"เงินบาทแข็ง" เหตุนักลงทุนหันถือสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูง

ธนาคารกรุงไทย ระบุว่า ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เปิดตลาดเช้าวันนี้ (8 ม.ค. 62) ที่ระดับ 31.93 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจาก 32.00 บาท ช่วงสิ้นวันทำการก่อน

ในคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แม้ดัชนี S&P500 ของสหรัฐฯ จะปรับตัวบวกขึ้นได้ 0.7% แต่ดัชนี Euro Stoxx 50 ของยุโรป กลับถูกขายทำกำไรและปรับตัวลง 0.27% ส่วนบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ก็ปรับตัวขึ้นเพียง 2.5bp มาที่ระดับ 2.69% ชี้ว่า นักลงทุนยังไม่เปิดรับความเสี่ยงเต็มที่

ทั้งนี้ เกิดจากตลาดยังคงให้ความสำคัญกับโอกาสที่สหรัฐฯ และจีนจะสามารถกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาได้ พร้อมกับเฟดที่อาจขึ้นดอกเบี้ยน้อยกว่าที่เคยประเมินไว้ พร้อมกันกับที่ราคาน้ำมันก็น่าจะปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง หลังการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปคและผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจยังถือว่าไม่พลิกกลับมาเป็นบวก ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อนอกภาคการผลิตของสหรัฐฯ (US Non-Msnufacturing PMI) ปรับตัวลงมาที่ระดับ 57.6 ซึ่งถือว่าน้อยกว่าที่คาดไว้ค่อนข้างมาก

ในส่วนของค่าเงินบาท มองว่า ภาพตลาดการเงินที่ดีขึ้นพร้อมราคาน้ำมัน ไม่ได้เป็นปัจจัยบวกกับเงินบาทในช่วงนี้ เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่จะหันเข้าหาสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงแทนที่ เงินบาทจึงน่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบกว้าง โดยจะมีการเปลี่ยนแนวโน้มอีกครั้ง ถ้ามีความชัดเจนเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

มองกรอบค่าเงินดอลลาร์วันนี้ 31.90-32.00 บาท