'เซ้นส์ฯ' โว 5 ปี ขึ้นฮับวาไรตี! บุกคอนเทนต์อาเซียน ตั้งเป้าโกยรายได้ 660 ล้าน
"เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์" ตั้งเป้า 3-5 ปี ก้าวเป็นฮับวาไรตีและเกมโชว์ ส่งออกคอนเทนต์สู่อาเซียน ตั้งเป้าสิ้นปีนี้มีรายได้กว่า 660 ล้านบาท ล่าสุด จับมือ Shopee นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ผ่านการโหวต หวังสร้าง Interactive ต่อผู้ชม
[caption id="attachment_331027" align="aligncenter" width="503"]
วราวุธ เจนธนากุล[/caption]
นายวราวุธ เจนธนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ปีนี้บริษัทวางงบการลงทุนผลิตคอนเทนต์ราว 500 ล้านบาท และคาดว่าจะมีรายได้สิ้นปีกว่า 660 ล้านบาท ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้จับมือกับพันธมิตรประเทศญี่ปุ่น ผลิตรายการร่วมกัน โดยมีเป้าหมายภายใน 3-5 ปี จะก้าวเป็นฮับกลุ่มรายการวาไรตีและเกมโชว์ โดยส่งออกคอนเทนต์สู่ตลาดอาเซียน เนื่องจากบริษัทมองว่า ปัจจุบันบริษัทมีจุดแข็งด้านการผลิตรายการวาไรตีและเกมโชว์เป็นผู้นำของประเทศไทย
"ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า ตลาดคอนเทนต์มีการแข่งขันสูงขึ้น สอดคล้องกับช่องทีวีดิจิตอลที่มีเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการคอนเทนต์วันนี้ทำงานยากมากขึ้น เนื่องจากต้องคิดและทำงานซับซ้อนแตกต่างไปจากเดิม เพื่อหวังจับผู้ชมในปัจจุบันที่มีความต้องการรับชมคอนเทนต์ที่เฉพาะกลุ่มมากขึ้น ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจึงได้พูดคุยกับพาร์ตเนอร์ทั้งในรูปแบบสื่อออฟไลน์และออนไลน์มากขึ้น พร้อมวางแผนผลิตคอนเทนต์รูปแบบใหม่ที่สามารถ Interactive กับผู้ชมได้มากขึ้น โดยล่าสุด ได้มีธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ Shopee เข้ามาเป็นพันธมิตร ใช้การโหวตผ่านรายการเปลี่ยนหน้า ท้าโชว์ จากเดิมที่เคยโหวตผ่านระบบ SMS เท่านั้น"
ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้เตรียมจับมือกับพันธมิตรใหม่จากประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยนำรายการเกมโชว์ฟอร์แมตที่คนดูสามารถร่วมเล่นเกมไปพร้อมกับการจัดรายการ โดยผ่านทางแอพพลิเคชัน อาทิ Five Golden Ring ซึ่งจะออกอากาศผ่านทางช่อง 7 HD อีกทั้งในอนาคตบริษัทมองว่า จากการแข่งขันของทีวีดิจิตอลที่สูงขึ้น ส่งผลให้การทำงานของช่องทีวีและผู้ผลิตคอนเทนต์โพรไวเดอร์ทำงานลำบากมากขึ้น ดังนั้น ในเร็ว ๆ นี้ จะเห็นผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือ ผู้ผลิตคอนเทนต์โพรไวเดอร์ เข้ามาร่วมเป็นหุ้นส่วนหรือทำงานร่วมกันมากขึ้น เช่นเดียวกับบริษัท ที่ในปัจจุบันเริ่มคุยกับช่องโทรทัศน์เพื่อหาวิธีการลงทุนและทำงานร่วมกัน
"ตลาดคอนเทนต์ในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงขึ้น เนื่องจากช่องทีวีที่มีเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังแข่งขันกันที่เรตติ้งทีวี ส่งผลให้ที่ผ่านมา ในช่วงไตรมาส 3 ตลาดคอนเทนต์และสื่อทีวีดิจิตอลได้รับผลกระทบอย่างหนักจากรายได้โฆษณา จนมีบางรายการปิดตัวไป ขณะที่ บริษัทเองก็ต้องทำงานอย่างหนัก โดยการหากลยุทธ์ที่แตกต่างเพื่อจับผู้ชมที่มีพฤติกรรมเฉพาะกลุ่มมากขึ้น รวมถึงการจับมือร่วมกับพันธมิตรใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ รูปแบบของช่องทีวี และคอนเทนต์โพรไวเดอร์ ซึ่งแนวโน้มหากทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดการณ์ บริษัทเชื่อว่า ในปีหน้าจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้รวมกว่า 700 ล้านบาทอย่างแน่นอน"
ปัจจุบัน บริษัทผลิตคอนเทนต์จำนวนทั้งสิ้นกว่า 10 รายการ แบ่งเป็น 1.รายการที่ผลิตและขายโฆษณาเอง 6 รายการ อาทิ ตกสิบหยิบล้าน ร้องแลกแจกเงิน บริษัท ฮาไม่จำกัด เป็นต้น 2.รายการ Seosonal Program 2 รายการ อาทิ นักปั้นมือทอง เฮมันโชว์ และรายการรับจ้างผลิตทางช่อง PPTV และ TRUE4U รายการ คือ ตลาดสัมผัส และโชว์ มี เดอะ มันนี่ เป็นต้น
หน้า 34 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,408 ระหว่างวันที่ 11-13 ตุลาคม 2561
[caption id="attachment_331027" align="aligncenter" width="503"]
นายวราวุธ เจนธนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ปีนี้บริษัทวางงบการลงทุนผลิตคอนเทนต์ราว 500 ล้านบาท และคาดว่าจะมีรายได้สิ้นปีกว่า 660 ล้านบาท ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้จับมือกับพันธมิตรประเทศญี่ปุ่น ผลิตรายการร่วมกัน โดยมีเป้าหมายภายใน 3-5 ปี จะก้าวเป็นฮับกลุ่มรายการวาไรตีและเกมโชว์ โดยส่งออกคอนเทนต์สู่ตลาดอาเซียน เนื่องจากบริษัทมองว่า ปัจจุบันบริษัทมีจุดแข็งด้านการผลิตรายการวาไรตีและเกมโชว์เป็นผู้นำของประเทศไทย
"ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า ตลาดคอนเทนต์มีการแข่งขันสูงขึ้น สอดคล้องกับช่องทีวีดิจิตอลที่มีเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการคอนเทนต์วันนี้ทำงานยากมากขึ้น เนื่องจากต้องคิดและทำงานซับซ้อนแตกต่างไปจากเดิม เพื่อหวังจับผู้ชมในปัจจุบันที่มีความต้องการรับชมคอนเทนต์ที่เฉพาะกลุ่มมากขึ้น ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจึงได้พูดคุยกับพาร์ตเนอร์ทั้งในรูปแบบสื่อออฟไลน์และออนไลน์มากขึ้น พร้อมวางแผนผลิตคอนเทนต์รูปแบบใหม่ที่สามารถ Interactive กับผู้ชมได้มากขึ้น โดยล่าสุด ได้มีธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ Shopee เข้ามาเป็นพันธมิตร ใช้การโหวตผ่านรายการเปลี่ยนหน้า ท้าโชว์ จากเดิมที่เคยโหวตผ่านระบบ SMS เท่านั้น"
ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้เตรียมจับมือกับพันธมิตรใหม่จากประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยนำรายการเกมโชว์ฟอร์แมตที่คนดูสามารถร่วมเล่นเกมไปพร้อมกับการจัดรายการ โดยผ่านทางแอพพลิเคชัน อาทิ Five Golden Ring ซึ่งจะออกอากาศผ่านทางช่อง 7 HD อีกทั้งในอนาคตบริษัทมองว่า จากการแข่งขันของทีวีดิจิตอลที่สูงขึ้น ส่งผลให้การทำงานของช่องทีวีและผู้ผลิตคอนเทนต์โพรไวเดอร์ทำงานลำบากมากขึ้น ดังนั้น ในเร็ว ๆ นี้ จะเห็นผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือ ผู้ผลิตคอนเทนต์โพรไวเดอร์ เข้ามาร่วมเป็นหุ้นส่วนหรือทำงานร่วมกันมากขึ้น เช่นเดียวกับบริษัท ที่ในปัจจุบันเริ่มคุยกับช่องโทรทัศน์เพื่อหาวิธีการลงทุนและทำงานร่วมกัน
"ตลาดคอนเทนต์ในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงขึ้น เนื่องจากช่องทีวีที่มีเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังแข่งขันกันที่เรตติ้งทีวี ส่งผลให้ที่ผ่านมา ในช่วงไตรมาส 3 ตลาดคอนเทนต์และสื่อทีวีดิจิตอลได้รับผลกระทบอย่างหนักจากรายได้โฆษณา จนมีบางรายการปิดตัวไป ขณะที่ บริษัทเองก็ต้องทำงานอย่างหนัก โดยการหากลยุทธ์ที่แตกต่างเพื่อจับผู้ชมที่มีพฤติกรรมเฉพาะกลุ่มมากขึ้น รวมถึงการจับมือร่วมกับพันธมิตรใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ รูปแบบของช่องทีวี และคอนเทนต์โพรไวเดอร์ ซึ่งแนวโน้มหากทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดการณ์ บริษัทเชื่อว่า ในปีหน้าจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้รวมกว่า 700 ล้านบาทอย่างแน่นอน"
ปัจจุบัน บริษัทผลิตคอนเทนต์จำนวนทั้งสิ้นกว่า 10 รายการ แบ่งเป็น 1.รายการที่ผลิตและขายโฆษณาเอง 6 รายการ อาทิ ตกสิบหยิบล้าน ร้องแลกแจกเงิน บริษัท ฮาไม่จำกัด เป็นต้น 2.รายการ Seosonal Program 2 รายการ อาทิ นักปั้นมือทอง เฮมันโชว์ และรายการรับจ้างผลิตทางช่อง PPTV และ TRUE4U รายการ คือ ตลาดสัมผัส และโชว์ มี เดอะ มันนี่ เป็นต้น
หน้า 34 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,408 ระหว่างวันที่ 11-13 ตุลาคม 2561
