KEY
POINTS
วันที่ 23 ธันวาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติอนุมัติงบกลางเพื่อสนับสนุน กองทัพบก ในการจัดหายุทธภัณฑ์เพิ่มเติม เพื่อเสริมศักยภาพกำลังพล วงเงิน 206 ล้านบาท โดยรายละเอียดอยู่ในชั้นความลับ ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนรับทราบว่า รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนกองทัพในการปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติเห็นชอบให้ กระทรวงกลาโหม ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 จากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของ กองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ เพิ่มเติม ภายในกรอบวงเงินรวม 5,050,871,138 บาท โดยรายละเอียดการใช้งบประมาณอยู่ในชั้นความลับเช่นเดียวกัน
นายสิริพงศ์ ระบุว่า การอนุมัติงบประมาณดังกล่าวเป็นการยืนยันว่า รัฐบาลให้การสนับสนุนกำลังพลอย่างเต็มที่ ต่อภารกิจด้านความมั่นคงที่กำลังปฏิบัติอยู่ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และ ปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย
ขณะเดียวกัน โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้เสนอขอมติ ครม. เพื่อทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ซึ่งเดิมได้กำหนดหลักเกณฑ์การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีผลครอบคลุมช่วงวันที่ 16 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2568
อย่างไรก็ตาม มติดังกล่าวส่งผลให้ผู้ที่ประสบเหตุหลังจากช่วงเวลาดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นกรณีทหารเหยียบกับระเบิด หรือเหตุปะทะตามแนวชายแดนภายหลัง ไม่เข้าข่ายได้รับการเยียวยาตามหลักเกณฑ์เดิม
ด้วยเหตุนี้ สมช.จึงเสนอให้ ปรับมติ ครม.ใหม่ โดยใช้กรอบวงเงินเดิม แต่ขยายระยะเวลาการเยียวยาให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาจะเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์และรูปแบบการเยียวยายังคงเป็นไปตามเงื่อนไขเดิมทุกประการ
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า การทบทวนมติดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อให้การช่วยเหลือทหารและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดน เป็นไปอย่างทั่วถึง เป็นธรรม และสอดคล้องกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงที่ยังไม่คลี่คลาย