Play
‘แอทคอสเม่’ปักหมุดสาขาแรกในอาเซียน
“@cosme store” บิวตี้ สโตร์แบรนด์ดังจากแดนซามูไรปักหมุดผุดสาขาแรกในอาเซียนที่ไอคอนสยาม ชูจุดขายรวมเมกอัพทุกระดับตั้งแต่แมสยันไฮเอนด์ พร้อมโซนพิเศษ ทั้งทดลองแต่งหน้า อีเวนต์ สเปซ มั่นใจขยายสาขาได้ 5 แห่งใน 3 ปี
นายเท็ตสึโระ โยชิมัตสึ กรรมการบริษัท และกรรมการผู้จัดการ ไอสไตล์ อิงก์ (istyle Inc.) เจ้า ของเว็บไซต์ สื่อออนไลน์ และร้านจำหน่ายเครื่องสำอาง ภายใต้แบรนด์ “แอทคอสเม่ สโตร์” (@cosme store) ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทเปิดให้บริการ แอทคอสเม่ สโตร์ สาขาไอคอนสยาม ขึ้นภายใต้การดูแลของบริษัท ไอสไตล์ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด ถือเป็นร้านคอสเม่ซีเล็คช็อป ที่เน้นจำหน่ายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ของแอทคอสเม่ สโตร์ สาขาแรกในภูมิภาคอาเซียนและสาขาแรกในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “Experience, Discover, Your @cosme”
“ประเทศไทยเป็นตลาดเครื่องสำอางที่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในเอเชีย โดยในปีที่ผ่านมาตลาดเครื่องสำอางในไทยมี มูลค่ากว่า 1.98 แสนล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตได้ถึง 2.6 แสนล้านบาทในปี 2565 นอกจากนี้แอทคอสเม่ยังเป็นที่รู้จักของคนไทย ทำให้บริษัทมองเห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการทำตลาดในเมืองไทย”
[caption id="attachment_355163" align="aligncenter" width="369"]
เท็ตสึโระ โยชิมัตสึ[/caption]
สำหรับแอทคอสเม่ สโตร์สาขาไอคอนสยาม ถือเป็นการเปิดตัวร้านสาขาแรกในศูนย์การค้า และเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ซึ่งการวางผังร้าน จะเป็นการดึงเอาจุดเด่นต่างๆ ของสาขาที่ญี่ปุ่น มารวมไว้ที่นี่ ได้แก่ การคัดเลือกสินค้ามากมาย ตั้งแต่ราคาย่อมเยา ไปจนถึงแบรนด์ดังในห้างสรรพสินค้า เช่นเดียวกับสาขาที่ญี่ปุ่น โดยสาขาไอคอนสยามจะมีสินค้าจากช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องสำอางแบรนด์ดังในห้างสรรพสินค้า เช่น Paul & Joe และ LUNASOL ไปจนถึงเครื่องสำอางราคาย่อมเยา เช่น Canmake
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบริการให้คำปรึกษาปัญหาผิวและคำแนะนำในการแต่งหน้า มีสินค้าให้ทดลองเกือบทุกชนิด มีอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่นเดียวกับร้านในญี่ปุ่น มีโซน อีเวนต์ สเปซ จัดกิจกรรมเช่น แต่งหน้า ฯลฯ มีโซนสำหรับเด็ก เพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับเด็กๆ ขณะเข้ามาเยี่ยมชมร้าน และมีโซนพักผ่อนให้ลูกค้าที่มาเป็นคู่รักหรือครอบครัวได้ผ่อนคลายระหว่างรอเลือกซื้อสินค้า
โดยร้านแอทคอสเม่ สโตร์ สาขาไอคอนสยาม มีสินค้าแบรนด์ต่างๆ มากมาย อาทิ ได้แก่ @cosme nippon, KANEBO, LUNASOL, Anna Sui, Paul & Joe, Excel, FLOWFUSHI, Sekkisei, KATE, Neal’s Yard Remedies, Perfect One, Cher Couleur, Curel, Organika, Canmake, Cezanne ฯลฯ โดยบริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5 แห่ง ภายใน 3 ปีนับจากนี้
อย่างไรก็ดี แอทคอสเม่ เป็นเว็บไซต์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีผู้เข้าชมเว็บไซต์ 16 ล้านคนต่อเดือน มียอดชมเว็บไซต์ 310 ล้านวิวต่อเดือน มีฐานข้อมูลสินค้า 3.3 หมื่นแบรนด์ รวมถึงคอนเทนต์ด้านการค้นหารีวิวสินค้าและข้อมูลสินค้าใหม่ นับตั้งแต่วันที่เปิดเว็บไซต์ ยอดรีวิวสินค้าของสมาชิกและยอดชมเว็บไซต์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมียอดรีวิวมากกว่า 14 ล้านรีวิว
ทั้งนี้บริษัท ไอสไตล์ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เป็นการร่วมทุนระหว่างไอสไตล์ อิงก์กับบริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้งฯ บริษัท ในกลุ่มสยามพิวรรธน์ ถือหุ้นในสัดส่วน 70:30 ขณะที่แอทคอสเม่ สโตร์ สาขาไอคอนสยาม มีพื้นที่ราว 300 ตร.ม. ใช้เงินลงทุนกว่า 20 ล้านบาท โดยมีแผนจะเปิดสาขา 2 ที่สยามเซ็นเตอร์ และจะขยายสาขาให้ได้ 5 แห่งภายในระยะเวลา 3 ปีพร้อมกับมีรายได้รวม 300 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวเว็บไซต์และแอพพลิเคชัน @cosme เป็นภาษาไทยเพื่อนำเสนอสินค้า บริการและข้อมูลต่างๆ ให้กับลูกค้าคนไทยด้วย
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,423 ระหว่างวันที่ 2-5 ธันวาคม 2561
นายเท็ตสึโระ โยชิมัตสึ กรรมการบริษัท และกรรมการผู้จัดการ ไอสไตล์ อิงก์ (istyle Inc.) เจ้า ของเว็บไซต์ สื่อออนไลน์ และร้านจำหน่ายเครื่องสำอาง ภายใต้แบรนด์ “แอทคอสเม่ สโตร์” (@cosme store) ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทเปิดให้บริการ แอทคอสเม่ สโตร์ สาขาไอคอนสยาม ขึ้นภายใต้การดูแลของบริษัท ไอสไตล์ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด ถือเป็นร้านคอสเม่ซีเล็คช็อป ที่เน้นจำหน่ายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ของแอทคอสเม่ สโตร์ สาขาแรกในภูมิภาคอาเซียนและสาขาแรกในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “Experience, Discover, Your @cosme”
“ประเทศไทยเป็นตลาดเครื่องสำอางที่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในเอเชีย โดยในปีที่ผ่านมาตลาดเครื่องสำอางในไทยมี มูลค่ากว่า 1.98 แสนล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตได้ถึง 2.6 แสนล้านบาทในปี 2565 นอกจากนี้แอทคอสเม่ยังเป็นที่รู้จักของคนไทย ทำให้บริษัทมองเห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการทำตลาดในเมืองไทย”
[caption id="attachment_355163" align="aligncenter" width="369"]
สำหรับแอทคอสเม่ สโตร์สาขาไอคอนสยาม ถือเป็นการเปิดตัวร้านสาขาแรกในศูนย์การค้า และเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ซึ่งการวางผังร้าน จะเป็นการดึงเอาจุดเด่นต่างๆ ของสาขาที่ญี่ปุ่น มารวมไว้ที่นี่ ได้แก่ การคัดเลือกสินค้ามากมาย ตั้งแต่ราคาย่อมเยา ไปจนถึงแบรนด์ดังในห้างสรรพสินค้า เช่นเดียวกับสาขาที่ญี่ปุ่น โดยสาขาไอคอนสยามจะมีสินค้าจากช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องสำอางแบรนด์ดังในห้างสรรพสินค้า เช่น Paul & Joe และ LUNASOL ไปจนถึงเครื่องสำอางราคาย่อมเยา เช่น Canmake
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบริการให้คำปรึกษาปัญหาผิวและคำแนะนำในการแต่งหน้า มีสินค้าให้ทดลองเกือบทุกชนิด มีอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่นเดียวกับร้านในญี่ปุ่น มีโซน อีเวนต์ สเปซ จัดกิจกรรมเช่น แต่งหน้า ฯลฯ มีโซนสำหรับเด็ก เพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับเด็กๆ ขณะเข้ามาเยี่ยมชมร้าน และมีโซนพักผ่อนให้ลูกค้าที่มาเป็นคู่รักหรือครอบครัวได้ผ่อนคลายระหว่างรอเลือกซื้อสินค้า
โดยร้านแอทคอสเม่ สโตร์ สาขาไอคอนสยาม มีสินค้าแบรนด์ต่างๆ มากมาย อาทิ ได้แก่ @cosme nippon, KANEBO, LUNASOL, Anna Sui, Paul & Joe, Excel, FLOWFUSHI, Sekkisei, KATE, Neal’s Yard Remedies, Perfect One, Cher Couleur, Curel, Organika, Canmake, Cezanne ฯลฯ โดยบริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5 แห่ง ภายใน 3 ปีนับจากนี้
อย่างไรก็ดี แอทคอสเม่ เป็นเว็บไซต์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีผู้เข้าชมเว็บไซต์ 16 ล้านคนต่อเดือน มียอดชมเว็บไซต์ 310 ล้านวิวต่อเดือน มีฐานข้อมูลสินค้า 3.3 หมื่นแบรนด์ รวมถึงคอนเทนต์ด้านการค้นหารีวิวสินค้าและข้อมูลสินค้าใหม่ นับตั้งแต่วันที่เปิดเว็บไซต์ ยอดรีวิวสินค้าของสมาชิกและยอดชมเว็บไซต์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมียอดรีวิวมากกว่า 14 ล้านรีวิว
ทั้งนี้บริษัท ไอสไตล์ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เป็นการร่วมทุนระหว่างไอสไตล์ อิงก์กับบริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้งฯ บริษัท ในกลุ่มสยามพิวรรธน์ ถือหุ้นในสัดส่วน 70:30 ขณะที่แอทคอสเม่ สโตร์ สาขาไอคอนสยาม มีพื้นที่ราว 300 ตร.ม. ใช้เงินลงทุนกว่า 20 ล้านบาท โดยมีแผนจะเปิดสาขา 2 ที่สยามเซ็นเตอร์ และจะขยายสาขาให้ได้ 5 แห่งภายในระยะเวลา 3 ปีพร้อมกับมีรายได้รวม 300 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวเว็บไซต์และแอพพลิเคชัน @cosme เป็นภาษาไทยเพื่อนำเสนอสินค้า บริการและข้อมูลต่างๆ ให้กับลูกค้าคนไทยด้วย
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,423 ระหว่างวันที่ 2-5 ธันวาคม 2561
