โจทย์ใหญ่‘ท่องเที่ยวปี63’ ปั๊มรายได้ 3.7ล้านล. หืดขึ้นคอ

07 ก.ค. 2562 | 06:40 น.

การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยในปี 2563 การท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย (ททท.) เคาะเป้าหมายไว้ 3.71 ล้านล้านบาท เติบโต 10% โดยมุ่งผลักดันรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ อยู่ที่ 2.43 ล้านล้านบาท และรายได้จากการเดินทางเที่ยวในประเทศ 1.28 ล้านล้านบาท นับว่าเป็นเป้าหมายที่ท้าทายกว่าทุกครั้ง

 

ดันโต10%สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก

เนื่องจากไร้โมเมนตัมของการเติบโตที่ดีของปี 2562 เป็นแรงหนุนการขับเคลื่อนรายได้ในปี 2563 ลำพังเฉพาะการผลักดันการท่องเที่ยวในปี 2562 ให้บรรลุตามเป้าหมายที่ปรับลดลงไป จากเดิมวางไว้ที่ 2.4 ล้านล้านบาท มาอยู่ที่ 3.38 ล้านล้านบาท หรือเติบโตราว 9.5% ก็เป็นสิ่งที่ททท.ต้องออกแรงมากอยู่แล้ว 

จากปัจจัยเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ บาทแข็ง แถมการจัดสรรงบประมาณในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ที่จะต้องถูกนำมาใช้เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในปี 2563 ก็ล่าช้าออกไป เพราะต้องรอรัฐบาลใหม่

ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผล กระทบต่อการท่องเที่ยวรอบด้าน อีกทั้งด้วยภาพใหญ่ของการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของประเทศ ที่ต้องไปสัมพันธ์กับเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 เป็นตัวกำหนดการจัดทำแผนวิสาหกิจของททท.

ทำให้ททท.จึงต้องมองเป้าหมายยาวไปถึงปี 2564 ที่จะผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยวให้แตะ 4 ล้านล้านบาทในปี 2564

โจทย์ใหญ่‘ท่องเที่ยวปี63’  ปั๊มรายได้ 3.7ล้านล. หืดขึ้นคอ

นั่นหมายถึงททท.ต้องรักษาการเติบโตของรายได้ท่องเที่ยวอยู่ที่ราว 10% ซึ่งเป็นการเติบโตสูงกว่าการเติบโตของค่าเฉลี่ยของโลกมาก ภายใต้สภาวะความไม่แน่นอนมากมายที่เกิดขึ้น เพราะหากเทียบกับคาดการณ์การขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติและรายได้จากการท่องเที่ยว ที่องค์การการท่องเที่ยวโลก(UNWTO) คาดไว้ว่าเฉลี่ยทั่วโลกจะเติบโต 2% ภูมิภาคที่มีการขยายตัวมากที่สุด คือเอเชีย-แปซิฟิก ก็เติบโตราว 7% 

 

สารพัดปัจจัยรุมเร้า

อีกทั้งต้องยอมรับว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวไทยอย่างก้าวกระโดด จุดสำคัญมาจากจีนกดปุ่มห้ามคนจีนไปเที่ยวญี่ปุ่น จากปัญหาความมึนตึงกันในช่วงหลายปีก่อน แต่ตอนนี้จีนกับญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น จะเห็นว่าคนจีนหันไปเที่ยวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น ขณะที่เมืองไทยมีเหตุเรือล่มที่ภูเก็ต ก็ยิ่งทำให้เกิดการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีนอย่างต่อเนื่องจนถึงครึ่งแรกของปีนี้ 

โจทย์ใหญ่‘ท่องเที่ยวปี63’  ปั๊มรายได้ 3.7ล้านล. หืดขึ้นคอ

ขณะเดียวกันไทยยังมีปัญหาเรื่องการผลักดันการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว ที่มีอัตราการเติบโตในระดับตํ่าเฉลี่ยเติบโตเพียง 3% และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางเข้าไทยยังเป็น กลุ่มนักท่องเที่ยวระดับกลาง-ล่าง เป็นส่วนใหญ่ มีนักท่องเที่ยวกลุ่มไฮเอนด์ (กลุ่มที่มีรายได้มากกว่า 6 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี) มาเที่ยวไทยคิดเป็นสัดส่วนเพียง 13% และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพียง 2.1% ต่อปี (ปี 2554-2558)

จึงเป็นสิ่งที่ต้องขบคิดว่าไทยจะเดินกลยุทธ์อย่างไรในการ กระตุ้นการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวให้โตได้มากกว่านี้ และทำอย่างไรจึงดึงกลุ่มนักท่องเที่ยว ไฮเอนด์เข้ามาได้เพิ่มมากกว่าที่เป็นอยู่ ท่ามกลางข้อจำกัด โดยเฉพาะดีมานด์การเดินทางที่มีมากกว่าซัพพลายรองรับ ทำให้ไทยเกิดปัญหาโอเวอร์ทัวริซึม และไหนไทยจะขายการท่องเที่ยวมานานจนจะครบ 60 ปีในปีหน้า โปรดักต์เก่าจะทำอย่างไรที่จะสู้กับโปรดักต์ใหม่ของประเทศคู่แข่งที่ทั้งสดใหม่ และทุ่มโปรโมชันเข้าไปมากมาย รวมถึงการต้องเผชิญกับสภาวะการใช้จ่ายและวันพักเฉลี่ยในการเดินทางท่องเที่ยวที่ลดลง อันเป็นผลจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

 

ผนึก OTA บูมตลาด

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวยอมรับว่าเป้าหมายการท่องเที่ยวในปี 2563 เป็นสิ่งที่ท้าทายมาก จากสภาวะการณ์การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ แต่ก็ต้องพยายามเต็มที่ เรื่องเร่งด่วนคือการปั๊ม การท่องเที่ยวช่วงครึ่งหลังปีนี้ให้เติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก เพื่อทำให้ทั้งปีนี้คงการเติบโตของการท่องเที่ยวให้ได้ 9.5% เพื่อเป็นแต้มต่อหนุนการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในปีหน้าต่อไป

โจทย์ใหญ่‘ท่องเที่ยวปี63’  ปั๊มรายได้ 3.7ล้านล. หืดขึ้นคอ

ส่วนกลยุทธ์การท่องเที่ยวในปีหน้า ททท.จะมุ่งเพิ่มรายได้ควบคู่กับการพัฒนาความยั่งยืนทางการท่องเที่ยว เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดี (ROX: Return on Experience) เน้นการเสริมสร้างประสบการณ์ในการเดินทางมาเที่ยวไทย เพื่อขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ กระจายรายได้สู่เมืองรอง

การทำงานต้องโฟกัสไปที่ “MORE LOCAL GO QUALITY” มุ่งผลักดันการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ, ความปลอดภัย, การท่องเที่ยวอย่างรู้คุณค่า, การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับพื้นที่และเวลา รวมถึงการทำแบบเจาะเซ็กเมนต์ให้เข้มข้นขึ้น การทำงานร่วมกับ OTA (ออนไลน์ ทราเวล เอเยนต์) ให้เพิ่มมากขึ้น โดย มอง OTA เป็นจุดเปลี่ยนการทำตลาดยุคใหม่ เพราะต้องยอม รับว่ากลุ่มนี้มีดีมานด์มหาศาล เป็นต้น 

รายงาน โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3485 ระหว่างวันที่ 7 - 10 กรกฎาคม 2562

โจทย์ใหญ่‘ท่องเที่ยวปี63’  ปั๊มรายได้ 3.7ล้านล. หืดขึ้นคอ