'มามอนด์' ยอดขายโต 200%!! สาวไทยเห่อแรง ปลุกเมกอัพเกาหลีคึกคัก
เมกอัพเกาหลีแรงเว่อร์! "อมอร์แปซิฟิค" ปลื้มยอดขาย "มามอนด์" พุ่งกว่า 200% เล็งนำเข้าสินค้าใหม่ พร้อมขยายช่องทางขายในปีหน้า เผย บริษัทแม่หนุนเต็มที่ ส่ง "พัค ชินฮเย" แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ออกเดินสายโรดโชว์ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นางสาวลาวัณย์ แซ่เฮ้ง ผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดแบรนด์มามอนด์ บริษัท อมอร์แปซิฟิค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์เครื่องสำอางจากเกาหลี ได้แก่ ลาเนจ, โซลวาซู, มามอนด์, อีทูดี้ เฮาส์ และอินนิสฟรี เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา พบว่า แบรนด์มามอนด์ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางจากเกาหลีได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้มียอดขายเติบโตกว่า 200% สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมมากสุด คือ ลิปสติกและโทนเนอร์ ได้แก่ มามอนด์ ฟลาวเวอร์ โทนเนอร์ซีรีส์ (Mamonde Flower Toner Series)
[caption id="attachment_338207" align="aligncenter" width="335"]
ลาวัณย์ แซ่เฮ้ง[/caption]
ทั้งนี้ มามอนด์เข้ามาวางจำหน่ายในเมืองไทยตั้งแต่ปี 2556 ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่ม ได้แก่ สกินแคร์ อาทิ ครีมบำรุงผิว โทนเนอร์ ฯลฯ จำนวน 30-40 รายการ และเครื่องสำอางหรือเมกอัพ อาทิ ลิปสติก คุชชั่น ฯลฯ จำนวน 100 รายการ เน้นจำหน่ายผ่านร้านบิวตี้ มัลติแบรนด์ ช้อป ได้แก่ อีฟ แอนด์ บอย และเซโฟร่า โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวมิลเลนเนียล ที่มีอายุ 18-30 ปี
"ปีนี้เป็นปีแรกที่มามอนด์ขยายช่องทางการจำหน่ายไปในร้านอีฟ แอนด์ บอย ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น และกระแสตอบรับดีมาก อีกทั้งยังเปิดตัวสินค้าใหม่ ทั้งลิปสติกและโทนเนอร์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้ คาดว่าจนถึงสิ้นปีจะมีการเติบโตกว่า 220%"
อย่างไรก็ดี กระแสนิยมเครื่องสำอางเกาหลียังมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้แบรนด์ต่าง ๆ จากเกาหลีได้รับความนิยมตามไปด้วย จึงมีแบรนด์สินค้าใหม่ ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก ขณะที่ ในปีหน้าบริษัทมีแผนนำเข้าไลน์สินค้าอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น เพราะบริษัทแม่ยังมีสินค้าที่พัฒนาและวิจัยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และปัจจุบัน มีสินค้าที่วางจำหน่าย 200-300 รายการ จึงเป็นโอกาสที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับตลาดที่เติบโต โดยในปีหน้าบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขายมามอนด์เติบโตเพิ่มขึ้นราว 40%
ด้าน กลยุทธ์การทำตลาดในไตรมาสสุดท้ายนี้ บริษัทจัดงาน มามอนด์ "การ์เด้น อิน เดอะ ซิตี้" (Mamonde 'Garden in the City') ถือเป็นอีเวนต์ใหญ่ประจำปี เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์มามอนด์ และนำเสนอสตอรีที่ถ่ายทอดความเป็นมา คุณสมบัติของแต่ละผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีที่มาและส่วนผสมของดอกไม้นานาพรรณ โดยภายในงานจะแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ เช่น โซนผลิตภัณฑ์นำเสนอสินค้า พร้อมทดลองแต่งหน้า, โซน AR แอพพลิเคชันที่บอกเล่าประวัติของดอกไม้สายพันธุ์ต่าง ๆ ที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ เป็นต้น และไฮไลต์ของงานจะเป็นการเปิดตัว "พัค ชินฮเย" แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของมามอนด์ ที่จะมาเปิดเผยถึงเคล็ดลับในการดูแลผิว นอกจากนี้ ในเดือน พ.ย. - ธ.ค. นี้ บริษัทเตรียมจัดทำชุดผลิตภัณฑ์ฮอลิเดย์เซต ซึ่งประกอบไปด้วย ลิปสติก โทนเนอร์ ครีมบำรุงผิว ฯลฯ เพื่อเป็นชุดของขวัญของฝากสำหรับช่วงเพรสทีจ ด้วย
"ที่ผ่านมา บริษัทแม่ (อมอร์แปซิฟิค เกาหลี) ให้การสนับสนุนและส่งเสริมด้านการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดอีเวนต์และแคมเปญต่าง ๆ รวมถึงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น การจัดอีเวนต์ Mamonde 'Garden in the City' ในครั้งนี้ก็ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากการเดินสายมาสร้างสีสันและทำกิจกรรมด้านการตลาดที่ประเทศไทยแล้ว พัค ชินฮเย ซึ่งเป็นโกลบัลแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ จะเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ อาทิ จีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย เพื่อร่วมโปรโมตสินค้าด้วย"
หน้า 34 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3413 ระหว่างวันที่ 28 - 31 ตุลาคม 2561
นางสาวลาวัณย์ แซ่เฮ้ง ผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดแบรนด์มามอนด์ บริษัท อมอร์แปซิฟิค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์เครื่องสำอางจากเกาหลี ได้แก่ ลาเนจ, โซลวาซู, มามอนด์, อีทูดี้ เฮาส์ และอินนิสฟรี เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา พบว่า แบรนด์มามอนด์ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางจากเกาหลีได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้มียอดขายเติบโตกว่า 200% สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมมากสุด คือ ลิปสติกและโทนเนอร์ ได้แก่ มามอนด์ ฟลาวเวอร์ โทนเนอร์ซีรีส์ (Mamonde Flower Toner Series)
[caption id="attachment_338207" align="aligncenter" width="335"]
ทั้งนี้ มามอนด์เข้ามาวางจำหน่ายในเมืองไทยตั้งแต่ปี 2556 ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่ม ได้แก่ สกินแคร์ อาทิ ครีมบำรุงผิว โทนเนอร์ ฯลฯ จำนวน 30-40 รายการ และเครื่องสำอางหรือเมกอัพ อาทิ ลิปสติก คุชชั่น ฯลฯ จำนวน 100 รายการ เน้นจำหน่ายผ่านร้านบิวตี้ มัลติแบรนด์ ช้อป ได้แก่ อีฟ แอนด์ บอย และเซโฟร่า โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวมิลเลนเนียล ที่มีอายุ 18-30 ปี
"ปีนี้เป็นปีแรกที่มามอนด์ขยายช่องทางการจำหน่ายไปในร้านอีฟ แอนด์ บอย ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น และกระแสตอบรับดีมาก อีกทั้งยังเปิดตัวสินค้าใหม่ ทั้งลิปสติกและโทนเนอร์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้ คาดว่าจนถึงสิ้นปีจะมีการเติบโตกว่า 220%"
อย่างไรก็ดี กระแสนิยมเครื่องสำอางเกาหลียังมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้แบรนด์ต่าง ๆ จากเกาหลีได้รับความนิยมตามไปด้วย จึงมีแบรนด์สินค้าใหม่ ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก ขณะที่ ในปีหน้าบริษัทมีแผนนำเข้าไลน์สินค้าอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น เพราะบริษัทแม่ยังมีสินค้าที่พัฒนาและวิจัยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และปัจจุบัน มีสินค้าที่วางจำหน่าย 200-300 รายการ จึงเป็นโอกาสที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับตลาดที่เติบโต โดยในปีหน้าบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขายมามอนด์เติบโตเพิ่มขึ้นราว 40%
ด้าน กลยุทธ์การทำตลาดในไตรมาสสุดท้ายนี้ บริษัทจัดงาน มามอนด์ "การ์เด้น อิน เดอะ ซิตี้" (Mamonde 'Garden in the City') ถือเป็นอีเวนต์ใหญ่ประจำปี เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์มามอนด์ และนำเสนอสตอรีที่ถ่ายทอดความเป็นมา คุณสมบัติของแต่ละผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีที่มาและส่วนผสมของดอกไม้นานาพรรณ โดยภายในงานจะแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ เช่น โซนผลิตภัณฑ์นำเสนอสินค้า พร้อมทดลองแต่งหน้า, โซน AR แอพพลิเคชันที่บอกเล่าประวัติของดอกไม้สายพันธุ์ต่าง ๆ ที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ เป็นต้น และไฮไลต์ของงานจะเป็นการเปิดตัว "พัค ชินฮเย" แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของมามอนด์ ที่จะมาเปิดเผยถึงเคล็ดลับในการดูแลผิว นอกจากนี้ ในเดือน พ.ย. - ธ.ค. นี้ บริษัทเตรียมจัดทำชุดผลิตภัณฑ์ฮอลิเดย์เซต ซึ่งประกอบไปด้วย ลิปสติก โทนเนอร์ ครีมบำรุงผิว ฯลฯ เพื่อเป็นชุดของขวัญของฝากสำหรับช่วงเพรสทีจ ด้วย
"ที่ผ่านมา บริษัทแม่ (อมอร์แปซิฟิค เกาหลี) ให้การสนับสนุนและส่งเสริมด้านการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดอีเวนต์และแคมเปญต่าง ๆ รวมถึงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น การจัดอีเวนต์ Mamonde 'Garden in the City' ในครั้งนี้ก็ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากการเดินสายมาสร้างสีสันและทำกิจกรรมด้านการตลาดที่ประเทศไทยแล้ว พัค ชินฮเย ซึ่งเป็นโกลบัลแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ จะเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ อาทิ จีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย เพื่อร่วมโปรโมตสินค้าด้วย"
หน้า 34 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3413 ระหว่างวันที่ 28 - 31 ตุลาคม 2561
