‘มิสลิลลี่’ ชูนวัตกรรมรุกหน้ากากอนามัย

นายเรวัต จินดาพล ประธาน บริษัท มิส ลิลลี่ เอ็มดี ซัพพลาย จำกัด บริษัทในกลุ่มมิสลิลลี่ ผู้ให้บริการส่งดอกไม้ระบบออนไลน์ ภายใต้ชื่อ “มิสลิลลี่” (Misslily) เปิดเผยว่า เป้าหมายของบริษัทคือ การก้าวเข้าสู่องค์กรแห่งเทคโนโลยี ทั้งในด้านสินค้าเพื่อสุขภาพ อาหาร และพืชผลการเกษตร โดยที่ผ่านมาบริษัทให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมตู้เก็บและถนอมดอกไม้ สินค้าทางการเกษตร การให้บริการสั่งดอกไม้ผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงนวัตกรรมด้านอาหารพร้อมปรุง (Convennient to cook)

ล่าสุดบริษัทมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์หน้ากากอนามัยแบบทั่วไป ภายใต้แบรนด์ “มิสลิลลี่ ” ด้วยนวัตกรรมการผลิต จากผ้าเมลต์ โบลน (meltblown) นวัตกรรมเทคโนโลยีที่มีคุณสมบัติสามารถกรองอนุภาคนาโนเล็กกว่าไมครอน ทำให้สร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทเริ่มนำเข้าเครื่องจักร วัตถุดิบ และดำเนินการผลิตหน้ากากอนามัยแล้ว คาดว่าสินค้าลอตแรกจะออกวางจำหน่ายได้ในปลายเดือนมิถุนายนนี้

“เบื้องต้นบริษัทใช้งบลงทุนไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทในการนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบ ไม่รวมค่าสถานที่เพื่อเตรียมผลิตหน้ากากอนามัยออกวางจำหน่าย เบื้องต้นเครื่องจักร 1 เครื่องมีกำลังการผลิต 1 แสนชิ้นต่อวัน และในไตรมาส 3 คาดว่าจะสามารถติดตั้งและเดินเครื่องผลิตได้ครบ 4 เครื่อง ทำให้มีกำลังการผลิตเพียงพอกับการจำหน่ายในประเทศ และสามารถส่งออกไปยังต่างประเทศทั้งประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศในแถบยุโรป ซึ่งยังมีความต้องการหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นจำนวนมาก”

นอกจากหน้ากากอนามัยสำหรับผู้ใหญ่แล้ว บริษัทเตรียมพัฒนาหน้ากากอนามัยสำหรับเด็กออกวางจำหน่าย พร้อมขยายไลน์สินค้าให้มีสีสัน หลากหลายขึ้น เพื่อตอบรับกับความต้องการของทั้งสถาบันการศึกษา ครู อาจารย์ นักเรียน รวมถึงตำรวจ และทหารด้วย ขณะเดียวกันจะขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมทั้งในโมเดิร์นเทรด อาทิ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยาสมัยใหม่ และร้านค้าชั้นนำทั่วไป โดยในปีแรกบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขาย 8-10 ล้านชิ้นต่อเดือน

นายเรวัต กล่าวอีกว่า บริษัทได้ทดลองทำตลาดอาหารพร้อมปรุง ภายใต้แบรนด์ “มิสลิลลี่ คิทเช่น” ออกวางจำหน่ายผ่านร้านมิสลิลลี่ คิทเช่น ซึ่งตั้งอยู่ในย่านเสนานิคม มีเมนูให้เลือกกว่า 100 เมนู ราคาเริ่มตั้น 10-100 บาท โดยจัดเตรียมวัตถุดิบครบครันเพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปปรุงและรับประทานได้ทันทีภายใน 3-5 นาที อาทิ แกงเหลือง, หมูฮ้อง, แกงกะหรี่ไก่ภูเก็ต, ข้าวผัดปู เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า ลูกค้าให้ความพึงพอใจและสั่งซื้อสินค้าต่อเนื่องทั้งจากหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ โดยบริษัทมีแผนเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในครึ่งปีหลังของปีนี้

อย่างไรก็ดี ในอนาคตบริษัทวางเป้าหมายก้าวสู่การเป็นโฮลดิ้ง คอมปะนี ประกอบไปด้วย 4 กลุ่มธุรกิจได้แก่ ธุรกิจหน้ากากอนามัย , ธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าวัตถุดิบเพื่อสุขภาพ เช่น ผ้าทำความสะอาดดูดฝุ่น ฯลฯ, ธุรกิจอาหาร, ธุรกิจดอกไม้และเทคโนโลยีด้านพืชผลการเกษตร เช่น ตู้ควบคุมอุณหภูมิ เป็นต้น 

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,583 วันที่ 14 - 17 มิถุนายน พ.ศ. 2563