แสงชัยฯปรับแผน ส่งบลูแอร์ รับPM 2.5
แสงชัยแอร์ควอลิตี้ ปรับแผนรับกำลังซื้อทรุด จ่อเจรจาพาร์ตเนอร์นำเข้าเครื่องดูดฝุ่นแบรนด์ยักษ์ใหญ่รุกตลาดเมืองไทย ขณะที่ PM 2.5 ยังวิกฤติ เร่งขันทัพไลน์อัพใหม่เครื่องฟอกอากาศ “บลูแอร์” พร้อมสต๊อกสินค้า 3 เท่ารับมือความต้องการ
นายวรเทพ อัศวนิเวศน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสงชัยแอร์ควอลิตี้ จำกัด ผู้นำ เข้าและจัดจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศ แบรนด์บลูแอร์ (Blueair) เปิดเผยว่า จากสภาวะเศรษฐกิจกำลังซื้อที่ชะลอ สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาหรือแม้ กระทั่งปัจจัยลบต่างๆ ที่เข้ามา ทำให้ผลประกอบการของบริษัทในปีที่ผ่านมาทรงตัวจากปีก่อนหน้าหรือเป็น ปีที่ไม่มีการเติบโตในรอบ 40 ปี ส่งผลให้บริษัทได้มีการปรับนโยบายการดำเนินต่างๆ เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทไม่ว่าจะเป็นการลงทุนระบบซอฟต์แวร์กว่า 10 ล้านบาท เพื่อให้ธุรกิจมีความรวดเร็วคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ยังมองหาธุรกิจใหม่ๆ ในการสร้างการเติบโต โดยมีแผนนำเข้าเครื่องดูดฝุ่นแบรนด์ยักษ์ใหญ่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เบื้องต้นอยู่ระหว่างการเจรจากับพาร์ตเนอร์ราว 2-3 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นแบรนด์เครื่องดูดฝุ่นรายใหญ่จากประเทศจีน โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในช่วงกลางปีนี้ขณะที่ในกลุ่มเครื่องฟอกอากาศภายใต้แบรนด์บลูแอร์ (Blueair) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทก็ถือเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูงในปีที่ผ่านมา โดยภาพรวมตลาดมีการเติบโตมากกว่า 50% มูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาท (ยูโรมอนิเตอร์) และในส่วนของบริษัทสามารถสร้างการเติบโตกว่า 300% ในปีที่ผ่านมา ทำให้ปีนี้บริษัทมีแผนเดินหน้าทำกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสร้างการเติบโตในตลาดเครื่องฟอกอากาศในเซ็กเมนต์พรีเมียม ที่บริษัทครองส่วนแบ่งทางการตลาด 70% ในปีนี้อย่างต่อเนื่อง
“จากภาวะไวรัสโคโรนาที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ต้องบอกว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพกำลังซื้อและเศรษฐกิจ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังที่ 1-2 เดือน ซึ่งหากเป็นเพียงระยะสั้นก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมมากนัก แต่หากไม่เรื้อรังระยะยาวอาจจะต้องมีการดูภาพรวมอีกระลอก ขณะที่วิกฤติฝุ่น PM 2.5 ในไทยนั้นก็ส่งผลให้ภาพรวมตลาดเครื่องฟอกอากาศมีการเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 30% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่มีการเติบโตมากกว่า 50% ให้บริษัทมีการนำเข้ามีสต๊อกเครื่องฟอก Blueair จำนวนมากในหลายๆ ซีรีส์ หรือคิดเป็นการนำเข้าเพิ่มจากเดิม 3 เท่าเพื่อให้เพียงพอกับช่องทางการจำหน่ายต่างๆ ในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าหรือแม้แต่ช่องทาง online เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนในช่วงนี้”
นายบุญฤทธิ์ ฉันสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป กล่าวว่า สำหรับแผนงานในส่วนของเครื่องฟอก Blueair ในปีนี้จะมีการใช้งบประมาณการตลาดทั้งสิ้น 10% ของยอดขายเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ใน 4 ซีรีส์ 14 รายการ ที่วางจำหน่ายอยู่ทั้ง รุ่น Classic, Pro , Sense+ และ Blue มีระดับราคาตั้งแต่ 1-8 หมื่นบาท ออกวางจำหน่าย โดยมีแผนนำเข้าอีก 2 ซีรีส์ใหม่เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ใช้ในบ้านในช่วงกลางปีนี้ ควบคู่กับการเน้นบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์
“ตลาดเครื่องฟอก Blueair มีการเติบโตอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา มีการเติบโตเกือบเท่าตัวในระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจาก ภาวะมลพิษเพิ่มสูงขึ้นทุกปี การก่อสร้าง การพัฒนาประเทศ จำนวนรถยนต์ที่มากขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันตลาดเครื่องฟอกอากาศมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นอันเนื่องมาจาก ปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 เกินระดับความปลอดภัยในหลายๆ เมือง”
อย่างไรก็ตามปัจจุบันแสงชัยแอร์ควอลิตี้ ประกอบด้วย 4 กลุ่มขาธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ 50% 2.หลุ่มธุรกิจเครื่องทำความเย็น หรือ ห้องเย็น 25% 3.กลุ่มธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้า 15% และ 4.กลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักต์ อาทิ เครื่องฟอกอากาศ ฯ 10% โดยวางเป้าหมายการเติบโตในสิ้นปีนี้ไว้ที่ 10% จากปีที่ผ่านมาที่ปิดรายได้ 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากกการปรับกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกพร้อมทั้งปรับปรุงระบบหลัง บ้านให้มีความพร้อมตลอดเวลา
หน้า 31-32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,544 วันที่ 30 มกราคม -1 กุมภาพันธ์ 2563