ลุยตลาดพัดลมไอเย็น มาสเตอร์คูลบุกออนไลน์-ออฟไลน์ปั๊มยอด

มาสเตอร์คูล เดินหน้าลุยธุรกิจพัดลมไอเย็น ทั้งการขยายช่องทางโมเดิร์นเทรด ออนไลน์ และต่างประเทศ พร้อมเดินหน้าออกสินค้าใหม่ สร้างแบรนด์ และทำกิจกรรมการตลาด หวังกระตุ้นรายได้และกำไรเติบโต 25% หลังจากปีที่ผ่านมายอดขายหดตัว 30-40%

นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KOOL ผู้ผลิตและจำหน่ายพัดลมไอนํ้า- ไอเย็น ภายใต้แบรนด์ มาสเตอร์คูล เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจในปีนี้จะกลับมาสร้างการเติบโตทั้งในด้านรายได้และกำไร จากแผนธุรกิจที่ได้วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย การขยายตลาดในต่างประเทศ การสร้างแบรนด์และการโฆษณาประชาสัมพันธ์

[caption id="attachment_264435" align="aligncenter" width="321"] นพชัย วีระมาน[/caption]

โดยคาดว่าปีนี้จะสามารถสร้างการเติบโตได้ในอัตรา 25% จากปีที่ผ่านมามียอดขายประมาณ 500-600 ล้านบาท ซึ่งลดลงประมาณ 30-40% จากปีก่อนหน้า ที่มียอดขายประมาณ 800 ล้านบาท เนื่องจากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เย็น ส่งผลให้ยอดขายพัดลมลดลง รวมถึงสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและกำลังซื้อของผู้บริโภคบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มตลาดล่าง

สำหรับแผนขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในปีนี้ บริษัทจะมุ่งเน้นช่องทางโมเดิร์นเทรด อาทิ แม็คโคร บิ๊กซี และโลตัส โดยจะมีจุดจำหน่ายในช่องทางดังกล่าวประมาณ 250 แห่ง ปรับตัวลดลงจากปีที่ผ่านมาที่มีกว่า 500 แห่ง ซึ่งจะเป็นการคัดเลือกสาขาและทำเลที่มีศักยภาพด้านยอดขายเท่านั้น นอกจากนี้ยังวางเแผนขยายช่องทางสินค้าผ่านออนไลน์ ทั้งในช่องทางมาร์เก็ตเพลส อาทิ ลาซาด้า ช้อปปี้ เป็นต้น และการเปิดเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซของบริษัทเพื่อจัดจำหน่ายสินค้า โดยคาดว่าสัดส่วนยอดขายช่องทางออนไลน์จะมีประมาณ 5-8% จากที่ผ่านมามีไม่ถึง 5%

ส่วนการขยายตลาดในต่างประเทศนั้น ขณะนี้ได้มีตัวแทนจำหน่ายในประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเม็กซิโก ที่สนใจเข้ามาเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าของบริษัท นอกเหนือจากการขยายตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน อาทิ เวียดนาม เมียนมา และสปป.ลาว ที่ถือเป็นตลาดหลักของบริษัทและทำตลาดมาก่อนหน้านี้ ที่ปีนี้คาดว่าสัดส่วนยอดขายในต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากก่อนหน้าที่มีสัดส่วน 20-25%

นายนพชัย กล่าวอีกว่า ล่าสุดยังได้เปิดตัวสินค้าใหม่ พัดลมไอเย็น รุ่น เย็นไล่ยุง หรือ MIK-28EX ที่ใช้เทคโนโลยีคลื่นความถี่อุลตร้าโซนิกเข้ามาเป็นฟังก์ชัน พร้อมกับรุ่น MIK-14EX ผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็นตัวใหม่เข้าทำตลาดปีนี้ โดยได้เตรียมงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท ในการสร้างแบรนด์ การใช้เม็ดเงินในสื่อโฆษณา และกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดพัดลมไอเย็น ที่คาดว่ามีมูลค่าเกือบ 2,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 30-40%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,345 วันที่ 4 - 7 มีนาคม พ.ศ. 2561