หั่นแบงก์แอสชัวรันซ์เหลือ40%
กรุงเทพประกันชีวิต เดินหน้าปรับโครงสร้างช่องทางการขาย บุคลากร ลดผลกระทบเกณฑ์ Market Conduct เข้ม ลั่น 3 ปี ดันช่องทางตัวแทนเพิ่มจาก 20% เป็น 40% พร้อมลดประกันผ่านธนาคารจาก 70% เหลือ 40% พร้อมลงทุนพัฒนาแอพพลิเคชัน ตั้งเป้าดูดลูกค้าใช้ 3-5% จากฐานลูกค้า 1 ล้านราย
ม.ล.จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด(มหาชน)หรือ BLA เปิดเผยว่า บริษัทต้องการปรับโครงสร้างช่องทางการขายใหม่ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยภายใน 3 ปี จะเพิ่มสัดส่วนช่องทางขายผ่านตัวแทนจาก 20% เป็น 40% และลดช่องทางผ่านธนาคาร(แบงก์แอสชัวรันซ์)จาก 70-75% เหลือ 40% ที่เหลือเป็นประกันกลุ่มและขายตรง โดยช่องทางตัวแทนจะเน้นความคุ้มครองและสะสมทรัพย์ 12-15 ปี ส่วนแบงก์แอสชัวรันซ์จะเป็นความคุ้มครองพ่วงสินเชื่อบ้าน รวมถึงสะสมทรัพย์ 15-20 ปี โดยสัดส่วนผลิตภัณฑ์ปัจจุบัน ความคุ้มครอง 80% สะสมทรัพย์ 10% และอีก 10% จะเป็นสุขภาพ
[caption id="attachment_330779" align="aligncenter" width="335"]
ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรงและคู่แข่งที่แข็งแรง ประกอบกับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market Conduct) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้ช่องทางขายประกันผ่านแบงก์แอสชัวรันซ์ มียอดเติบโตน้อยลง ดังนั้นหากไม่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างช่องทางการขายและบุคลากร บริษัทจะไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้ เพราะผลกระทบจากธนาคารซึ่งเป็นพันธมิตรหลักทางธุรกิจ ถือเป็นช่องทางใหญ่ของบริษัท
อย่างไรก็ดี หากดูตัวเลขผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปีพบว่า ยอดธุรกิจเบี้ยรับใหม่เติบโต 8% สอดคล้องกับระบบที่ขยายตัว 8% ขณะที่ช่องทางขายประกันผ่านธนาคารขยายตัวเพียง 9% จากทั้งระบบอยู่ที่ 13% ช่องทางตัวแทนเติบโต 5% ขณะที่ทั้งระบบติดลบ 3% และช่องทางขายตรงเติบโต 18% ทั้งระบบติดลบ 24% สะท้อนว่าบริษัทยังมีอัตราการเติบโตสูงกว่าธุรกิจประกันชีวิต
“ปีนี้ทั้งปี เรายังคงเป้าเติบโตเบี้ยใหม่ที่ 10% เนื่องจากไตรมาส 4 เป็นช่วงที่ยอดขายเติบโตดี ส่วนหนึ่งมาจากลูกค้าซื้อเพื่อลดหย่อนภาษี และบริษัทประกันต่างๆ เร่งปิดยอดการขาย”
ขณะเดียวกัน จากแนวโน้มดิจิตอลที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น บริษัทจึงได้ลงทุนพัฒนาแอพพลิเคชัน BLA Mobile Application โดยใช้งบลงทุนหลักสิบล้านบาท เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าสามารถดูกรมธรรม์และความคุ้มครองแบบรายเดือนและรายวันและสามารถชำระค่าเบี้ยได้ คาดว่าหลังเปิดตัว 1 ปีจะมีลูกค้าเข้ามาใช้ 3-5% จากฐานลูกค้าที่มีทั้งหมดกว่า 1 ล้านรายหรือ 3-5 หมื่นคน
หน้า 23-24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,408 วันที่ 11 - 13 ตุลาคม พ.ศ. 2561
