2 แบรนด์เสื้อยืดพลิกวิกฤติเป็นโอกาสตั้งเป้ารายได้โต 100%
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
การทำธุรกิจนอกจาก “เก่ง” และ “เฮง”แล้ว ยังไม่พอ บางทีก็ขึ้นอยู่ที่ช่วงจังหวะและโอกาสด้วย เหมือนการสร้างธุรกิจของ “บี” ธนันดร ยิ่งปัญญาโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควีนแฟคทอรี่ จำกัด เรียนจบมาทางด้านวิศวกรแม่พิมพ์รถยนต์ เริ่มต้น หาประสบการณ์จากการเป็นลูกจ้างบริษัทในเครือโตโยต้า ควบคู่กับอาชีพเสริมเปิดหน้าร้านรับเสื้อยืดมาขายส่งในย่านประตูนํ้า
ต่อมาเมื่อปี2554 เกิดวิกฤตินํ้าท่วมใหญ่กรุงเทพฯ หลายคนมองว่ามันเป็นวิกฤติ เป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจทำให้ร้านรวงส่วนใหญ่หยุดขาย แต่ “บี” กลับมองสวนทางคู่แข่งโดยพลิกวิกฤติเป็นโอกาส เปิดหน้าร้านรับออร์เดอร์ต่อเนื่อง การตัดสินใจครั้งนั้นทำให้ธุรกิจเล็กๆของบี เริ่มมีออเดอร์เข้ามาจำนวนมาก ทั้งลูกค้าในประเทศและต่างประเทศมีสินค้าขายต่อเนื่อง
เมื่อ 7 ปีที่แล้วธุรกิจเติบโตขึ้น จึงตัดสินใจครั้งสำคัญ ตั้งบริษัท ควีนแฟคทอรี่ จำกัด ขึ้นมาผลิตเสื้อยืดและสกรีนลายขึ้นเอง เพื่อรองรับการขายส่ง โดยมีโรงงานผลิตในย่านพระราม2 ผลิตเสื้อยืดออกมาขายภายใต้แบรนด์ “Queen” และ “ Queen T-Shirt ” จนขณะนี้มีทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติเข้ามาสั่งซื้อเสื้อยืดหลากหลายรูปแบบทั้งเสื้อยืดคอกลม โปโล ยูนิฟอร์ม เสื้อผ้าแฟชั่นและเสื้อสำหรับสวมใส่ในช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น ตรุษจีน ผลิตเสื้อยืดสีแดง ,ช่วงสงกรานต์ ผลิตเสื้อยืดมีสีสัน รวมถึงผลิตเสื้อเหลืองใส่ในโอกาสที่ประชาชนร่วมแสดงความจงรักภักดีในช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
“แบรนด์เราได้รับการยอมรับจากลูกค้าเพราะมีจุดเด่นตรงที่ราคาถูกเนื้อผ้าดี ใส่ใจตั้งแต่การใช้วัตถุดิบ เช่น ด้ายที่นำเข้ามาจากออสเตรเลียแล้วมาทอและย้อม และสกรีนเองทำให้สินค้ามีคุณภาพดีและราคาไม่แพง เสื้อยืด 1 ตัว มีราคาขายส่งตั้งแต่ 60-100 บาท ส่วนเสื้อยืดโปโลมีราคาตั้งแต่ 140-250 บาทต่อตัวแล้วแต่เนื้อผ้า และสำหรับคนที่มาซื้อที่หน้าร้านต้องซื้อตั้งแต่ 3 ตัวขึ้นไปถึงจะได้ในราคาขายส่ง”
เมียนมาลูกค้ารายใหญ่
สำหรับฐานลูกค้า ปัจจุบันมีลูกค้า 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจะเป็นลูกค้าที่รับออร์เดอร์ขายส่งที่หน้าร้านในย่านประตูนํ้า ซึ่งมีทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติเดินสายเข้ามาสั่งซื้อเพื่อนำไปขายปลีกอีกทอดหนึ่ง โดยเฉพาะลูกค้าเมียนมา มาเลเซีย กัมพูชา จะมาติดต่อที่หน้าร้านประตูนํ้า และสัดส่วน 50% จะเป็นลูกค้าเมียนมา และอีก50% เป็นลูกค้าคนไทยและอื่นๆ โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเข้ามาสั่งออร์เดอร์ตั้งแต่ 5,000 ตัวขึ้นไป และภายใน 3-4 วันสินค้าที่สั่งไว้จะส่งถึงมือลูกค้า
กลุ่มที่ 2 จะเป็นลูกค้าที่มาจากบริษัทเอกชนสัดส่วน 90% และมาจากองค์กรรัฐ 10% ที่มาสั่งตัดเสื้อยูนิฟอร์ม โดยรวมแล้วจะมีฐานลูกค้ากลุ่มนี้รวมทั้งสิ้นราว 50-60 ราย ที่มาสั่งทำเสื้อยูนิฟอร์ม เช่น SCG,HEALTH LAND, APE, นํ้าจิ้มตราสุรีย์ ,ธนาคารกรุงเทพ เป็นต้น
“บี”บอกว่าสินค้าที่จำหน่ายนอกจากเดินทางมาติดต่อที่หน้าร้านย่านประตูนํ้า ตึก Time square ซอยเพชรบุรี21 แล้ว สามารถผ่านช่องทางการขายเสื้อยืดแฟชั่น ขายปลีก-ขายส่งทาง Line : @queent-shirt และFacebook : queen t-shirt IG : queen_pra tunam หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่Website :www.queenpolomaker.com
ดันเป้าโตเท่าตัว
สำหรับปี2562 “บี”ตั้งเป้าว่าบริษัทจะมีรายได้เติบโตเท่าตัวหรือโต100% จาก 20-30 ล้านบาทเพิ่มเป็น 50-60 ล้านบาท และรายได้ครึ่งหนึ่งจะมาจากตลาดส่งออก หลังจากที่ประเมินว่า ปีนี้เศรษฐกิจภายในประเทศยังไม่ดี แต่จะใช้โอกาสของปีนี้ไปบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะ ตลาดCLMV และ ตลาดในโซนแอฟริกาที่เมื่อ 3 ปีก่อนเคยได้ฐานลูกค้าไนจีเรียและโซมาเลียเข้ามาสั่งซื้อ 30,000 ตันต่อสัปดาห์ แต่ระยะหลังชะลอไปเนื่องจากประเทศดังกล่าวเผชิญปัญหาค่าเงินและการเมืองภายในประเทศ และมีแผนขยายฐานตลาดเสื้อยืดที่นิยมตามกระแสและเทศกาลต่างๆมากขึ้นโดยเป้าหมายทั้งหมดนี้มีสัญญาณว่าจะทำได้ตามแผนที่วางไว้ (ดูตาราง)
“บี”กล่าวว่าการทำธุรกิจมีทั้งความยากและความง่าย ในระยะเริ่มต้นธุรกิจ จะมีความยากมากหน่อย เนื่องจากยังไม่มีความเชี่ยวชาญและมีเงินทุนน้อยจึงต้องลงแรงมาก ส่วนการแข่งขันจะมีมากขึ้นเรื่อยๆยิ่งเศรษฐกิจไม่ดียิ่งแข่งขันรุนแรง ทำให้บริษัทต้องหันมาปรับกลยุทธ์โดยมุ่งพัฒนาแบรนด์ที่มีอยู่ให้มีคุณภาพ เพราะปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่จะใช้แบรนด์ “Queen” และ “Queen T-Shirt” เป็นหลัก
สำหรับเคล็ดลับที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในวันนี้คือการยึดหลักที่ว่า นอกจากมีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าแล้ว จะต้องสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าสูงสุดด้วย ดังนั้นสินค้าทุกชิ้นเมื่อซื้อไปแล้วหากมีตำหนิสามารถนำมาเปลี่ยนได้ หากรุ่นนั้นไม่มีแล้วก็จะคืนเงินให้ภายใน 1 เดือน รวมทั้งมอบหมายความไว้วางใจให้คู่ค้ารับสินค้าไปขายต่อด้วยความสบายใจ เมื่อแบรนด์ได้เข้าไปครองใจลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นบทพิสูจน์ว่า สินค้าที่ผลิตออกมามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจึงรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ได้ ขณะเดียวกันก็เกิดฐานลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งหมดคือจุดยืนของการสร้างแบรนด์ “Queen” และ“Queen T-Shirt ”จนค่อยๆเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,463 วันที่ 21-24 เมษายน 2562
