Play
"TASTE" ปรับแผนรับเทรนด์นักชิม
"TASTE" ชี้! ทิศธุรกิจบริการด้านอาหาร ทั้งการออกแบบ จัดอีเวนต์ ที่ปรึกษาในไทย มาแรงตามเทรนด์ตลาดโลก เร่งปั้นแบรนด์เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมเสริมบริการครบวงจร คาดสิ้นปีมีรายได้กว่า 100 ล้านบาท
นางไอริณ ฤกษะสาร ผู้ร่วมก่อตั้งและบรรณาธิการ บริษัท ไทยไกด์ เกตเวย์ มีเดีย จำกัด หรือ TASTE inc.Asia เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัทเป็นรูปแบบธุรกิจอาหารครบวงจร ให้บริการใน 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.การจัดงานอีเวนต์ เกี่ยวข้องกับอาหาร มีสัดส่วนรายได้ปัจจุบันอยู่ที่ 70% 2.การจัดการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับเชฟ ทั้งในและต่างประเทศ (โมเดลลิ่ง) สัดส่วนรายได้ 20% 3.ที่ปรึกษาธุรกิจร้านอาหารสัด ส่วนรายได้ที่ 10% โดยเบื้องต้น ตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้ 80-100 ล้านบาทในสิ้นปีนี้
[caption id="attachment_326613" align="aligncenter" width="319"]
ไอริณ ฤกษะสาร[/caption]
"บริษัทมองว่า อุตสาหกรรมธุรกิจอาหารเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันประกอบกับเทรนด์กลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่กำลังนิยม Foodie หรือ นักกิน นักชิม มีการเติบโตและเป็นกลุ่มขนาดใหญ่อยู่ในทั่วโลก ซึ่งในตลาดต่างประเทศ มีธุรกิจข้างต้นเกิดขึ้นมาสักพักแล้ว ขณะที่ ตลาดในประเทศไทยยังมีผู้เล่นไม่มากนัก จึงนับว่าเป็นช่องว่างและโอกาสของบริษัทที่เลือกทำธุรกิจประเภทนี้"
ปัจจุบันพบว่า มีแบรนด์ หรือองค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ อาทิ ไทยเบฟ , ปตท. , ธนาคารกรุงเทพ และ ททท. เป็นต้น เริ่มให้ความสนใจกับการจัดกิจกรรม หรือ อีเวนต์ที่เกี่ยวข้องกับอาหารจำนวนมาก โดยเฉพาะแบรนด์ระดับลักชัวรีที่มุ่งเน้นการจัดงานรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ต้องการให้ลูกค้า หรือ สมาชิกของแบรนด์ได้รับประสบการณ์ดินเนอร์ หรือ รับประทานอาหารสุดพิเศษ ซึ่งอัตราการเติบโตของธุรกิจการบริการการจัดงานเลี้ยงด้านอาหารเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% ต่อปี บริษัทมองว่า การเติบโตดังกล่าวทำให้บริษัทมีโอกาสทางธุรกิจเจาะกลุ่ม B2B และจะส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทขยับเพิ่มขึ้นกว่า 10% ทุกปี
"ล่าสุด บริษัทได้ร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) จัดโครงการ 30 ร้านอาหารเชฟชุมชน เพื่อท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายยกระดับมาตรฐานอาหารไทยจากระดับชุมชนสู่ระดับอินเตอร์ หรือ สร้างการรับรู้ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จัก ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน โดยใช้อาหารเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดและกระจายรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืนแท้จริง"
ขณะเดียวกัน ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัทเอเยนซีอาหารที่ประเทศสิงคโปร์และฮ่องกง โดยมีการร่วมมือกันสร้างสรรค์ผลงาน หรือ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน อีกทั้งบริษัทมองว่า อาหารเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมทั้งในและต่างประเทศ ไม่มีเขตแดนแบ่งชนชั้น ดังนั้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารทุกประเภทจะสามารถเติบโตได้อย่างยาวนาน รวมถึงเป้าหมายของบริษัทมีความตั้งใจอยากผลักดันให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักแก่คนต่างชาติ ขณะที่ คนไทยเองจะได้ความคิดสร้างสรรค์และมีมุมมองแตกต่างจากธุรกิจอาหารที่เป็นอยู่ปัจจุบัน
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,406 ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2561
นางไอริณ ฤกษะสาร ผู้ร่วมก่อตั้งและบรรณาธิการ บริษัท ไทยไกด์ เกตเวย์ มีเดีย จำกัด หรือ TASTE inc.Asia เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัทเป็นรูปแบบธุรกิจอาหารครบวงจร ให้บริการใน 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.การจัดงานอีเวนต์ เกี่ยวข้องกับอาหาร มีสัดส่วนรายได้ปัจจุบันอยู่ที่ 70% 2.การจัดการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับเชฟ ทั้งในและต่างประเทศ (โมเดลลิ่ง) สัดส่วนรายได้ 20% 3.ที่ปรึกษาธุรกิจร้านอาหารสัด ส่วนรายได้ที่ 10% โดยเบื้องต้น ตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้ 80-100 ล้านบาทในสิ้นปีนี้
[caption id="attachment_326613" align="aligncenter" width="319"]
"บริษัทมองว่า อุตสาหกรรมธุรกิจอาหารเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันประกอบกับเทรนด์กลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่กำลังนิยม Foodie หรือ นักกิน นักชิม มีการเติบโตและเป็นกลุ่มขนาดใหญ่อยู่ในทั่วโลก ซึ่งในตลาดต่างประเทศ มีธุรกิจข้างต้นเกิดขึ้นมาสักพักแล้ว ขณะที่ ตลาดในประเทศไทยยังมีผู้เล่นไม่มากนัก จึงนับว่าเป็นช่องว่างและโอกาสของบริษัทที่เลือกทำธุรกิจประเภทนี้"
ปัจจุบันพบว่า มีแบรนด์ หรือองค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ อาทิ ไทยเบฟ , ปตท. , ธนาคารกรุงเทพ และ ททท. เป็นต้น เริ่มให้ความสนใจกับการจัดกิจกรรม หรือ อีเวนต์ที่เกี่ยวข้องกับอาหารจำนวนมาก โดยเฉพาะแบรนด์ระดับลักชัวรีที่มุ่งเน้นการจัดงานรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ต้องการให้ลูกค้า หรือ สมาชิกของแบรนด์ได้รับประสบการณ์ดินเนอร์ หรือ รับประทานอาหารสุดพิเศษ ซึ่งอัตราการเติบโตของธุรกิจการบริการการจัดงานเลี้ยงด้านอาหารเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% ต่อปี บริษัทมองว่า การเติบโตดังกล่าวทำให้บริษัทมีโอกาสทางธุรกิจเจาะกลุ่ม B2B และจะส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทขยับเพิ่มขึ้นกว่า 10% ทุกปี
"ล่าสุด บริษัทได้ร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) จัดโครงการ 30 ร้านอาหารเชฟชุมชน เพื่อท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายยกระดับมาตรฐานอาหารไทยจากระดับชุมชนสู่ระดับอินเตอร์ หรือ สร้างการรับรู้ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จัก ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน โดยใช้อาหารเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดและกระจายรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืนแท้จริง"
ขณะเดียวกัน ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัทเอเยนซีอาหารที่ประเทศสิงคโปร์และฮ่องกง โดยมีการร่วมมือกันสร้างสรรค์ผลงาน หรือ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน อีกทั้งบริษัทมองว่า อาหารเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมทั้งในและต่างประเทศ ไม่มีเขตแดนแบ่งชนชั้น ดังนั้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารทุกประเภทจะสามารถเติบโตได้อย่างยาวนาน รวมถึงเป้าหมายของบริษัทมีความตั้งใจอยากผลักดันให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักแก่คนต่างชาติ ขณะที่ คนไทยเองจะได้ความคิดสร้างสรรค์และมีมุมมองแตกต่างจากธุรกิจอาหารที่เป็นอยู่ปัจจุบัน
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,406 ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2561
