พช.ติวเข้มพัฒนาการจังหวัด 20 จังหวัดภาคอีสาน พร้อมมอบหลักการแนวทางขับเคลื่อนสำคัญพัฒนาชุมชน 5 ด้าน เน้นทำงานเป็นทีม การทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข มุ่งสู่ประโยชน์สูงสุดของประชาชน
นายทวีป บุตรโพธิ์ รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เผยว่าได้ร่วมประชุมมอบแนวทางการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนในพื้นที่ให้กับพัฒนาการจังหวัด หัวหน้ากลุ่มงาน พัฒนาการอำเภอ และบุคลากรกรมการพัฒนาชุมชน จำนวน 20 จังหวัดในพื้นที่ภาคอีสาน พร้อมมอบหลักการแนวทางการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนในพื้นที่ 5 ด้านสำคัญ โดยขอให้การทำงานกรมการพัฒนาชุมชนคำนึงถึงความเป็นทีม การทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน
สำหรับหลักการแนวทางการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนในพื้นที่ 5 ด้านที่สำคัญ คือ 1.การทำงานในบทบาทข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชน คือทุกคนมีศักยภาพ สามารถพัฒนาได้หากมีโอกาส มีกระบวนการทำงานยึดกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วม พร้อมยึดหลักการทำงานศึกษาชุมชน การให้การศึกษาเพื่อการพัฒนา การวางแผน การดำเนินงาน ตลอดจนติดตามและประเมิน
ด้านที่ 2 คือการขับเคลื่อนชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ที่ต้องมีการสร้างภาคีการทำงาน โดยการสร้างความร่วมมือเครือข่ายในพื้นที่พัฒนา เพื่อให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาร่วมมือพัฒนา การเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อสร้างการเข้าถึงชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ตลอดจนกิจกรรมของชุมชน การพัฒนาคน การพัฒนาพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ต้องสร้างการรับรู้ หมายถึงการประชาสัมพันธ์ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี รวมไปถึงการจัดโปรโมชั่นการท่องเที่ยว โดยการดำเนินงานให้เป็นไปตามบริบทของพื้นที่ เพื่อให้เกิดการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวอย่างเต็มศักยภาพ
“การทำงานชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ต้องมีความละเอียด รอบคอบ ปลอดภัย และได้ประโยชน์ โดยเน้นความต้องการของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก การใส่ใจในรายละเอียดต่างๆจะก่อให้เกิดความประทับใจการนักท่องเที่ยว การทำสื่อแคตตาล๊อกประกอบการท่องเที่ยวเพื่อเป็นข้อมูลการท่องเที่ยวอีกช่องทางหนึ่ง การนำเสนอวิถีชีวิตชุมชนที่มีสิ่งสำคัญคือ ความละเอียดและความใส่ใจ”
ด้านที่ 3.การเบิกจ่ายงบประมาณ OTOP นวัตวิถี ซึ่งปัจจุบันมีผลเบิกจ่ายได้เพียง 33.28 (จากงบประมาณทั้งประเทศ) โดยจังหวัดในภาคอีสานที่มีผลเบิกจ่ายใน 10 อันดับสุดท้าย (จากผลเบิกจ่ายทั่วประเทศ) คือ เลย บุรีรัมย์ ขอนแก่น อุดรธานี สระแก้ว และหนองบัวลำภู ดังนั้นจึงขอฝากย้ำขอให้จังหวัดเร่งการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 31 มีนาคม 2562 นี้ ตลอดจนการรายงานชี้แจงข้อมูลที่เป็นประเด็นจากสื่อ หากมีผลกระทบต่องานพัฒนาชุมชนในพื้นที่ ขอให้รายงานทันทีที่ทราบข้อมูล โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก นอกจากนี้ต้องลงพื้นที่ตรวจติดตามงานของ สตง. ในเรื่อง ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี โดยขอให้พื้นที่เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการตรวจ
ด้าน 4.หลักการทำงานในฐานะผู้บริหาร โดยบทบาทตามกฎหมายการปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้ง และบทบาทที่ทีมงานคาดหวัง ซึ่งการวางระบบงาน การพัฒนาบุคลากร การเป็นต้นแบบของบุคลากรในพื้นที่ การสนองนโยบายของผู้บริหารทั้งภายในองค์กรและผู้บริหารในพื้นที่ ตลอดจนการดำเนินงานเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน สามารถขับเคลื่อนการทำงานไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีความสุข
ด้าน 5.การสร้างทีมงานของหัวหน้าทีม ซึ่งมีสิ่งสำคัญ 7 เรื่อง คือ 1.การกำหนดเป้าหมายขององค์กรร่วมกัน 2.การกำหนดกลยุทธ์ที่จะทำให้ไปสู่เป้าหมายขององค์กร 3.ประเมินศักยภาพของทีม 4.พัฒนาทีมงานและสร้างทีมงาน 5. Empowerment 6.การติดตาม ประเมินผล สอนแนะนำงาน และการให้รางวัลความสำเร็จของทีม
“การทำงานกรมการพัฒนาชุมชน ขอให้คำนึงถึงความเป็นทีม การทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน”รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าวย้ำ