"ธนจิราฯ" กางแผนเจาะตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์แฟชั่นเมืองไทย

18 ต.ค. 2561 | 08:59 น.
"ธนจิราฯ" เปิดโรดแมปเจาะตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์แฟชั่นเมืองไทย ชู "แพนดอร่า" แบรนด์เรือธงหลักสร้างรายได้ ล่าสุด เปิดเกมรุกตลาดส่งท้ายปี คลอด 2 คอลเลคชั่นล่าสุด เจาะกลุ่มสาวยุคใหม่ ประเดิมด้วย "PANDORA REFLEXIONS" พร้อมเตรียมส่งคอลเลคชั่น "PURELY PANDORA" ในช่วงเดือน พ.ย. นี้ มั่นใจ! สิ้นปีแพนดอร่าเติบโต 28% พร้อมผลักดันผลประกอบการรวมทั้งกรุ๊ปเติบโต 27%



PANDORA 8 Years Anniversary 1

นายธนพงษ์ จิราพาณิชกุล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้จัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์แฟชั่นจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับบริษัท นโยบายการทำงานนับจากนี้จะให้ความสำคัญในการเลือกพันธมิตรเพื่อนำมารุกตลาดในประเทศไทย โดยจะเน้นพันธมิตรระดับโลกที่มีเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่แตกต่าง มีพลังในการดึงดูดลูกค้าได้ตลอดเวลา ที่สำคัญต้องเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนไทย ซึ่งปัจจุบัน ธนจิรามีแบรนด์ภายใต้การบริหารรวมทั้งสิ้น 4 แบรนด์ ได้แก่ "แพนดอร่า" (PANDORA), "มารีเมกโกะ" (MARIMEKKO), "แคท คิดสตัน" (CATH KIDSTON) และเป็นเจ้าของแบรนด์ "ทิลด้า" (TILDA) โดย "แพนดอร่า" ถือเป็นเรือธงสำคัญที่ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต สะท้อนจากสัดส่วนยอดขายที่สูงถึง 65% ล่าสุด ฉลองครบรอบ 8 ปีในการทำตลาดในประเทศไทย ประกาศต่อยอดความสำเร็จเดินหน้ารุกตลาดเต็มสูบ เพื่อครองความเป็นผู้นำไลฟ์สไตล์จิวเวลรี่อย่างต่อเนื่อง


55

สำหรับปัจจัยความสำเร็จของแพนดอร่าภายใต้การบริหารของธนจิรา คือ การทำความเข้าใจแบรนด์และเข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง จึงไม่เน้นกลยุทธ์การลดราคาสินค้า แต่จะให้ความสำคัญกับการสร้าง Positioning ของแบรนด์ โดยวางให้เป็น "ของขวัญที่ดีที่สุดในทุกโอกาส" และปรับกลุ่มเป้าหมายหลักให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเจาะกลุ่ม Y-W-N หรือ Youth-Women-Netizens คือ กลุ่มผู้หญิงวัยรุ่นและวัยทำงาน ที่ใช้โซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มีความเป็นตัวของตัวเอง คิดและตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีและเหมาะให้แก่ตัวเองได้เสมอ ขณะเดียวกันยังเดินหน้าสร้างแบรนด์ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดและมั่นคงด้วย 2 กลยุทธ์ ดังนี้ 1.มุ่งเน้นการทำตลาดให้เข้ากับบริบทในประเทศ ด้วยความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดในประเทศไทย ผ่านการขยายสาขาในเวลาอันรวดเร็วบนพื้นที่ยุทธศาสตร์ การสื่อสารและให้ความรู้กับกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับแบรนด์อยู่เสมอ


PANDORA REFLEXIONS 1

ทั้งยังเดินหน้ายกระดับมาตรฐานการบริการ โดยได้เปิด "ธนจิรา เทรนนิ่ง อะคาเดมี่" ศูนย์พัฒนาทักษะของทีมพนักงานขาย ล่าสุด ทุ่มงบกว่า 28 ล้านบาท เปิด "แพนดอร่า แฟล็กชิพสโตร์" รูปโฉมใหม่แห่งแรกในประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิก ภายใต้คอนเซ็ปต์ "A New Evolution Design" เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับบริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟด้วยมาตรฐานแบบลักชัวรี่แบรนด์ โดยเปิดให้บริการบริเวณชั้น 1 โซนเซ็นทรัลคอร์ท (ลิฟท์แก้ว) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

ขณะที่ แผนการดำเนินงานต่อจากนี้ จะยังคงขับเคลื่อนแบรนด์ด้วย 2 กลยุทธ์หลัก พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำกลุ่มสินค้าสร้อยข้อมือและชาร์ม ขยายกลุ่มสินค้าประเภทแหวน ต่างหู สร้อยคอและจี้ ให้มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น และใช้กลยุทธ์ "ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง" มาสร้างประสบการณ์และความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคผ่านโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2561 ยังรุกตลาดด้วยการเปิดตัว 2 คอลเลคชั่นใหม่ ประเดิมด้วย "PANDORA REFLEXIONS" สร้อยข้อมือและชาร์มสุดโมเดิร์น ที่ผสานแฟชั่นและฟังก์ชั่นเข้าด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมเตรียมส่งคอลเลคชั่น "PURELY PANDORA" ช่วงเดือน พ.ย. นี้


PANDORA Flagship Store 1

"อย่างไรก็ตาม จากการขับเคลื่อนแบรนด์ตามกลยุทธ์ที่กล่าวมาข้างต้น ส่งผลให้ในปีนี้แพนดอร่ามีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 34 สาขา สามารถขยายฐานกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ทั้งกลุ่มคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งปัจจุบัน มีสัดส่วนลูกค้าเป็นคนไทยถึง 85% และต่างชาติ 15%  มั่นใจสิ้นปีแพนดอร่าเติบโต 28% และผลักดันให้ผลประกอบการรวมของบริษัทเติบโต 27% พร้อมเผยแผนการดำเนินงานในปี 2562 จะยังคงเดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์แนวโน้มตลาดไลฟ์สไตล์จิวเวลรี่ที่ยังคงมีการเติบโตได้ดี พร้อมกันนี้บริษัทยังเล็งขยายธุรกิจกลุ่มไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์คนเมือง เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์แฟชั่นจากต่างประเทศ เพื่อผลักดันให้บริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายภายในปี 2563 แพนดอร่าจะมียอดขาย 1,200 ล้านบาท และสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตามแผนโรดแมปอีกด้วย" นายธนพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

595959859