องค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี หรือ เคทีโอ จัดกิจกรรม Korea Culture & Tourism Festival 2018 โปรโมทวัฒนธรรมเกาหลีผ่านงานมหกรรมที่รวบรวมทุก ‘ความเกาหลี’ ขนทัพ ศิลปิน เพลงป๊อป นักแสดง ร่วมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านเสียงดนตรี การร่ายรำ การแต่งกาย อาหาร รวมไปถึงบูธการท่องเที่ยวจากเมืองรองน่าเที่ยวของเกาหลี และบูธการศึกษาต่อ ทั้งได้รับ ความร่วมมือจากสายการบิน บริษัทนำเที่ยวร่วมออกบูธ จัดโปรราคาพิเศษ หวังสร้างแรงจูงใจเพิ่มยอดคนไทยเที่ยวเกาหลีมากขึ้น
นายโก บงกิล ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี ประจำประเทศไทย เปิดเผยถึงภาพรวมนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปประเทศเกาหลีว่า นักท่องเที่ยวไทยเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และมีอัตราเพิ่มขึ้นทุกปี สถิติตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนสิงหาคม 2561 มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวเกาหลี 3.6แสนคน เพิ่มขึ้น18.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
กลยุทธ์ดึงนักท่องเที่ยวไทย เน้นการสร้างความต้องการ จากกระแสนิยมวัฒนธรรมเกาหลี หรือ K-POPถ่ายทอด “เนื้อหาความเป็นเกาหลี”(Korea Content) ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อาหารเกาหลี เทรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าและความงาม ผ่านการใช้นักร้อง นักแสดง เน็ตไอดอลเกาหลี ไม่ว่าจะในรูปแบบของคอนเสิร์ตเคป๊อป ซีรีส์เกาหลี หรือการสร้างคอนเทนท์ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ
เคทีโอได้แต่งตั้งศิลปินเกาหลีวง EXO ให้เป็นทูตการท่องเที่ยวเกาหลีประจำปี 2018 เพื่อดึงดูดและเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยจัดทำวิดีโอ 6 ชุด โปรโมทแตกต่างกันซึ่งแนะนำการท่องเที่ยวของเกาหลีในรูปแบบของ ประวัติศาสตร์และประเพณี ชีวิตประจำวันของเกาหลี การผจญภัย เทรนด์ การบำบัด และคลื่นเกาหลี โดยวิดีโอเหล่านี้ออกมาในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โปรโมททาง โทรทัศน์ Youtube Facebook และสื่อการตลาดดิจิทัลอื่นๆ ไปยังทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
ตั้งแต่ต้นปี เคทีโอมุ่งทำตลาดใน 2กลุ่มหลัก ได้แก่ ขยายตลาดกับกลุ่มนักท่องเที่ยวอินเซนทีฟ ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วถึงกว่า 50% ในช่วงเวลา 4 ปี นับจากปี 2015 ที่มีจำนวน 22,791 คน และคาดว่าปีนี้จะมีเพิ่มขึ้นถึง 40,000 คน เน้นการโปรโมทให้เป็นเดสทิเนชั่น ที่มอบประสบการณ์ที่หลากหลายให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยมุ่งรักษาฐานเดิมในกลุ่มเอฟไอที หรือกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง ซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็น 71.9% ของนักท่องเที่ยวไทยทั้งหมด ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ เน้นทำการตลาดออนไลน์ ผ่านโซเชียล มีเดีย และทำการตลาดออฟไลน์ด้วยโปรโมชั่นพิเศษกับสายการบิน รวมทั้งร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยว พัฒนาโปรแกรมท่องเที่ยวให้เหมาะสม
นอกจากนั้นมีการเสริมโปรดักส์การท่องเที่ยวเฉพาะด้าน อาทิ นำเสนอเสน่ห์ที่แตกต่างของการท่องเที่ยวใน4 ฤดูกาล ได้แก่ สัมผัสหิมะฤดูหนาวและเล่นกีฬาฤดูหนาว โปรโมทดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ และเทศกาลดอกไม้ ฤดูร้อนโปรโมทการช้อปปิ้ง ท่องเที่ยวสวนสนุก ฤดูใบไม้ร่วง เส้นทางใบไม้เปลี่ยนสี และเทศกาลในฤดูใบไม้ร่วง รวมไปถึงเปิดตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สนใจกีฬา เช่นโปรโมททัวร์เทควันโด การท่องเที่ยวเพื่อการแพทย์ สุขภาพและความงาม เป็นต้น
"ในปีนี้เราเปิดแหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง เช่น แดกู กวางจู มุ่งสร้างความร่วมมือกับสายการบิน และบริษัทนำเที่ยวโดยมีการปรับลดค่าธรรมเนียมในการขึ้น-ลงอากาศยาน สำหรับสายการบินที่เข้าไปเปิดเส้นทางใหม่ รวมทั้งสนับสนุนอินเซนทีฟให้กับบริษัทนำเที่ยวที่นำกรุ๊ปทัวร์ไปท่องเที่ยวยังเมืองรอง”
ส่วนแผนการทำตลาดปี 61 ยังเน้นการพัฒนาโปรดักส์ใหม่ๆให้ตรงกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวของแต่ละกลุ่ม มีการส่งเสริมให้สายการบินต่างๆ เปิดเส้นทางบิน และเพิ่มเที่ยวบินไปยังเมืองต่างๆ ของเกาหลีมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางซ้ำ เพิ่มการทำตลาดในกลุ่มนักท่องเที่ยวสูงอายุ สร้างและส่งเสริมภาพแวดล้อมการท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับกลุ่มนักท่องเที่ยวมุสลิม กลุ่มผู้พิการ และส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น สนับสนุนบริษัท Startup และบริษัทขนาดเล็กที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลด้านการท่องเที่ยวเกาหลีแบบครบวงจรในหลายภาษา ให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงผ่านช่องทางออนไลน์ อย่างแอพพลิเคชั่น และเว็บไซต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มนักท่องเที่ยวเอฟไอที