"เอสสไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ"รุกธุรกิจการแพทย์ ชูนวัตกรรมใหม่รักษาโรคปวดหลัง-ระบบประสาท

28 พ.ย. 2560 | 09:25 น.
อัปเดตล่าสุด :28 พ.ย. 2560 | 16:25 น.
"เอสสไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ" รุกธุรกิจการแพทย์ ขยับจากคลินิกสู่โรงพยาบาล ชูจุดเด่นนวัตกรรมสมัยใหม่รักษาโรคปวดหลัง-ระบบประสาท เติบโตปีละ 100-200%

นายแพทย์ดิตถพงษ์ บุญอำพล  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอสสไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ  โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและระบบประสาท เปิดเผยว่า หลังจากชิมลางเปิดคลินิกขนาดเล็กก่อน จากนั้นขยับขยายเปิดโรงพยาบาลอย่างจริงจัง เนื่องจากมองว่าธุรกิจทางการแพทย์มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีบวกกับประชาชนมักเป็นโรคที่เกี่ยวกับการปวดหลังและระบบประสาทเพิ่มขึ้นจากการทำงาน

“หลังจากอยู่ในวงการแพทย์มานาน และมีความชำนาญในการักษาอาการปวดหลังร้าวลงขาเดินไม่ได้ ที่เกิดจากกระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท จึงได้นำความรู้จากการที่ไปเรียน เพิ่มทางด้านบริหาร และการเงิน ได้นำความรู้หลายศาสตร์มาผสมผสาน พร้อมกับนำนวัตกรรมสมัยใหม่จากทั่วโลกเข้ามาช่วยในการรักษา ใช้เลเซอร์ และส่องกล้องนำวิถีในการผ่านตัดเป็นหลัก ห้องผ่าตัดมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยระดับโลก ทำให้รักษาถูกต้องตรงจุด เกิดข้อผิดพลาดน้อยมาก นอกจากนี้ยังใช้ระบบออนไลน์ผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัย คนไข้สามารถดูผล และฟังการวินิจฉัยไปพร้อมๆ กับหมอได้เลย”

ss

ทั้งนี้จุดเด่นของการผ่าตัดด้วยเรเซอร์ คือ ระบบการยิงเรเซอร์ จะมีแผลเล็กมาก ไม่เจ็บปวด และไม่ต้องนอนโรงพยาบาลหลายคืน เพียงใช้เวลาเพียง 1  วัน ขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวกก็มีมากมาย เช่น เตียงไฟฟ้า ถังขยะออโต้  รวมถึงการตกแต่งบรรยากาศในโรงพยาบาลให้มีบรรยากาศเป็นโรงแรม รีสอร์ท ให้คนไข้ดูผ่อนคลาย ด้วยเหตุนี้ทำให้มีอัตราการเติบโตถึงปีละ 100-200% ลูกค้าเพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจุบันมีสัดส่วนคนไทย 70 % ต่างชาติ 30 % ส่วนใหญ่มาจากตะวันออกกลาง ซึ่งในอนาคตคาดการณ์ว่าจะสามารถดึงเม็ดเงินจำนวนมหาศาลจากต่างชาติ ที่จะเข้ามารักษาในเมืองไทยเพิ่มมากขึ้น

“เปรียบเทียบกับเมื่อก่อน ต้องมีการนอนโรงพยาบาล 1 – 2 อาทิตย์ พักฟื้นอีกหลายเดือนกว่าจะหาย แต่ที่นี่นอนแค่คืนเดียว กลับบ้านได้เลย ซึ่งเป็นจุดเด่นของเรา แล้วผลแทรกซ้อนก็ต่างกันมาก นั่นก็เพราะ 1.ความชำนาญของแพทย์ 2.เทคโนโลยี 3.ความชำนาญของเพื่อนร่วมทีม 3 อย่างนี้เป็นความสำคัญทั้งหมด” โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6