KTBทุ่มปั้นนวัตกรรม เทงบหมื่นล้านชู FAST รุกตลาด ทบทวนปิดสาขา

28 ม.ค. 2561 | 07:22 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ม.ค. 2561 | 14:22 น.
“กรุงไทย” ชูดีเอ็นเอ FAST รุกตลาดอัดงบกว่าหมื่นล้านบาทเพิ่ม 4 หน่วยงานนวัตกรรมเดินหน้าฟีเจอร์แบงก์ “ผยง” ลั่นไม่ลดพนักงานด้วยการปลด-หลังสั่งชะลอปิดสาขาโยกบุคลากรข้ามจังหวัด พร้อมรีสกิลแทน-แจงแผนลดเอ็นพีแอลสิ้นปีขึ้นอยู่ตัวแปร IFRS9

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) เปิดเผยถึงนโยบายการดำเนินงานปีนี้ว่า ภายใต้บริบทสังคมปัจจุบันธนาคารกรุงไทยได้ประกาศดีเอ็นเอใหม่เรียกว่า “FAST: รวดเร็ว สะดวก ไว้ใจ วางใจ”

ในเชิงยุทธศาสตร์ปีนี้ธนาคารกรุงไทย มีเป้าหมายลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบเทคโนโลยีควบคู่กับการปรับระบบโครงสร้าง และรูปแบบการให้บริการโดยปรับเพิ่ม 4 หน่วยงานพัฒนานวัตกรรม ซึ่งขึ้นตรงต่อสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ ประกอบด้วย Data Innovation, IT Innovation, Business Innovation และ Process Innovation ซึ่งเป็น 4 นวัตกรรมที่จำเป็น และสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อจะตอบโจทย์ Feature แบงก์

[caption id="attachment_253431" align="aligncenter" width="336"] ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB)[/caption]

ส่วนนโยบายด้านสาขาและพนักงานนั้น ปีนี้ให้ชะลอการปิดสาขา เพราะพบว่าปีที่ผ่านมาการทยอยปิดสาขาเร็วไปไม่ตอบโจทย์ลูกค้า โดยหลายจุดการปิดสาขาเหมือนกระตุ้น และผลักลูกค้าออกไป อีกทั้งการปิดสาขาของธนาคารอื่นจะมีลูกค้าทยอยมาใช้บริการสาขากรุงไทย

ดังนั้นธนาคารจึงกลับมาทบทวนการปิดสาขา เนื่องจากกรุงไทยเป็นธนาคารที่มีสาขาต่างจังหวัดมากที่สุด 90% ซึ่งการปรับเข้าสู่นวัตกรรมนั้น สาขาในต่างจังหวัดอาจช้ากว่าสังคมเมือง ขณะเดียวกันการมีสาขาต่างจังหวัดต้องดึงประชากรฐานราก รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าที่มีมูลค่าต่อธนาคาร ดังนั้นจึงต้องคิดหาแนวทางรูปแบบบริการเพื่อตอบโจทย์ของลูกค้าและให้มั่นใจว่ามีช่องทางอื่นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้แล้ว อีกทั้งการเป็นธนาคารของรัฐเป็นจุดแข็งที่สามารถต่อยอดธุรกิจได้

ด้านนโยบายสาขาและบุคลากรนั้น ยังคงเดินตามนโยบายเมื่อ 5 ปีก่อน ที่กรุงไทยประกาศลดต้นทุนการดำเนินงานลง 30% ส่วนจำนวนสาขาจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ และพนักงานที่ปัจจุบันมีอยู่เกือบ 2.4 หมื่นคน แต่ละปีจะมีโครงการเกษียณอายุจำนวนมาก

MP24-3334-A บุคลากรบางจุดต้องปรับรูปแบบการให้บริการเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคสังคมเมืองภายใต้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ แต่ไม่อยากให้มองกระแสลดต้นทุน ซึ่งกรุงไทยไม่มีนโยบายลดพนักงานด้วยการปลดออก แต่ส่วนใหญ่พนักงานที่อาจจะเกินกำลังจำเป็นต้องเน้นการพัฒนาเพื่อยกระดับทักษะหรืออบรมเพิ่มเติมแทน

นอกจากนี้ปลายปีที่ผ่านมากรุงไทย มีนโยบายชัดเจนทั้งการชะลอปิดสาขาและให้นํ้าหนักกับการปรับย้ายพนักงานไปในจุดที่เหมาะสม เช่น การย้ายพนักงานข้ามจังหวัดและข้ามภูมิภาคเพื่อลดกระบวนการทำงาน และปีนี้ชะลอปิดสาขาจากปีก่อนที่ผ่านมากรุงไทยปิดสาขา 80 สาขา

“ปีที่แล้วเราเร่งปิดสาขา พบว่า ไม่ตอบโจทย์ของลูกค้า จึงเหมือนเป็นการผลักลูกค้า และประสบการณ์จากที่บางธนาคารปิดสาขา เราพบว่ากลับมีลูกค้ามาใช้บริการที่สาขากรุงไทย ส่วนจำนวนพนักงานนั้นแต่ละปีจะมีการเกษียณค่อนข้างมากอยู่แล้ว ผม Make it Clear ว่า เราจะไม่ลดพนักงานด้วยการปลดคนออก เช่นเดียวกันหากจะเพิ่มคนต้องมีโจทย์ที่ชัดเจน เช่น การเพิ่มคนใน Skill ใหม่อย่าง Data Analytic และ Innovation”

728x90-03-3-503x62-3-503x62 นายผยง กล่าวอีกว่า แนวโน้มหนี้เอ็นพีแอลปีนี้จะมีเรื่องการเปลี่ยนคำนิยามตามมาตรฐานทางบัญชี IFRS9 ซึ่งจะเป็นตัวแปร โดยเอ็นพีแอลตาม IFRS9 ได้รวม Possible In Pair ด้วย คือ ทางเทคนิคแม้ลูกค้ายังชำระหนี้อยู่ แต่ 3-6 เดือนข้างหน้าอาจจะเป็นหนี้เอ็นพีแอล ทำให้ธนาคารจะต้องกันสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ดังนั้น เป้าหมายที่จะรักษาระดับเอ็นพีแอลอยู่ที่ 4% จึงขึ้นอยู่กับตัวแปรดังกล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,334 วันที่ 25 - 27 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-11-503x62