Play
‘ทีวีไดเร็ค-สปริงนิวส์’รุกโฮมช็อปปิ้ง
“ทีวี ไดเร็ค” ถือหุ้น “สปริงนิวส์” เสริมแกร่งช่องทางขาย รุกตลาดโฮมช็อปปิ้ง คาด 6-7 ปีคืนทุนพร้อมทำกำไร มั่นใจสิ้นปีมียอดขายรวม 3,990 ล้าน ด้าน “สปริงนิวส์” ลั่นพร้อมเดินหน้าสู่คอนเทนต์โพรไวเดอร์เต็มรูปแบบ
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD เปิดเผยว่า บริษัทได้ขยายการลงทุนครั้งใหญ่เข้าสู่การบริหารช่องทีวีดิจิตอลอย่างเต็มตัว โดยที่ผ่านมาได้ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ได้อนุมัติลงทุนเข้าถือหุ้น 90.1% หรือจำนวน 1,080.04 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าซื้อหุ้น 949.22 ล้านบาท และค่าอุปกรณ์อื่นๆ ในสปริงนิวส์ 130.82 ล้านบาท ในบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ในเครือ บมจ. นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาต (License) ให้ดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ดิจิตอล ช่อง 19 จาก กสทช. โดยขั้นตอนต่อไปจะเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท เพื่ออนุมัติต่อที่ประชุม
“การที่บริษัทเข้าซื้อหุ้นสปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จะเป็นผลดีกับทุกฝ่ายโดยทีวีไดเร็คจะมีความมั่นคงด้านการมีเวลาออกอากาศ และลดต้นทุนการออกอากาศระยะยาว ส่วนกลุ่มสปริงนิวส์ จะร่วมเป็นพันธมิตรร่วมผลิตรายการข่าว สารคดี หรือคอนเทนต์โพรไวเดอร์ให้กับช่อง ขณะเดียวกันในด้านของกลยุทธ์บริษัทจะเน้นดำเนินงานตามรูปแบบดังนี้ คือ 1.สร้างการรับรู้ไปยังผู้บริโภคกลุ่มแมสจำนวนมาก 2. Omni Channel กับ O2O 3.เพิ่มความหลากหลายสินค้า 4. ประสบ การณ์การช็อปปิ้งของผู้บริโภค และ 5. การตลาด Nua (Nua Marketing) ทั้งนี้ในแง่การคืนทุนบริษัทคาดว่าจะใช้ระยะเวลาราว 6-7 ปี และจะมีกำไรเติบโตขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทมองว่าตลาดโฮมช็อปปิ้งในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศ อาทิ เกาหลี ญี่ปุ่น และจีน เป็นต้น”
ด้านนายฉัตรชัย ตะวันธรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท สปริง คอร์ปอเรชัน จำกัด กล่าวว่า การได้ทีวีไดเร็คมาเป็นพาร์ตเนอร์ครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านการบริหารและการผลิตรายการของช่องสปริงนิวส์ ทั้งนี้ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาหลังจากได้ทีวีไดเร็คเข้ามาบริหารก็ช่วยส่งผลให้รายได้ดีขึ้นและคงที่
“หลังจากได้ทีวีไดเร็คเข้ามา ในด้านการทำงานของสปริงนิวส์ก็ง่ายขึ้น โดยจากนี้สปริงนิวส์ช่อง 19 จะทำหน้าที่เป็นคอนเทนต์โพรไวเดอร์เต็มรูปแบบ แต่ยังผลิตรายการข่าวสารและสาระ รวมถึงสารคดี ให้ช่อง สปริงนิวส์ช่อง 19 อยู่ บริษัทเชื่อว่าในอนาคตช่อง 19 จะเป็นหนึ่งในช่องทีวีดิจิตอลที่มีคุณภาพและได้รับความสนใจจากผู้ชมหลากหลายขึ้น”
ขณะที่ นายพงษ์ชัย ชัญมาตรกิจ หัวหน้าสายงานสถานีโทรทัศน์ บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD กล่าวเพิ่มเติมว่า นับตั้งแต่บริษัทร่วมผลิตรายการกับช่องสปริงนิวส์นับว่ามีผลตอบรับที่ดี ขณะที่แนวทางการบริหารช่องหลังจากการดำเนินการซื้อหุ้นเป็นที่เรียบร้อย ได้วางแผนออกอากาศรายการโฮมช็อปปิ้งตามข้อกำหนดของ กสทช. โดยบริษัทยังคงจะผลิตรายการข่าวและสาระไม่น้อยกว่า 50% ของเวลาออกอากาศ หรือมีการวางผังคอนเทนต์ แบ่งเป็น ข่าวสารและสาระ 6 ชั่วโมง รายการทีวีโปรแกรม 6 ชั่วโมง โฮมช็อปปิ้ง 6 ชั่วโมง และทีวีช็อปปิ้ง 6 ชั่วโมง
“บริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้จากการขายสินค้าผ่านสปริงนิวส์ช่อง 19 ในปีนี้คิดเป็นสัดส่วน 5% ของเป้าหมายยอดขายรวม 3,990 ล้านบาท โดยมองว่าปัจจุบันยังคงมีผู้บริโภคที่รับชมทีวีดิจิตอลอีกจำนวนมาก ทำให้การเสนอซื้อขายทางรายการโฮมช็อปปิ้งมีผลตอบรับที่ดี ดังนั้นการขายสินค้าที่ได้ผลในยุคนี้จึงไม่สามารถพึ่งพาช่องทางทีวี ออนไลน์ หรือร้านค้า ช่องทางใดช่องทางหนึ่งเท่านั้น แต่ต้องอาศัยช่องทางต่างๆ ไปพร้อมกัน ขณะที่การลงทุนร่วมกับสปริงนิวส์ครั้งนี้จะช่วยเพิ่มแต้มต่อในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น รวมถึงการช่วยเสริมประสิทธิภาพการเสนอขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และร้าน TV Direct Showcase ที่มีการขยายสาขามาอย่างต่อเนื่อง”
.....................................................................................................
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,404 ระหว่างวันที่ 27-29 กันยายน 2561
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD เปิดเผยว่า บริษัทได้ขยายการลงทุนครั้งใหญ่เข้าสู่การบริหารช่องทีวีดิจิตอลอย่างเต็มตัว โดยที่ผ่านมาได้ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ได้อนุมัติลงทุนเข้าถือหุ้น 90.1% หรือจำนวน 1,080.04 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าซื้อหุ้น 949.22 ล้านบาท และค่าอุปกรณ์อื่นๆ ในสปริงนิวส์ 130.82 ล้านบาท ในบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ในเครือ บมจ. นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาต (License) ให้ดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ดิจิตอล ช่อง 19 จาก กสทช. โดยขั้นตอนต่อไปจะเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท เพื่ออนุมัติต่อที่ประชุม
“การที่บริษัทเข้าซื้อหุ้นสปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จะเป็นผลดีกับทุกฝ่ายโดยทีวีไดเร็คจะมีความมั่นคงด้านการมีเวลาออกอากาศ และลดต้นทุนการออกอากาศระยะยาว ส่วนกลุ่มสปริงนิวส์ จะร่วมเป็นพันธมิตรร่วมผลิตรายการข่าว สารคดี หรือคอนเทนต์โพรไวเดอร์ให้กับช่อง ขณะเดียวกันในด้านของกลยุทธ์บริษัทจะเน้นดำเนินงานตามรูปแบบดังนี้ คือ 1.สร้างการรับรู้ไปยังผู้บริโภคกลุ่มแมสจำนวนมาก 2. Omni Channel กับ O2O 3.เพิ่มความหลากหลายสินค้า 4. ประสบ การณ์การช็อปปิ้งของผู้บริโภค และ 5. การตลาด Nua (Nua Marketing) ทั้งนี้ในแง่การคืนทุนบริษัทคาดว่าจะใช้ระยะเวลาราว 6-7 ปี และจะมีกำไรเติบโตขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทมองว่าตลาดโฮมช็อปปิ้งในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศ อาทิ เกาหลี ญี่ปุ่น และจีน เป็นต้น”
ด้านนายฉัตรชัย ตะวันธรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท สปริง คอร์ปอเรชัน จำกัด กล่าวว่า การได้ทีวีไดเร็คมาเป็นพาร์ตเนอร์ครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านการบริหารและการผลิตรายการของช่องสปริงนิวส์ ทั้งนี้ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาหลังจากได้ทีวีไดเร็คเข้ามาบริหารก็ช่วยส่งผลให้รายได้ดีขึ้นและคงที่
“หลังจากได้ทีวีไดเร็คเข้ามา ในด้านการทำงานของสปริงนิวส์ก็ง่ายขึ้น โดยจากนี้สปริงนิวส์ช่อง 19 จะทำหน้าที่เป็นคอนเทนต์โพรไวเดอร์เต็มรูปแบบ แต่ยังผลิตรายการข่าวสารและสาระ รวมถึงสารคดี ให้ช่อง สปริงนิวส์ช่อง 19 อยู่ บริษัทเชื่อว่าในอนาคตช่อง 19 จะเป็นหนึ่งในช่องทีวีดิจิตอลที่มีคุณภาพและได้รับความสนใจจากผู้ชมหลากหลายขึ้น”
ขณะที่ นายพงษ์ชัย ชัญมาตรกิจ หัวหน้าสายงานสถานีโทรทัศน์ บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD กล่าวเพิ่มเติมว่า นับตั้งแต่บริษัทร่วมผลิตรายการกับช่องสปริงนิวส์นับว่ามีผลตอบรับที่ดี ขณะที่แนวทางการบริหารช่องหลังจากการดำเนินการซื้อหุ้นเป็นที่เรียบร้อย ได้วางแผนออกอากาศรายการโฮมช็อปปิ้งตามข้อกำหนดของ กสทช. โดยบริษัทยังคงจะผลิตรายการข่าวและสาระไม่น้อยกว่า 50% ของเวลาออกอากาศ หรือมีการวางผังคอนเทนต์ แบ่งเป็น ข่าวสารและสาระ 6 ชั่วโมง รายการทีวีโปรแกรม 6 ชั่วโมง โฮมช็อปปิ้ง 6 ชั่วโมง และทีวีช็อปปิ้ง 6 ชั่วโมง
“บริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้จากการขายสินค้าผ่านสปริงนิวส์ช่อง 19 ในปีนี้คิดเป็นสัดส่วน 5% ของเป้าหมายยอดขายรวม 3,990 ล้านบาท โดยมองว่าปัจจุบันยังคงมีผู้บริโภคที่รับชมทีวีดิจิตอลอีกจำนวนมาก ทำให้การเสนอซื้อขายทางรายการโฮมช็อปปิ้งมีผลตอบรับที่ดี ดังนั้นการขายสินค้าที่ได้ผลในยุคนี้จึงไม่สามารถพึ่งพาช่องทางทีวี ออนไลน์ หรือร้านค้า ช่องทางใดช่องทางหนึ่งเท่านั้น แต่ต้องอาศัยช่องทางต่างๆ ไปพร้อมกัน ขณะที่การลงทุนร่วมกับสปริงนิวส์ครั้งนี้จะช่วยเพิ่มแต้มต่อในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น รวมถึงการช่วยเสริมประสิทธิภาพการเสนอขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และร้าน TV Direct Showcase ที่มีการขยายสาขามาอย่างต่อเนื่อง”
.....................................................................................................
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,404 ระหว่างวันที่ 27-29 กันยายน 2561
