มหกรรมหนังสือฯ คัมแบ็ค ปั้นแอปฯ NOกองดอง กระตุ้นนักอ่าน
ส.ผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ผนึกพันธมิตร จัดมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 ผสานรูปแบบไฮบริดอีเว้นท์ทั้งออนกราวด์และออนไลน์ พร้อมเปิดตัวแอปพลิเคชัน Noกองดอง กระตุ้นนักอ่าน มั่นใจรายได้สะพัด 200 ล้านบาท
นางสาวโชนรังสี เฉลิมชัยกิจ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25” (Book Expo Thailand 2020) ภายใต้แนวคิด Noกองดอง ถือเป็นงานแสดงหนังสือในรูปแบบปกติครั้งแรกหลังจากเกิดสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) บนพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร โดยมีสำนักพิมพ์เข้าร่วม 262 สำนักพิมพ์ รวมกว่า 746 บูท โดยการจัดงานครั้งนี้เป็นการจัดกิจกรรมขึ้นในรูปแบบของไฮบริดอีเว้นท์ (Hybrid Event) ผสมผสานกิจกรรมแบบออนกราวด์ (On Ground) และออนไลน์ (Online) เข้าด้วยกัน ควบคู่ไปกับการใช้เครื่องมือทางการตลาดอื่นๆ ทั้งแบบดิจิทัล Out of Home และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ
“งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน – 11 ตุลาคม 2563 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี และช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.thaibookfair.com ภายใต้กลยุทธ์การตลาดย้อนกลับ หรือ Reverse Marketing โดยกระตุกความคิดคนให้หันกลับมาสนใจในการอ่านมากยิ่งขึ้น ผ่านคอนซ็ปต์ Noกองดอง นักอ่านจะเข้าใจเป็นอย่างดีว่าการดองหนังสือเป็นพฤติกรรมปกติที่เกิดขึ้น เราจะซื้อหนังสือที่ชอบเอาไว้ก่อน มีเวลาอ่านเมื่อไรค่อยว่ากันทีหลัง แต่แคมเปญของเรานั้น อยากให้คนหันกลับมามองกองหนังสือที่มีอยู่ ชวนอ่านให้จบเพื่อมีโอกาสรับรู้ถึงการถ่ายทอดเรื่องราวของนักเขียน แล้วมาเพิ่มกองดองใหม่กันในงานกับหนังสือเล่มใหม่จากนักเขียนคนโปรดกันต่อไป และกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีเวลาอ่านหนังสือเราก็คาดหวังที่จะกระตุ้นให้ได้ใช้เวลาไปกับการอ่านมากขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ สมาคมได้ขยายช่องทางสำหรับการช้อปปิ้งเพื่อตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตในความปกติใหม่ (New Normal) ผ่านทาง www.thaibookfair.com เพราะยุคโควิดแบบนี้ หลายคนเลือกที่จะรักษาระยะห่างทางสังคม แม้ว่าเสน่ห์ของงานหนังสือคือการได้มาเดินอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยหนังสือ การได้พบปะระหว่างนักเขียนและนักอ่าน การได้หยิบชมเล่มที่ถูกใจก่อนตัดสินใจซื้อ หรือการร่วมฟังการถ่ายทอดความคิดจากบรรดานักคิดหลายต่อหลายรุ่นจากเวทีเสวนา แต่ทางเวบไซต์ก็มีโปรโมชั่นน่าสนใจ ดึงดูดไม่แพ้งานออนกราวด์ เพราะร่วมกับมาร์เก็ตเพลสชื่อดังอย่าง Lazada Shopee และ Kerry Express ที่เป็นพันธมิตรทางด้านโลจิสติกส์ที่ดีเสมอมา”
ภายในงาน สมาคมยังได้เตรียมเปิดตัวเวบแอปพลิเคชัน Noกองดอง เพื่อเข้าถึงกลุ่มนักอ่านรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่อยู่กับโลกดิจิทัล โดยการทำงานของเวบแอปฯ นี้ สามารถเก็บสถิติการอ่านของตัวเองจากการสแกนบาร์โค้ดเพื่อนำเข้าข้อมูลหนังสือ สะสมระยะเวลาของการอ่านได้เช่นเดียวกับการสะสมไมล์ของนักวิ่ง เมื่อถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ก็แชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย หรือจะชาเลนจ์ (Challenge) ต่อๆ กันไป หรือจะแชร์โควท (Quote) โดนใจ รีวิวหนังสือที่ชอบสู่นักอ่านคนอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการส่งเสริมการอ่านได้เป็นอย่างดี
“จากการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 48 ในรูปแบบออนไลน์ (Online) เมื่อต้นปีที่ผ่านมาพบว่านักอ่านให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยมียอดผู้เข้าร่วมกว่า 600,000 คน สำหรับงานในครั้งนี้ซึ่งเป็นการกลับมาจัดงานแบบออนกราวด์อีกครั้ง สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ และพันธมิตรผู้จัดงานหวังว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักอ่านตลอดระยะเวลาจัดงาน 12 วัน ซึ่งจัดควบคู่กับแพลตฟอร์ม www.thaibookfair.com โดยจะมีกิจกรรมร่วมกันระหว่างออนกราวด์และออนไลน์ อาทิ การไลฟ์สตรีมมิ่งกิจกรรมจากภายในงานผ่านทางเฟซบุ๊ค Thai Book Fair หรือการเชื่อมโยงแบบ O2O ให้ผู้ที่สั่งซื้อหนังสือจากเวบไซต์มารับในงานได้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานอย่างคึกคักกว่างานที่ผ่านมา รวมทั้งสองรูปแบบของการจัดงานไม่น้อยกว่า 900,000 คน ก่อให้เกิดรายได้ประมาณ 200 ล้านบาท”
สำหรับกิจกรรมภายในงานจะได้พบกับ 7 โซนหนังสือยอดนิยม, นิทรรศการ Art of กองดอง, 3 จุดเช็คอินสำหรับคนชอบถ่ายภาพ, งานเสวนาจากนักเขียนและนักคิดหลากหลายวงการ และโปรโมชั่นส่วนลดต่าง ๆ จากสำนักพิมพ์ สูงสุด 60% ขณะเดียวกันในการช้อปออนไลน์ยังมีโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษรวมกว่า 2.3 ล้านบาท นอกจากนี้ด้าน มาตรการป้องกันไวรัสโคโรน่านั้น ทางสมาคมได้ประสานกับเจ้าของสถานที่ในเรื่องการจัดมาตรการป้องกันตามมาตรฐาน โดยมีการลงทะเบียนและสแกนการเข้าร่วมงานผ่านแอปคลิเคชันไทยชนะ จุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การตรวจวัดอุณหูภูมิร่างกายก่อนเข้างาน และตรวจสอบเมื่อภายในงานมีจำนวนคนที่หนาแน่นมากเกินไป