มึน‘ทัวริสต์จีน’หาย ห้างเร่งปรับแผนรับมือ

ห้าง-ร้านค้าบ่นอุบ นักท่องเที่ยวจีนหาย ยอดขายวูบ เร่งปรับแผนรับมือจ้าละหวั่น “เซ็นทรัลเวิลด์” ชี้ตกช่วงโลว์ซีซัน เร่งเสริมอีเวนต์ แม็กเนตใหม่ ขณะที่ “บิ๊กซี ราชดำริ” เผยเศรษฐกิจจีนชะลอ ผนวกค่าเงินบาทแข็ง ฉุดตัวเลข 2 เดือนลดลง

ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 พบว่าอยู่ในสภาวะทรงตัว เบื้องต้นพบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวไทยจำนวน 19.6 ล้านคน ขยายตัว 0.7% มีรายได้จากการท่องเที่ยว 1.01 ล้านล้านบาท ขยายตัว 0.3% ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นกลุ่มหลักยังไม่ฟื้นตัว โดยเดือนมกราคม-พฤษภาคม มีจำนวน 4.81 ล้านคน ลดลง 4.31%

เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่มีจำนวน 5.03 ล้านคน สร้างรายได้ 2.64 แสนล้านบาท ลดลง 3.48% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 2.74 แสนล้านบาท ส่งผลกระทบต่อภาคค้าปลีกเมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงยอดขายก็หายไปด้วย

นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา เซ็นทรัลเฟสติวัล และเซ็นทรัล ภูเก็ต เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลงนั้น เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ ซีซัน คาดว่าตัวเลขจะดีดกลับมาในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เนื่องจากเป็นช่วงซัมเมอร์ ฮอลิเดย์ของชาวจีน โดยปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการในเซ็นทรัลเวิลด์ราว 5 หมื่นคนต่อวัน ขณะที่ภาพรวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศพบว่าใน 6 เดือนแรกมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

“จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาใช้บริการที่ศูนย์การค้าของซีพีเอ็นในเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างกรุงเทพฯ, ภูเก็ต และพัทยา เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดไว้ โดยจำนวนชาวจีนลดลงเพราะเป็นช่วง Low Season แต่บริษัทได้โฟกัสเพิ่มเติมในกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น อาทิ Middle-East และอินเดียเพิ่มขึ้นด้วย พร้อมแผนอัดฉีดอีเวนต์และโปรโมชัน รวมถึงการสร้างแม็กเนตใหม่ๆ ให้กับศูนย์”

สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น บริษัทวางแผนจัด Signature Events ตลอดทั้งปี เช่น เซ็นทรัลเวิลด์กับการจัดงานต้อนรับเหล่าผู้เข้าประกวด Miss Universe Thailand 2019 ซึ่งช่วยโปรโมตภาพลักษณ์ที่ดีงามของ Hospitality อย่างไทย การจัดงานโครงการหลวงฯ งานกรุงเทพธารา และเทศกาลอาหารร้านเด็ดทั่วไทย เป็นต้น , เซ็นทรัล ภูเก็ต การเปิดลักชัวรี่โซนรวมแบรนด์ดังระดับโลก เพื่อรองรับกลุ่มนักช็อป High Spender ต่างชาติทั้งจีน รัสเซีย และอินเดีย รวมทั้งการคอสต์ โปรโมชันเพื่อดึงนักท่องเที่ยวมาเลเซีย เป็นต้น ขณะที่เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช ปรับปรุงฟู้ด พาร์ค สร้างคอมมิวนิตีแหล่งแฮงเอาต์ ไนต์ไลฟ์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย

นายณรัณ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเอ็มที เดอะ อาวร์ กลาส จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายนาฬิกาหรู กว่า 30 แบรนด์ อาทิ ปาเต็ก ฟิลิปป์, โรเล็กซ์, อูโบลท์, โอเดอมาร์
ปิเกต์ ฯลฯ กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาซื้อสินค้าในเมืองไทย ไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีปัจจัยหลายด้านทั้งมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลจีนเพื่อให้คนจีนช็อปในประเทศมากขึ้น ไลฟ์สไตล์คนจีนที่เปลี่ยนไป ระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายมากขึ้น รวมไปถึงเรื่องของค่าเงินบาทก็มีผลเช่นกัน

“บริษัทเพิ่งเข้าไปลงทุนเปิดสาขาใหม่ที่เซ็นทรัลฟลอเรสต้า ภูเก็ต วันนี้ก็เหนื่อยหน่อย ต้องรอปัจจัยบวกที่จะเข้ามาในครึ่งปีหลัง หลังจากมีรัฐบาลใหม่และมีเสถียรภาพมากขึ้น จะมีทิศทางในการเดินอย่างไร”

ด้านผู้บริหารระดับสูง จากบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจประเทศจีนที่ชะลอตัวลง รวมถึงภาวะค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ปริมาณนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาซื้อสินค้าและใช้บริการในบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ มีปริมาณลดลงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเล็กน้อย เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจากประเทศอินเดีย ตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น เกาหลี และเวียดนามเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น รวมถึงบิ๊กซีได้ปรับกลยุทธ์การตลาด มุ่งนำเสนอสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสินค้าที่มีความแตกต่างกันในแต่ละประเทศด้วยโดยสินค้าที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมซื้อ 3 อันดับแรก ได้แก่ ขนมขบเคี้ยว ซุปไก่สกัด และหมอนยางพารา 

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,487 วันที่ 14 - 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2562