สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.) ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา รายงานว่า กลุ่ม CP ALL เดินหน้ารุกตลาดโมเดิร์นเทรดเมียนมา โดยเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา Makro ได้เปิดให้บริการ (Soft Opening) เป็นสาขาแรกในประเทศเมียนมา ภายใต้การบริหารของบริษัท Aro Company Limited (Myanmar) และ Aro Commercial Company Limited (Myanmar) นับว่าเป็นกิจการ โมเดิร์นเทรดค้าส่งรายใหญ่ที่ถือครองโดยธุรกิจไทย 100% รายแรกที่เข้ามาขยายกิจการในเมียนมานับตั้งแต่ รัฐบาลเมียนมาได้ออกประกาศให้นักลงทุนต่างชาติสามารถขออนุญาตประกอบธุรกิจค้าปลีก/และค้าส่งใน ประเทศเมียนมาได้ โดยนอกจากเป็น Makro สาขาแรกในเมียนมาแล้ว ยังถือเป็น Makro สาขาที่ 3 ในอาเซียน หลังจากที่ได้ขยายไปยังประเทศ กัมพูชา 2 สาขา คือที่พนมเปญ และเสียมเรียบ
สำหรับห้าง Makro สาขาแรกในเมียนมานี้ ตั้งอยู่ที่ถนน UPPER PAZUNDUANG เขต MINGALAR TAUNG NYUNT TOWNSHIP โดยมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 9 เอเคอร์หรือประมาณ 25 ไร่ โดยแบ่งเป็นส่วนของ พื้นที่อาคาร 60% และลานจอดรถ 40% สามารถรองรับรถยนต์ได้มากกว่า 300 คัน ภายในอาคารห้างแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ พื้นที่ส่วน Supermarket และ Storage ของ Makro ประมาณ 7,700 ตารางเมตร และพื้นที่ Plaza สำหรับให้ร้านค้าภายนอกเช่าประมาณ 2,000 ตารางเมตร ซึ่งมีทั้งร้านอาหารและร้านค้าทั้ง จากไทยและเมียนมาได้เช่าเปิดกิจการเต็มพื้นที่แล้ว เช่น ร้าน Chester Grill และร้านกาแฟ Jungle ซึ่งเป็นกิจการในเครือซีพีเช่นกัน
สำหรับสินค้าที่วางขายในห้าง Makro นั้นกว่า 70-80% เป็นสินค้านำข้ามาจากประเทศไทย โดยสินค้าทั้งหมดแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ 1) สินค้าอาหารสด (Fresh Food) เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสดและอาหารแช่ แข็ง ฯลฯ 2) สินค้าอาหารแห้ง (Dry Food & Toiletry) เช่น ซอสปรุงรส เครื่องดื่ม ข้าวสาร ขนม อาหาร กระป๋อง ส่วนประกอบอาหาร ฯลฯ และ 3) สินค้าที่ไม่ใช่อาหาร (Non-food) เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว เครื่องเขียน ฯลฯ โดยนำระบบการบริหารจัดการสินค้าคงคลังและคลังสินค้าแบบ Automated Warehouse จากประเทศไทยมาใช้ที่เมียนมาด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ แต่เดิม Makro มีแผนที่จะเปิดทำการตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา แต่ด้วยสถานการณ์การ แพร่ระบาดของไวรัว COVID19 ทำให้ได้รับผลกระทบต้องเลื่อนการเปิดอย่างเป็นทางการไปจากกำหนดการเดิม อย่างไรก็ตาม จากการเปิดให้บริการเพียงไม่กี่วัน ประชาชนเมียนมาต่างให้ความสนใจและการตอบรับอย่างมาก ซึ่ง Makro ได้ออกมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด-19 โดยจำกัดจำนวนให้เฉพาะลูกค้าที่ลงทะเบียนนัด หมายล่วงหน้า พร้อมทั้งตรวจอุณหภูมิ และไม่ให้ผู้ที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัยเข้าไปใช้บริการ
นอกจากนี้ ห้าง Makro เมียนมาได้ให้บริการในส่วนของจำหน่ายสินค้าออนไลน์และบริการ Delivery โดยมีการจัดส่งสินค้าฟรี เมื่อซื้อสินค้าครบ 250,000 จ๊าต หรือประมาณ 6,250 บาท พร้อมทั้งได้เปิดศูนย์การ เรียนรู้ภายใต้โครงการ “Makro Retailer Allience Center” เพื่ออบรมให้ความรู้ผู้ประกอบการร้านโชห่วยหรือ ร้านขายของชำในเมียนมาเกี่ยวกับการจัดวางสินค้า การจัดร้าน การบริหารจัดการด้านการเงิน การทำการตลาด โดยมีโมเดลต้นแบบให้ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกเมียนมาได้นำไปประยุกต์ใช้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ทั้งนี้การเปิดตัว ของ Makro ในเมียนมาจะช่วยพัฒนาธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ตลอดจนอุตสาหกรรม Food Service ในเมียนมาให้มี ศักยภาพและคุณภาพมาตรฐานในระยะยาว