไปต่อแถวจองคิว หมดปัญหาเรื่องพฤติกรรมของพนักงานรับออเดอร์ สะดวกด้วยระบบจ่ายเงินที่ง่าย รวมไปถึงการบริหารจัดการหลังบ้าน เช่น การสั่งวัตถุดิบ การเช็กสต็อก การจัดการคลังสินค้า การบริหารพนักงาน ฯลฯ ขอยกอย่างลักษณะ RestaurantTech ร้านอาหารสตาร์ทอัพจากประเทศสิงคโปร์ ชื่อ “Easy Eat” เมื่อมาถึงร้าน ลูกค้าจะสามารถดูเมนู AR ที่ให้ข้อมูลทั้งคำอธิบายเมนู รวมถึงคุณค่าทางโภชนาการ ผ่านมือถือของตัวเองได้เลย จากนั้นกดสั่งอาหาร และเช็คได้ตลอดว่ารายการอาหารว่าอยู่ในขั้นตอนไหน เมื่อทานเสร็จเลือกชำระเงินออนไลน์ได้เองอีกด้วย
อีกไม่นานเราคงได้เห็นเทคโนโลยี ที่กล่าวมาทั้งหมดในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอันใกล้แน่ๆ