แนะจับตา! ตัวเลขดัชนี PPI สหรัฐฯ วันพุธนี้ (10 ต.ค.)

09 ต.ค. 2561 | 11:18 น.
ภาวะทองคำวันที่ 9 ต.ค. 2561 ราคาแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,187.60-1,191.89 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,600 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,700 บาทต่อบาททองคำ

แนวโน้มวันที่ 10 ต.ค. 2561

แม้ความวิตกกังวลที่ว่า เศรษฐกิจจีนกำลังได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ จะช่วยกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเข้ามาบ้าง แต่การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำยังคงอยู่ในกรอบจำกัด โดยทองคำถูกสกัดช่วงบวกจากการที่ดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงทรงตัวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ ค่าเงินหยวนถึงแม้จะฟื้นตัวขึ้นในวันนี้ แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า การฟื้นตัวขึ้นจะคงอยู่เพียงระยะสั้นจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะผ่อนคลายนโยบายต่อไป เพื่อที่จะเสริมสภาพคล่องและพยุงเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ

นอกจากนี้ ค่าเงินหยวนยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน หลังสำนักข่าว Bloomberg รายงานโดยอ้างความเห็นของเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กำลังจับตาความเคลื่อนไหวของเงินหยวนอย่างใกล้ชิดและกำลังพิจารณาว่า จะระบุว่า จีนเป็นประเทศปั่นค่าเงินในรายงานรอบครึ่งปีว่าด้วยประเทศที่บิดเบือนค่าเงินหรือไม่ ซึ่งจะมีกำหนดการรายงานในวันที่ 15 ต.ค. หลังจากเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (Required Reserve Ratio RRR) ลง 1% โดยจะมีผลบังคับใช้วันที่ 15 ต.ค. นี้ ขณะที่ ในวันอังคารที่ 9 ต.ค. China Foreign Exchange Trading System (CFETS) ได้กำหนดค่ากลางเงินหยวน (Yuan daily fixing) ให้อ่อนค่ามากกว่า 6.90 หยวนต่อดอลลาร์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2560

สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลเชิงลบต่อเงินหยวน ซึ่งช่วยหนุนดอลลาร์จนส่งผลกดดันการฟื้นตัวขึ้นของราคาทองคำ เบื้องต้น แนะนำนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีผู้ผลิตสหรัฐฯ (PPI) ในวันพุธ ขณะที่ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PPI จะปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือน ก.ย. หลังจากปรับตัวลดลง -0.1% ในเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นการปรับลดลงครั้งแรกในรอบ 1 ปีครึ่ง

หากตัวเลข PPI ดีดตัวขึ้นมากกว่าที่คาด จะบ่งชี้ถึงแนวโน้มเงินเฟ้อของผู้บริโภค เนื่องจากต้นทุนจากผู้ผลิตที่สูงขึ้นมีแนวโน้มจะส่งผ่านโดยตรงไปสู่ผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นการคาดการณ์เกี่ยวกับการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดและสร้างแรงกดดันให้กับตลาดทองคำ ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงก็จะมีแรงซื้อเกิดขึ้น ทำให้เชื่อได้ว่าราคาทองคำน่าจะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ แต่ต้องยอมรับว่าในช่วงเวลานี้แรงซื้อค่อนข้างน้อย

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำมีลักษณะการเคลื่อนไหวแบบ Sideway และราคายังมีการแกว่งตัวอยู่ ซึ่งนักลงทุนควรติดตามข่าวสารและทิศทางราคาอย่างใกล้ชิด โดยเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,197 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,208 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อ เมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสขยับขึ้นต่อไป เบื้องต้น แนะนำนักลงทุนซื้อขายตามกรอบแนวรับแนวต้านอย่างระมัดระวัง เนื่องจากเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา แนะนำนักลงทุนว่าการรอจังหวะซื้อเมื่อราคาทองคำไหลลงสู่แนวรับสำคัญน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ

595959859