Play
Lunar Queen Scarf
Lunar Queen Scarfสร้างความต่างด้วยงานศิลปะ
ในยุคที่แบรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย เพราะคนรุ่นใหม่ที่สนใจอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ขณะเดียวกันแบรนด์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ก็มีล้มหายตายจากไปบ้างอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เพราะสินค้าคุณภาพไม่ดี แต่อยู่ที่ความเข้าใจตลาด และการบริหารธุรกิจ ที่ต้องทำควบคู่ไปกับการสร้างโปรดักต์ที่มีคุณภาพเป็นที่ต้องใจผู้ซื้อ “ระวิวรรณ จันทร์เนตร” ผู้ก่อตั้งและผลิตผ้าคลุมไหล่แบรนด์ Lunar Queen Scarf เข้าใจตรรกะตรงนี้ดี และมีการเตรียมพร้อมพัฒนาแบรนด์ของเธอจนเป็นที่รู้จัก
“คุณปู-ระวิวรรณ” สาวสวยที่ผันตัวเองจากการเป็นแอร์โฮสเตส มาสู่งานวาดรูปที่ตัวเองชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก แล้วสร้างงานนี้ขึ้นเป็นโปรดักต์ผ้าพันคอ สามารถขายและสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองได้แบบสบายๆ
“เริ่มทำมาเกือบ 4 ปี แต่ทำจริงจังคือ ปีครึ่งที่ผ่านมา ตอนทำเมื่อ 4 ปีที่แล้วเป็นการทำเพื่อหารายได้พิเศษ แต่พออยู่ตัว เรามั่นใจว่ามีรายได้พอเลี้ยงตัวเองได้ ก็ออกมาทำจริงจัง”
เจ้าของแบรนด์ Lunar Queen Scarf บอกว่า เธอไม่ได้เรียนจบด้านการออกแบบหรืองานศิลปะโดยตรง แต่เมื่อชื่นชอบการวาดรูป ก็มาหัดวาดและศึกษาเพิ่มเติมด้วยตัวเอง และด้วย Passion ที่เป็นแรงผลักดัน ทุกครั้งที่ไปบิน เธอจะพกพากระดาษวาดรูป สีนํ้า พู่กัน และอุปกรณ์อื่นๆ ไปด้วยเสมอ จนในที่สุดก็สามารถสร้างขึ้นมาเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ผ้าพันคอ และปัจจุบันยังพัฒนาออกมาเป็นโปรดักต์อื่นๆ เพิ่มเติม
“คุณปู” ยอมรับว่า ในตลาดผ้าพันคอมีคู่แข่งจำนวนมาก และมีความหลากหลาย แต่เธอเน้นที่งานศิลปะภาพวาดสีนํ้า และเป็นงานแฮนด์เมดทั้งหมด ซึ่งไม่มีใครทำมาก่อน เป็นการสร้างความต่างจากคนอื่นๆ และด้วยแนวศิลปะที่มีความเป็นเอกลักษณ์นี่แหละ คือการสร้างฐานแฟนคลับที่เป็นของเธอเอง เพราะงานศิลปะของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว ทุกคนมีแนวของตัวเอง สำหรับคนที่ชื่นชอบแนวภาพวาดสีนํ้า ก็จะให้ความสนใจงานของเธอ ซึ่งเธอบอกเลยว่า ลูกค้ากว่า 50% ตอนนี้ คือลูกค้าที่กลับมาซื้อ เพราะชอบลวดลายและแพ็กเกจจิ้งของ Lunar Queen Scarf
Lunar Queen Scarf เติบโตมาจากช่องทางขายผ่านเฟซบุ๊ก และถือเป็นช่องทางใหญ่ในการทำตลาด นอกเหนือจากช่องทางใหม่ๆ ที่เจ้าของแบรนด์ผู้นี้ขยายออกไป เช่น อินสตาแกรมไลน์ เว็บไซต์ และการเปิดหน้าร้านที่ภูเก็ต
“เฟซบุ๊ก สามารถลงได้ทั้งรูปและเนื้อหา สินค้าแฟชั่นถ้ารูปสวยจะได้เปรียบ อย่างเราเล่นเฟซบุ๊ก พอเห็นรูปสวยเราจะหยุดดู ว่ามันเกี่ยวกับอะไร เราใช้เทคนิคเรื่องรูปสวยนี่แหละ เป็นตัวดึงดูดความสนใจ”
“คุณปู” ให้ความใส่ใจกับการทำตลาดออนไลน์ ตั้งแต่การให้ความสำคัญกับภาพที่จะพรีเซนต์สินค้า ต้องสวยงาม ดึงดูดสายตา และการดูแลลูกค้า เมื่อมีการสอบถามเข้ามา จะมีการตอบกลับอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้น เธอจะอบรมให้แอดมินมีความรอบรู้ สามารถโต้ตอบ ให้คำแนะนำ กับลูกค้าที่สอบถามเข้ามาอย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากการดูพฤติกรรมความสนใจของลูกค้า แล้วนำมาปรับปรุงโปรดักต์ให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด
อีกหนึ่งสิ่งที่ “คุณปู” กำลังปรับปรุงและขยายออกไปคือช่องทางออฟไลน์ เพราะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสัมผัสสินค้าจริงๆยังมี และเป็นคนละกลุ่มกับลูกค้าที่ชื่นชอบซื้อสินค้าทางออนไลน์ รวมทั้งการขยายตลาดออกต่างประเทศเพิ่มเติม
“คุณปู” พูดถึงคีย์ซัคเซสของเธอว่า Lunar Queen Scarf เป็นงานที่ขายความเป็นเอกลักษณ์ของงานศิลปะ และเมื่องานในแนวนี้ไปถูกใจใคร คนคนนั้นก็คือกลุ่มเป้าหมาย หลังจากนั้น จึงค่อยมาโฟกัสที่ความต้องการของกลุ่มนี้ และทำสินค้าให้ตอบโจทย์เขามากที่สุด เพราะสินค้าแฟชั่น คือ สินค้าที่คนตัดสินใจซื้อด้วยEmotional เป็นหลัก ส่วน Functional มาเป็นเรื่องรอง แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องไม่เสียความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองไป ไม่เช่นนั้น ลูกค้าก็อาจจะหายตามไปด้วย
หน้า 26-27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่38 ฉบับ 3374 ระหว่างวันที่ 14 - 16 มิ.ย. 2561
ในยุคที่แบรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย เพราะคนรุ่นใหม่ที่สนใจอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ขณะเดียวกันแบรนด์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ก็มีล้มหายตายจากไปบ้างอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เพราะสินค้าคุณภาพไม่ดี แต่อยู่ที่ความเข้าใจตลาด และการบริหารธุรกิจ ที่ต้องทำควบคู่ไปกับการสร้างโปรดักต์ที่มีคุณภาพเป็นที่ต้องใจผู้ซื้อ “ระวิวรรณ จันทร์เนตร” ผู้ก่อตั้งและผลิตผ้าคลุมไหล่แบรนด์ Lunar Queen Scarf เข้าใจตรรกะตรงนี้ดี และมีการเตรียมพร้อมพัฒนาแบรนด์ของเธอจนเป็นที่รู้จัก
“คุณปู-ระวิวรรณ” สาวสวยที่ผันตัวเองจากการเป็นแอร์โฮสเตส มาสู่งานวาดรูปที่ตัวเองชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก แล้วสร้างงานนี้ขึ้นเป็นโปรดักต์ผ้าพันคอ สามารถขายและสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองได้แบบสบายๆ
“เริ่มทำมาเกือบ 4 ปี แต่ทำจริงจังคือ ปีครึ่งที่ผ่านมา ตอนทำเมื่อ 4 ปีที่แล้วเป็นการทำเพื่อหารายได้พิเศษ แต่พออยู่ตัว เรามั่นใจว่ามีรายได้พอเลี้ยงตัวเองได้ ก็ออกมาทำจริงจัง”
เจ้าของแบรนด์ Lunar Queen Scarf บอกว่า เธอไม่ได้เรียนจบด้านการออกแบบหรืองานศิลปะโดยตรง แต่เมื่อชื่นชอบการวาดรูป ก็มาหัดวาดและศึกษาเพิ่มเติมด้วยตัวเอง และด้วย Passion ที่เป็นแรงผลักดัน ทุกครั้งที่ไปบิน เธอจะพกพากระดาษวาดรูป สีนํ้า พู่กัน และอุปกรณ์อื่นๆ ไปด้วยเสมอ จนในที่สุดก็สามารถสร้างขึ้นมาเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ผ้าพันคอ และปัจจุบันยังพัฒนาออกมาเป็นโปรดักต์อื่นๆ เพิ่มเติม
“คุณปู” ยอมรับว่า ในตลาดผ้าพันคอมีคู่แข่งจำนวนมาก และมีความหลากหลาย แต่เธอเน้นที่งานศิลปะภาพวาดสีนํ้า และเป็นงานแฮนด์เมดทั้งหมด ซึ่งไม่มีใครทำมาก่อน เป็นการสร้างความต่างจากคนอื่นๆ และด้วยแนวศิลปะที่มีความเป็นเอกลักษณ์นี่แหละ คือการสร้างฐานแฟนคลับที่เป็นของเธอเอง เพราะงานศิลปะของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว ทุกคนมีแนวของตัวเอง สำหรับคนที่ชื่นชอบแนวภาพวาดสีนํ้า ก็จะให้ความสนใจงานของเธอ ซึ่งเธอบอกเลยว่า ลูกค้ากว่า 50% ตอนนี้ คือลูกค้าที่กลับมาซื้อ เพราะชอบลวดลายและแพ็กเกจจิ้งของ Lunar Queen Scarf
Lunar Queen Scarf เติบโตมาจากช่องทางขายผ่านเฟซบุ๊ก และถือเป็นช่องทางใหญ่ในการทำตลาด นอกเหนือจากช่องทางใหม่ๆ ที่เจ้าของแบรนด์ผู้นี้ขยายออกไป เช่น อินสตาแกรมไลน์ เว็บไซต์ และการเปิดหน้าร้านที่ภูเก็ต
“เฟซบุ๊ก สามารถลงได้ทั้งรูปและเนื้อหา สินค้าแฟชั่นถ้ารูปสวยจะได้เปรียบ อย่างเราเล่นเฟซบุ๊ก พอเห็นรูปสวยเราจะหยุดดู ว่ามันเกี่ยวกับอะไร เราใช้เทคนิคเรื่องรูปสวยนี่แหละ เป็นตัวดึงดูดความสนใจ”
“คุณปู” ให้ความใส่ใจกับการทำตลาดออนไลน์ ตั้งแต่การให้ความสำคัญกับภาพที่จะพรีเซนต์สินค้า ต้องสวยงาม ดึงดูดสายตา และการดูแลลูกค้า เมื่อมีการสอบถามเข้ามา จะมีการตอบกลับอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้น เธอจะอบรมให้แอดมินมีความรอบรู้ สามารถโต้ตอบ ให้คำแนะนำ กับลูกค้าที่สอบถามเข้ามาอย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากการดูพฤติกรรมความสนใจของลูกค้า แล้วนำมาปรับปรุงโปรดักต์ให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด
อีกหนึ่งสิ่งที่ “คุณปู” กำลังปรับปรุงและขยายออกไปคือช่องทางออฟไลน์ เพราะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสัมผัสสินค้าจริงๆยังมี และเป็นคนละกลุ่มกับลูกค้าที่ชื่นชอบซื้อสินค้าทางออนไลน์ รวมทั้งการขยายตลาดออกต่างประเทศเพิ่มเติม
“คุณปู” พูดถึงคีย์ซัคเซสของเธอว่า Lunar Queen Scarf เป็นงานที่ขายความเป็นเอกลักษณ์ของงานศิลปะ และเมื่องานในแนวนี้ไปถูกใจใคร คนคนนั้นก็คือกลุ่มเป้าหมาย หลังจากนั้น จึงค่อยมาโฟกัสที่ความต้องการของกลุ่มนี้ และทำสินค้าให้ตอบโจทย์เขามากที่สุด เพราะสินค้าแฟชั่น คือ สินค้าที่คนตัดสินใจซื้อด้วยEmotional เป็นหลัก ส่วน Functional มาเป็นเรื่องรอง แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องไม่เสียความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองไป ไม่เช่นนั้น ลูกค้าก็อาจจะหายตามไปด้วย
หน้า 26-27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่38 ฉบับ 3374 ระหว่างวันที่ 14 - 16 มิ.ย. 2561
