"ประภัตร"นำร่องเตรียมจัดงานมหกรรมเกษตรสร้างชาติเปิดพท.บ้านควายฟรี

04 มี.ค. 2563 | 10:19 น.

"รมช.ประภัตร" เตรียมนำร่องจัดงานมหกรรมเกษตรสร้างชาติ  เปิดพื้นที่บ้านควายฟรี จัดนิทรรศการ 4 อาชีพทางเลือกสร้างรายได้เกษตรกร พร้อมเป็นศูนย์เรียนรู้ อบรม แบบครบวงจร



 นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการจัดงานมหกรรมเกษตรสร้างชาติ ว่า ตามที่รัฐบาล นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้มีนโยบายเร่งด่วนในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง  ฝนทิ้งช่วง ขาดแคลนน้ำ และผลกระทบจากราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ เพื่อให้เกิดการสร้างงานและรายได้ที่เหมาะสมในแต่ละชุมชน จึงได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูภาคการเกษตรทั้งระบบของประเทศ  โดยเน้นให้แต่ละหน่วยงานจัดทำศูนย์การเรียนรู้และสาธิตการประกอบอาชีพในด้านต่าง ๆ อาทิ 1.ด้านพืช ส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย 2.ด้านประมง ส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์น้ำ  3.ด้านปศุสัตว์ ส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อ กระบือ แพะ และสัตว์ปีก 4.ด้านการตลาด การแปรรูป เพิ่มมูลค่าการผลิต 

"ประภัตร"นำร่องเตรียมจัดงานมหกรรมเกษตรสร้างชาติเปิดพท.บ้านควายฟรี

 ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินโครงการเกษตรสร้างชาติ โดยมีเจตนารมณ์ในการส่งเสริมการผลิตด้านการเกษตร ทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง และกิจการที่เกี่ยวเนื่อง  เพื่อสร้างโอกาสให้เกษตรกรได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พ.ย.62 และมติคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 62 เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย วงเงินสินเชื่อ 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปี ระยะเวลา 3 ปี และจากการลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่าง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 62 ได้มีข้อตกลงครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ซึ่งที่ผ่านมาได้ เริ่มดำเนินการนำร่องโครงการเกษตรสร้างชาติ ในส่วนของด้านปศุสัตว์ไปแล้วในหลายจังหวัด 

"ประภัตร"นำร่องเตรียมจัดงานมหกรรมเกษตรสร้างชาติเปิดพท.บ้านควายฟรี

 เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการเกษตรสร้างชาติ  ภายใต้นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเกิดผลสัมฤทธิ์และเป็นรูปธรรม กระทรวงเกษตรฯ จึงเตรียมจัดงาน ‘มหกรรมเกษตรสร้างชาติ’ ขึ้น พร้อมทั้งเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมในวันนี้เพื่อหารือแนวทางการจัดงาน  พร้อมกำหนดกรอบโครงการเกษตรสร้างชาติให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นในการส่งเสริมการสร้างอาชีพทางเลือกให้กับเกษตรกร   โดยจะจัดให้มีศูนย์ถ่ายทอด ศูนย์เรียนรู้ที่มีเมนูอาชีพสำหรับเกษตรกรให้เลือกหลากหลาย มีตลาดรองรับแน่นอน มีการสัมมนา อบรม สาธิต รวมทั้งให้ ธ.ก.ส. เป็นผู้ให้คำแนะนำเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินในการเขียนแผนธุรกิจ เพื่อให้เป็นจุดบริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ณ หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย จ.สุพรรณบุรี โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเปิดอย่างเป็นทางการปลายเดือน มี.ค. นี้ สำหรับผู้ที่สนใจขณะนี้สามารถเข้าชมศูนย์เรียนรู้ด้านปศุสัตว์ อาทิ โค แพะ แกะ และไก่พื้นบ้านได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย 

 

"ประภัตร"นำร่องเตรียมจัดงานมหกรรมเกษตรสร้างชาติเปิดพท.บ้านควายฟรี

อย่างไรก็ตาม เกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการจะต้องจดวิสาหกิจชุมชนไม่น้อยกว่า 7 คน  ซึ่งที่ผ่านมาพบปัญหาว่าเกษตรกรหลายกลุ่มเขียนแผนธุรกิจไม่ผ่านเงื่อนไขของ ธ.ก.ส. ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้  ดังนั้นจึงหารือร่วมกันถึงเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งก็ได้ปรับให้เหมาะสม และใช้พื้นที่ของหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย จ.สุพรรณบุรี ซึ่งขอยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ตามที่เป็นกระแสข่าวเรื่องสถานที่จัดงานอยู่ในขณะนี้ และพร้อมเปิดให้ใช้พื้นที่ฟรีกว่า 100 ไร่ ไม่เสียค่าใช้จ่าย เนื่องจากมีความเหมาะสมและเป็นแหล่งเรียนรู้และศูนย์เรียนรู้ด้านเกษตรเชิงท่องเที่ยว โดยเปิดให้ทุกหน่วยงานจัดนิทรรศการเพื่อการเรียนรู้ในด้านการส่งเสริมตามโครงการเกษตรสร้างชาติทั้ง 4 ด้านในรูปแบบโมเดล 

"ประภัตร"นำร่องเตรียมจัดงานมหกรรมเกษตรสร้างชาติเปิดพท.บ้านควายฟรี

นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้ประสาน ธ.ก.ส. ที่เป็นแหล่งเงินทุนมาแนะนำให้ความรู้ในการเขียนโครงการ เพื่อขอกู้ยืมเงินสนับสนุนอาชีพเกษตรกรในด้านต่าง ๆ ให้ผ่านหลักเกณฑ์และให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งการจัดงานมหกรรมเกษตรสร้างชาติครั้งนี้ จะเน้นรูปแบบ One Stop Service คือ เกษตรกรมาในงานนี้จะได้ทั้งความรู้และแหล่งเงินทุนในการส่งเสริมอาชีพต่อไป

"ประภัตร"นำร่องเตรียมจัดงานมหกรรมเกษตรสร้างชาติเปิดพท.บ้านควายฟรี