Play
SHOWDC ความสำเร็จในวันนี้ไม่ได้มาจากคนคนเดียว
หากจะเอ่ยชื่อของศูนย์การค้าตั้งอยู่ใจกลางย่านศูนย์กลางธุรกิจ (ซีบีดี) แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ชื่อของ “โชว์ ดีซี” คืออีกหนึ่งชื่อที่หลายคนคิดถึง หลังเปิดให้บริการมาได้ 1 ปี “โชว์ ดีซี” ยังทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อ “Re- Positioning” แบรนด์ด้วยต้องการมองหารีเทลคอนเซ็ปต์ใหม่ ที่จะต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติตลอดเวลา
โดยมี “โก ซู ซิง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด ซีอีโอหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงวัย 34 ปี ชาวมาเลเซีย ที่ก้าวเข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคม 2560 กับภารกิจสุดท้าทายในตลาดธุรกิจรีเทลสุดหินของเมืองไทย
“โก ซู ซิง” เล่าว่า แม้ตนเองจะเป็นชาวมาเลเซียที่เข้ามาบริหารงานหนึ่งในธุรกิจสุดหินของเมืองไทยที่มีวัฒนธรรมรีเทลที่น่าตื่นเต้นมากมาย มีความกล้า มีคอนเซ็ปต์ใหม่ๆที่ท้าทายอยู่ตลอดเวลา จนสามารถผลักดันทุกขีดจำกัดที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ถึงขนาดมีต่างประเทศรวมทั้งรีเทลของมาเลเซียมาศึกษาธุรกิจในประเทศไทยมาแล้ว แต่ทว่าโดยส่วนตัวกลับเชื่อว่าส่วนของหลักปรัชญารีเทลระดับโลกนั้นก็ยังคงครอบคลุมคอร์หลักที่เหมือนกันอยู่ ซึ่งการเข้ามาทำหน้าที่กุมบังเหียนในครั้งนี้แนวคิดการทำงานยังคงเหมือนกับแนวคิดการทำงานในธุรกิจรีเทลระดับโลก แต่ทว่าต้องมีการปรับให้เข้ากับบริบทของไทย ทั้งสร้างเครือข่ายเน็ตเวิร์กในท้องถิ่น การสร้างรูปแบบที่ตอบโจทย์ และการปรับรูปแบบบางส่วนให้เข้ากับวัฒนธรรมของไทย
“ต้องขอบคุณชุมชนของไทย และพันธมิตรต่างๆที่ให้การสนับสนุนเราอย่างใกล้ชิด ทีมบริหารคนอื่นๆที่เชี่ยวชาญในธุรกิจค้าปลีก รวมถึงทีมงานทุกคนที่เรียนรู้ร่วมกันในการสร้างคอนเซ็ปต์และวางทิศทางที่ชัดเจนที่จะดำเนินงานร่วมกันเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้ ทั้งหมดคือส่วนประกอบหลักของการทำงานและทุกส่วนของความสำเร็จในวันนี้ ไม่ได้มาจากคนคนเดียว”
ซีอีโอหนุ่ม บอกอีกว่า การดำเนินงานเพื่อพา “โชว์ ดีซี” ไปสู่ความสำเร็จในตลาดรีเทลเมืองไทยครั้งนี้ ธุรกิจค้าปลีกของเมืองไทยเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงมาก และนี่เป็นครั้งแรกที่บริษัทลงมาเล่นในสนามที่เรียกว่าธุรกิจห้างสรรพสินค้าของไทยที่มีการแข่งขันที่สูงมากอยู่แล้ว ซึ่งความท้าทายครั้งนี้คือต้องทุ่มเทและเปิดใจรับคนอื่น เพราะยิ่งเปิดใจมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งประสบความสำเร็จมากเท่านั้น ขณะที่ส่วนที่ท้าทายมากที่สุดคือการสร้างความมั่นใจในตลาด เพราะว่าโชว์ ดีซี ยังถือว่าเป็นแบรนด์ที่ยังใหม่ในธุรกิจนี้อยู่
“ทุกธุรกิจย่อมมีความท้าทายใหม่ๆที่เราไม่เคยเผชิญมาก่อน แต่ทำอย่างไรจะสามารถตอบโจทย์และไปให้ถึงเป้าหมายที่เราวางไว้ นั่นคือประเด็นหลักที่ต้องโฟกัส”
สำหรับโจทย์หลักนับจากนี้คือการทำอย่างไรให้ “โชว์ ดีซี” เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของลูกค้าในพื้นที่รัศมี 3 กม. ซึ่งมีผู้บริโภคกว่า 4 แสนราย จากคอนโดฯ ห้องเช่ากว่า 80 แห่ง และทำให้เป็นเดสติเนชันของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไทย ซึ่งแผน 1 ปีกับการใช้เงินกว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อรีโพสิชันนิงใน 5 จุดขายทั้งเอาต์เลตมอลล์ การเปิดพื้นที่ซูเปอร์มาร์เก็ต การเพิ่มโซนอาหารและเครื่องดื่ม ตลาดนัด JJ COOL และ Play Zone เชื่อว่าจะเป็นแม็กเนตที่มาเสริม K-distric และBeauty , แฟชั่น ร้านอาหารจากประเทศเกาหลี และ YG REPUBLIC บนชั้นดาดฟ้า ที่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของทางศูนย์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็จะมีการ ปรับปรุงให้กระชับด้าน Entertianment Event ที่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของศูนย์ ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนคอนเซ็ปต์การโชว์ และเตรียมเปิดตัวโชว์ใหม่หลังรีโพสิชันนิงเสร็จ อีกหนึ่งจุดเด่นพื้นที่การแสดงภายในที่มีความจุกว่า 8,000 ที่นั่งก็เตรียมปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้นเช่นกัน
เป้าหมายหลักของซีอีโอหนุ่มวัย 34 ปี กับภารกิจนี้เพิ่งเริ่มต้น แต่เชื่อว่า “ความสำเร็จ” อยู่ไม่ไกล
หน้า32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ 3,368 วันที่ 24 - 26 พฤษภาคม 2561
โดยมี “โก ซู ซิง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด ซีอีโอหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงวัย 34 ปี ชาวมาเลเซีย ที่ก้าวเข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคม 2560 กับภารกิจสุดท้าทายในตลาดธุรกิจรีเทลสุดหินของเมืองไทย
“โก ซู ซิง” เล่าว่า แม้ตนเองจะเป็นชาวมาเลเซียที่เข้ามาบริหารงานหนึ่งในธุรกิจสุดหินของเมืองไทยที่มีวัฒนธรรมรีเทลที่น่าตื่นเต้นมากมาย มีความกล้า มีคอนเซ็ปต์ใหม่ๆที่ท้าทายอยู่ตลอดเวลา จนสามารถผลักดันทุกขีดจำกัดที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ถึงขนาดมีต่างประเทศรวมทั้งรีเทลของมาเลเซียมาศึกษาธุรกิจในประเทศไทยมาแล้ว แต่ทว่าโดยส่วนตัวกลับเชื่อว่าส่วนของหลักปรัชญารีเทลระดับโลกนั้นก็ยังคงครอบคลุมคอร์หลักที่เหมือนกันอยู่ ซึ่งการเข้ามาทำหน้าที่กุมบังเหียนในครั้งนี้แนวคิดการทำงานยังคงเหมือนกับแนวคิดการทำงานในธุรกิจรีเทลระดับโลก แต่ทว่าต้องมีการปรับให้เข้ากับบริบทของไทย ทั้งสร้างเครือข่ายเน็ตเวิร์กในท้องถิ่น การสร้างรูปแบบที่ตอบโจทย์ และการปรับรูปแบบบางส่วนให้เข้ากับวัฒนธรรมของไทย
“ต้องขอบคุณชุมชนของไทย และพันธมิตรต่างๆที่ให้การสนับสนุนเราอย่างใกล้ชิด ทีมบริหารคนอื่นๆที่เชี่ยวชาญในธุรกิจค้าปลีก รวมถึงทีมงานทุกคนที่เรียนรู้ร่วมกันในการสร้างคอนเซ็ปต์และวางทิศทางที่ชัดเจนที่จะดำเนินงานร่วมกันเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้ ทั้งหมดคือส่วนประกอบหลักของการทำงานและทุกส่วนของความสำเร็จในวันนี้ ไม่ได้มาจากคนคนเดียว”
ซีอีโอหนุ่ม บอกอีกว่า การดำเนินงานเพื่อพา “โชว์ ดีซี” ไปสู่ความสำเร็จในตลาดรีเทลเมืองไทยครั้งนี้ ธุรกิจค้าปลีกของเมืองไทยเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงมาก และนี่เป็นครั้งแรกที่บริษัทลงมาเล่นในสนามที่เรียกว่าธุรกิจห้างสรรพสินค้าของไทยที่มีการแข่งขันที่สูงมากอยู่แล้ว ซึ่งความท้าทายครั้งนี้คือต้องทุ่มเทและเปิดใจรับคนอื่น เพราะยิ่งเปิดใจมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งประสบความสำเร็จมากเท่านั้น ขณะที่ส่วนที่ท้าทายมากที่สุดคือการสร้างความมั่นใจในตลาด เพราะว่าโชว์ ดีซี ยังถือว่าเป็นแบรนด์ที่ยังใหม่ในธุรกิจนี้อยู่
“ทุกธุรกิจย่อมมีความท้าทายใหม่ๆที่เราไม่เคยเผชิญมาก่อน แต่ทำอย่างไรจะสามารถตอบโจทย์และไปให้ถึงเป้าหมายที่เราวางไว้ นั่นคือประเด็นหลักที่ต้องโฟกัส”
สำหรับโจทย์หลักนับจากนี้คือการทำอย่างไรให้ “โชว์ ดีซี” เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของลูกค้าในพื้นที่รัศมี 3 กม. ซึ่งมีผู้บริโภคกว่า 4 แสนราย จากคอนโดฯ ห้องเช่ากว่า 80 แห่ง และทำให้เป็นเดสติเนชันของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไทย ซึ่งแผน 1 ปีกับการใช้เงินกว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อรีโพสิชันนิงใน 5 จุดขายทั้งเอาต์เลตมอลล์ การเปิดพื้นที่ซูเปอร์มาร์เก็ต การเพิ่มโซนอาหารและเครื่องดื่ม ตลาดนัด JJ COOL และ Play Zone เชื่อว่าจะเป็นแม็กเนตที่มาเสริม K-distric และBeauty , แฟชั่น ร้านอาหารจากประเทศเกาหลี และ YG REPUBLIC บนชั้นดาดฟ้า ที่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของทางศูนย์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็จะมีการ ปรับปรุงให้กระชับด้าน Entertianment Event ที่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของศูนย์ ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนคอนเซ็ปต์การโชว์ และเตรียมเปิดตัวโชว์ใหม่หลังรีโพสิชันนิงเสร็จ อีกหนึ่งจุดเด่นพื้นที่การแสดงภายในที่มีความจุกว่า 8,000 ที่นั่งก็เตรียมปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้นเช่นกัน
เป้าหมายหลักของซีอีโอหนุ่มวัย 34 ปี กับภารกิจนี้เพิ่งเริ่มต้น แต่เชื่อว่า “ความสำเร็จ” อยู่ไม่ไกล
หน้า32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ 3,368 วันที่ 24 - 26 พฤษภาคม 2561
