เซอร์ไพรส์ แพลนบีสร้างบิ๊กโปรเจ็คคอนเสิร์ตมัลติแพลทฟอร์ม

นายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนบี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PlanB เปิดเผยว่า การจับมือครั้งนี้ของแพลนบี จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เอไทม์ มีเดีย และ Goodthings Happen นับเป็นปรากฏการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับวงการสื่อในยุค New Normal กับการสร้างปรากฏการณ์ดนตรีในรูปแบบ Multi Platform รับเช้าวันเปิดเทอม 1 กรกฎาคม นี้  ด้วยโชว์ของศิลปินชื่อดัง บอดี้สแลม, โปเตโต้, ปาล์มมี่ และ เป๊ก ผลิตโชค ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในเมืองไทย โดยผู้ชมจะได้ดูการแสดง  Music Show ผ่านจอดจิทัลของแพลนบี ที่มีอยู่ทั่วกรุงเทพ

สำหรับสื่อจอดิจิทัลแพลนบี นอกจากจะกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพแล้ว จอของแพลนบียังมีประสิทธิภาพในการถ่ายทอดสัญญานออกอากาศคอนเทนต์ต่างๆ ดังนั้น โปรเจคนี้จึงถือเป็นการเปิดตัวให้นักการตลาดยุคใหม่ ได้เห็นถึงศักยภาพของฟังค์ชั่นการใช้จอดิจิทัล ที่พร้อมรองรับไอเดียและเทคนิคการนำเสนอได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งในปีหน้า คนไทยจะได้เห็นปรากฏการณ์การแข่งขันกีฬาโอลิมปิคบนจอขนาดใหญ่ทั่วประเทศไทยด้วย  

นอกจากจอดิจิทัลของ PlanB แล้ว ยังนำเสนอผ่านวิทยุคลื่น GreenWave 106.5 และ 94 EFM รวมถึงช่องทาง live Facebook ทางเพจ GMM Grammy, Atime Showbiz, PlanB, Goodthings Happen และ Chang World ซึ่งจะถ่ายทอดสัญญาณในวันที่ 1 ก.ค.63 ตั้งแต่เวลา 07.30 – 09.00 น. 

นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การนำเสนอในรูปแบบ Multi Platform นี้ ถือเป็นทางเลือกของแบรนด์ ที่ใช้กลยุทธ์ Music Marketing ในการทำการตลาด ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการ Cross Content และสื่อที่เชื่อมโยงกัน

นายสมโรจน์ วสุพงษ์โสธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไทม์ มีเดีย จำกัด ผู้ผลิตรายการวิทยุคลื่นกรีนเวฟ 106.5 MHz และ 94 EFM กล่าวว่า โปรเจคนี้ ทีมเอไทม์โชว์บิซ เป็นผู้จัดทำโปรดักชั่นคอนเสิร์ตทุกอย่างที่จัดเต็มมีความอลังการ ที่เหมือนกับยกเวทีคอนเสิร์ตของเอไทม์โชว์บิซจากฮอลล์คอนเสิร์ตมาไว้ทุกจุดของกรุงเทพผ่านจอ ดิจิทัลของแพลนบีและเพื่อแฟนๆวิทยุของเอไทม์ เราจึงถ่ายทอดเสียงผ่านทั้งสองคลื่นคือ กรีนเวฟและ EFM เรียกว่าเป็นครั้งแรกที่คลื่นวิทยุจะมีภาพประกอบ

ด้านนางสาววัชรี ศิริเวชวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กู๊ดธิงแฮพเพ่น จำกัด กล่าวว่า ในฐานะคอนเท้นท์ครีเอเตอร์ ได้สร้างโปรเจคในรูปแบบ Multi Platform โดยการ Collabation ที่ดึงเอาจุดเด่นของแต่ละพาร์ทเนอร์มารวมกัน ภาพแรกที่ทีมงานคิดคือจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าจอดิจิทัลในท้องถนนมีเสียงดังฟังชัดและคลื่นวิทยุมีภาพเคลื่อนไหวให้เห็นทั่วกรุงเทพ ส่วนคนทั่วประเทศสามารถมีส่วนร่วมได้จาก Facebook Live  ซึ่งมองว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ของรูปแบบการนำเสนอ และโปรเจคนี้นอกจากพาร์ทเนอร์ทั้งสามแพลทฟอร์มแล้ว พาร์ทเนอร์ฝั่งสปอนเซอร์ก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้เกิดโปรเจค Good Morning Bangkok ซึ่งเป็นการนำร่องการตลาดรูปแบบใหม่ๆ ที่เป็นทางถนัดของ Goodthings Happen

สำหรับแบรนด์ที่สนับสนุนที่ทำให้เกิดโปรเจ็คใหญ่ในครั้งนี้ได้แก่ น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง, ผลิตภัณฑ์นมข้นหวานตรามะลิ, รถจักรยานยนต์ฮอนด้าและ ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า จากโตชิบา ที่ร่วมจัดกิจกรรม “Chang Music Connection presents “Good Morning Bangkok” (ช้างมิวสิคคอนเนคชั่น พรีเซ็นต์ “กู๊ดมอร์นิ่ง แบงค็อก”)