‘ธาพิดา นรพัลลภ’ ทายาทเซ็นทรัลกับผลงานชิ้นแรก

ห้างเซ็นทรัลเปิดตัวเจน 3 “ธาพิดา นรพัลลภ” กับบทบาทใหม่ พร้อมประเดิมจัดบิ๊กอีเวนต์วอทช์แฟร์ มั่นใจดันรายได้ทะลุ 800 ล้านบาท โตสวนกระแสเศรษฐกิจ-กำลังซื้อซบ

เป็นหนึ่งในทายาทของตระกูล “จิราธิวัฒน์” ที่เข้ามารับไม้ต่อในฐานะเจเนอเรชัน 3 “ธาพิดา นรพัลลภ” ลูกสาวคนเล็กของ “บุญบรรลือ นรพัลลภ และรัตนา นรพัลลภ (จิราธิวัฒน์)” ล่าสุด “ธาพิดา” ที่ก้าวขึ้นมารับตำแหน่ง ออมนิ-แชนเนล เมอร์ชันไดซิ่ง ไดเร็กเตอร์ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด พร้อมเปิดตัวและนำเสนอผลงานชิ้นแรกกับการจัดอีเวนต์นาฬิกาของเครือเซ็นทรัล ถือเป็นงานประจำปีที่ต้องจัดขึ้นเพื่อเอาใจนักช็อป

“ธาพิดา” เล่าให้ฟังว่า ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่เข้ามานั่งแท่นจัดงานวอตช์แฟร์ในเครือแบบเต็มตัว ซึ่งแน่นอนว่าความพิเศษคือการจัดงานถึง 2 ครั้ง ที่เซ็นทรัล ชิดลม และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมทั้งมีการดึงกลยุทธ์ทางการตลาดเข้ามากระตุ้นยอดขายและรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคเต็มรูปแบบ โดยการดำเนินงาน 2 ครั้ง ใน 2 สถานที่ ดังกล่าวถือเป็นการปรับกลยุทธ์การทำตลาดนาฬิกา ซึ่งปีนี้ยังเป็นครั้งแรกของตลาดจิวเวลรีที่เข้าร่วมกับนาฬิกา เนื่องจากมองว่าจิวเวลรีเป็นสินค้าที่อยู่ในหมวดลักชัวรี ซึ่งเป็นหมวดเดียวกับนาฬิกา ที่หลายคนมักซื้อไว้เพื่อการสะสมและลงทุน เพราะสินค้าเหล่านี้มีมูลค่าคงทน และมูลค่าจะเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ในช่วงที่ผ่านมาความต้องการซื้อของลูกค้ายังมีอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มลูกค้าจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่นิยมซื้อเพชรเพื่อใช้สำหรับการออกงานสังคม อีกกลุ่มหนึ่งซื้อไว้เพื่อเป็นสินทรัพย์และเพื่อการลงทุน

ทั้งนี้การปั้น 2 อีเวนต์นาฬิกายักษ์ใหญ่ครั้งนี้ดำเนินการภายใต้กลยุทธ์หลัก 3 ประการหลักในการไดรฟ์ยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายในสภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัวได้แก่ 1. ช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งแน่นอนว่างานดังกล่าวถูกจัดขึ้นหลังงานบาเซิลเวิลด์ 2019 และเอสไอเอชเอช ซึ่งจะเป็นการให้ลูกค้าได้มาเลือกช็อปปิ้งนาฬิการุ่นใหม่ ภายหลังได้อัพเดตเทรนด์ในงานดังกล่าวแล้ว 2.การใช้บิ๊กดาต้า (Big Data) ผ่านฐานบัตร เดอะวัน ที่มีกว่า 15 ล้านรายในประเทศ และอีกกว่า 10 ล้านรายในประเทศเวียดนาม เข้ามารองรับพฤติกรรม ความชื่นชอบ และความต้องการของลูกค้า

3.การทำเรื่องของ ออมนิ-แชนเนล ที่ผสานทั้งออนไลน์-ออฟไลน์ ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกซื้อนาฬิกาได้ทั้งภายในห้างเซ็นทรัลชิดลม และห้างเซ็นทรัล 22 สาขา รวมถึงการจำหน่ายนาฬิกาในเซ็นทรัลออนไลน์ หรือบริการ Chat & Shop ลูกค้าจึงสามารถมาสั่งซื้อนาฬิกาผ่านช่องทางออนไลน์ หรือมาทดลองในห้างแล้วตัดสินใจซื้อในออนไลน์ได้ ทุกอย่างสามารถเชื่อมต่อกันได้หมดแบบไร้รอยต่อ

“นอกจากฐานลูกค้าในประเทศแล้ว การจัดงานทั้ง 2 งานยังเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป โดย“เซ็นทรัล เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2019” (Central | ZEN International Watch Fair 2019) ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลชิดลม จะเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมาย ลักชัวรี และมิดลักชัวรี ขณะที่งาน “เดอะ เวิลด์ พรีเมียร์ วอทช์ แอนด์ จิวเวลรี่ เอ็กซ์โป” ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จะเน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยจำนวนมากโดยปีที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในไทยเพิ่ม 5% ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยว CLMV ที่เข้ามาเพิ่มและมีแนวโน้มเข้ามาช็อปปิ้งที่ห้างเซ็นทรัลสูง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา”

“ธาพิดา” บอกว่า แม้จะเป็นการจัดอีเวนต์ใหญ่ครั้งแรก แต่เชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จ และสร้างยอดขายได้ 800 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ปีก่อนมีรายได้ 500 ล้านบาท แม้ขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยังซบเซาและยอมรับว่าส่งผลต่อกำลังซื้อและตลาดนาฬิกาพอสมควร ทำให้ภาพรวมการทำตลาดในปีนี้ต้องเน้นการจัดแคมเปญโปรโมชันให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และในระดับราคาที่เข้าถึงได้ โดยคาดว่าปีนี้ภาพรวมตลาดนาฬิกาจะสามารถเติบโตได้ 4% จากครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเติบโต 3-4% ขณะที่การเติบโตของกลุ่มนาฬิกาสมาร์ทวอตช์ และตลาดนาฬิกาหรูระดับบน ที่กำลังซื้อไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ถือเป็นตัวช่วยที่ทำให้ตลาดรวมนาฬิกาปีนี้ยังเติบโตได้ โดยเฉพาะสมาร์ทวอตช์ที่ปีนี้ตลาดเติบโต 2 หลัก จากปี 2561 เติบโตถึง 3 หลัก 

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3495 ระหว่างวันที่ 11 - 14 สิงหาคม 2562