หวั่นโดมิโนลาม 32 สหกรณ์ จี้แก้ทุจริตสหกรณ์รถไฟ
คดีทุจริตสหกรณ์รถไฟฯ คืนชีพ “พิเชษฐ์” แจงมี 5 สหกรณ์สัญญากู้ยืมมิชอบด้วยข้อบังคับ แนะให้ฟ้องศาล ยันไร้อำนาจจัดการ ฝ่ายเจ้าหนี้ผวาหนี้สูญโร่ฟ้อง “ประยุทธ์” ชี้กระทบชิ่งสมาชิก 7.2 หมื่นราย หวั่นโดมิโนลาม 32 สหกรณ์เจ๊งค่ากว่า 2.3 หมื่นล้าน
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้ไปยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายสมพาส นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับเรื่อง (27 ธ.ค. 62) เพื่อให้สหกรณ์รถไฟฯ เคลียร์หนี้ ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้สหกรณ์อื่นๆ ที่เป็นเจ้าหนี้ได้รับผลกระทบตามไปด้วย
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะนายทะเบียนสหกรณ์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด ดำเนินธุรกิจทางธุรกรรมทั้งฝากเงินและกู้เงินกับเจ้าหนี้สหกรณ์ 15 ราย (กราฟิกประกอบ) ตั้งแต่ปี 2552 เรื่อยมาจนกระทั่งปี 2560 สหกรณ์เกิดวิกฤติจากผู้บริหารนำเงินไปลงทุนผิดวัตถุประสงค์ ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สั่งให้แก้ไขให้ไปเรียกเงินคืนมาทั้งหมด พร้อมสั่งปลดกรรมการ แล้วก็ให้กรรมการชั่วคราวไปดำเนินการแก้ปัญหา ซึ่งบางส่วนก็เป็นเจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ที่เข้าไปดูแล กระทั่งประมาณปี 2561 มีการร้องทุกข์ และมีการดำเนินคดีกับกรรมการชุดที่ทำให้สหกรณ์เสียหาย ซึ่งพอฟ้องไปก็เกิดการชะงักงันของสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟสภาพคล่องก็ขาด ซึ่งในวันนั้นก็ได้เชิญสหกรณ์ที่เป็นเจ้าหนี้ทั้ง 15 รายเข้ามาพูดคุย
“ช่วงที่เจรจาต่อรองพ้นกรรมการชั่วคราวแล้ว แต่เป็นกรรมการที่มาจากการเลือกตั้งของสโมสรรถไฟ ชุดใหม่ก็บอกว่าเงินกู้ให้ยืมนั้นมีสหกรณ์เจ้าหนี้ 5 รายพิจารณาแล้วไม่ชอบด้วยข้อบังคับ ดังนั้นขอไม่จ่าย เพราะกลัวจ่ายแล้วจะต้องมารับผิดชอบ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือสหกรณ์ออมทรัพย์การยางแห่งประเทศไทย จำกัด ส่วนฝ่ายเจ้าหนี้ก็บอกว่าก็มีหลักฐานการนำเงินไปแล้วจะต้องจ่าย แต่กรรมการก็บอกว่าไม่กล้าจ่ายถ้าอยากได้ก็ให้ฟ้องเอา หากศาลมีคำสั่งอย่างไรก็พร้อมยินดีที่จะให้คืนเลย ความเห็นไม่ตรงกันตรงนี้ส่วนเจ้าหนี้อีก 10 รายที่เห็นว่าถูกต้องก็มีการทยอยจ่ายชำระหนี้คืนปกติไม่ได้กระทบอะไร”
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ได้แนะนำว่าควรที่จะไปฟ้องติดตามทรัพย์กลับคืนมา ถ้าไม่ได้ต้องไปไล่เบี้ยกับกรรมการของสหกรณ์ตัวเองว่าการนำเงินไปฝากหรือให้กู้ในขณะนั้นใช้พื้นฐานอะไรตัดสินใจ ปัจจุบันมี 5 สหกรณ์ฟ้องแล้ว 3 สหกรณ์ ส่วนอีก 2 สหกรณ์ลงมติแล้วแต่ยังไม่ฟ้อง ซึ่งก็คือ สหกรณ์ กยท.
ด้านนายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า ไม่สามารถผ่อนผันการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญได้ เป็นไปตามหลักบัญชีสากลที่ถือปฏิบัติเหมือนกันหมด ในสหกรณ์ก็เช่นเดียวกัน
นายจิตติน วิเศษสมบัติ สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ กยท. 1 ในเจ้าหนี้ 15 ราย กล่าวว่า สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ มีเจตนาที่จะชักดาบมากกว่าอ้างว่าสัญญากู้ยืมเงินไม่สมบูรณ์ ทั้งที่มีเอกสารว่าสหกรณ์ได้รับเงินจริง แล้วการที่นายทะเบียนไปฟ้องศาลเหมือนปฏิเสธความรับผิดชอบทั้งที่มีอำนาจเต็มทำไมไม่บังคับให้คืนเงิน อีกด้านหนึ่งหากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ให้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจะส่งผลกระทบเป็นระบบลูกโซ่ไปยังสหกรณ์อื่นอีก 32 สหกรณ์ ตลอดจนกระทบสมาชิกสหกรณ์เจ้าหนี้กว่า 7.2 หมื่นราย จะแห่ถอนเงินฝากและถอนหุ้น จะส่งผลทำให้สหกรณ์ขาดสภาพคล่องอย่างหนักและระบบสหกรณ์จะขาดความเชื่อมั่นอาจจะส่งผลกระทบรวมแล้วคิดเป็นมูลค่ากว่า 2.3 หมื่นล้านบาท
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,537 วันที่ 5-8 มกราคม 2563
