"เกรียงศักดิ์" ผวาโครงการชดเชยดอกเบี้ย 3% สะดุด ส่งซิกรัฐ 'โรงสี' โอด 2 ปี ยังไม่ได้รับเงิน

พาณิชย์คิกออฟ! ดึงโรงสีเข้าร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ยรวบรวมข้าว 3% เป้า 5 ล้านตัน "เกรียงศักดิ์" ผวาสมาชิกเมินซื้อข้าวชาวนาเก็บสต็อก เหตุ 2 ปีผ่านมา ยังไม่ได้รับเงินชดเชย เร่งรัดเคลียร์ให้จบก่อนเปิดรับซื้อข้าวเปลือก ดีเดย์ 1 พ.ย. นี้ กังขาแบบสอบถามพิรุธ หวั่นตกเป็นเหยื่อการเมือง





นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ทางกรมการค้าภายในได้เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ย 3% ให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อกปีการผลิต 2561/62 เป้าหมาย 5 ล้านตันนั้น เบื้องต้น ทางสมาคมได้แจ้งให้สมาชิกทั่วประเทศรับทราบแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2561 ที่ผ่านมา แต่มีสมาชิกหลายรายมีข้อท้วงติงและได้รับการร้องเรียนมาว่า หลังจากได้เข้าร่วมโครงการกับทางราชการแล้ว ยังไม่ได้รับเงินเลย บางราย 2 ปีก็มี ดังนั้น จึงอยากให้กรมการค้าภายในในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ช่วยเร่งรัดให้รัฐบาลเร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าวนี้ด้วย ก่อนที่จะรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรในวันที่ 1 พ.ย. 2561 ถึง 31 มี.ค. 2562 (ภาคใต้ วันที่ 1 ม.ค. – 31 พ.ค. 2562 ให้เก็บสต็อกไว้ในรูปข้าวเปลือกและข้าวสาร ระยะเวลาการเก็บสต็อก 60-180 วันนับตั้งแต่วันที่รับซื้อ (เบิกจ่ายเงินหรือออกตั๋วสัญญาใช้เงินแต่ละฉบับ) เนื่องจากมีความกังวลว่า วัตถุประสงค์ตามโครงการของรัฐบาล เกรงจะไม่สัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมาย




"ตามวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการค้าข้าวให้สามารถรับซื้อข้าวเปลือกในช่วงต้นฤดูที่ผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากจากเกษตรกร โดยไม่ต้องเร่งระบายผลผลิตและเก็บสต็อกไว้ในรูปข้าวเปลือกและข้าวสาร เกิดการแข่งขันและดึงผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาดในช่วงที่ผลผลิตออกมาก และทำให้ราคาตลาดข้าวภายในประเทศมีเสถียรภาพ โดยผู้เข้าร่วมโครงการฯ สามารถหมุนเวียนรับซื้อ จำหน่าย แปรสภาพข้าวเปลือกที่รับซื้อจากเกษตรกรได้ ทั้งนี้ จะต้องดำรงสต็อกข้าวไว้ให้มีปริมาณครบถ้วนตามที่กำหนดและเก็บไว้ในสถานที่ที่แจ้งไว้ตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการ ดังนั้น สมาชิกรายใดที่สนใจก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ให้ยื่นเอกสารภายในวันที่ 5 ต.ค. 2561 พร้อมกับสำเนาแจ้งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่เพื่อทราบต่อไป"

นายเกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ล่าสุดได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกว่า ได้รับหนังสือลงตราประทับ "ด่วนที่สุด" ของกระทรวงพาณิชย์ ลงวันที่ 26 ก.ย. 2561 เรื่องสำรวจกำลังการผลิตของผู้ประกอบการรับซื้อข้าวเปลือกในพื้นที่แต่ละจังหวัด ว่า จะมีความสามารถในการรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรของผู้ประกอบการโรงสีในพื้นที่ได้หรือไม่ หรือว่ามีกำลังการผลิตเพียงพอต่อผลผลิตข้าวเปลือกของพื้นที่ในช่วงเวลาที่ออกสู่ตลาดมากหรือไม่อย่างไร เป็นรายเดือน พร้อมให้นำเสนอข้อเท็จจริงว่า ผู้ประกอบการในแต่ละพื้นที่มีการปิดกิจการหรือหยุดรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร หรือมีปัญหาสภาพคล่องหรือไม่ คำถามต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนสร้างความอึดอัดในการตอบแบบสอบถาม โดยเฉพาะในข้อที่ถามว่า เป็นโรงสีที่เปิดดำเนินการในช่วงโครงการรับจำนำข้าวของรัฐหรือไม่ ในข้อนี้มีให้เลือกแค่ 2 ข้อ คือ "เป็น" กับ "ไม่เป็น" ไม่เข้าใจว่าจะตั้งคำถามนี้เพื่ออะไร เป็นการเมืองหรือไม่ อย่างไร และบางเรื่องก็เป็นความลับทางธุรกิจที่ไม่อาจเปิดเผยได้ ฉะนั้น ก็อยากให้ภาครัฐเข้าใจ