เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ ประตูเชื่อมโอกาสธุรกิจระดับสากล

27 ส.ค. 2560 | 10:38 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

“Thailand is the land of opportunity” ประโยคเริ่มต้นบทสนทนาที่มาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างของ มร.กอร์นอท ริงลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย จำกัด บริษัทในเครือของ “เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ” ที่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศเยอรมนีและก้าวสู่การเป็นบริษัทจัดงานแสดงสินค้าที่ประสบความสำเร็จสูงสุดแห่งหนึ่งของโลก
ลักษณะนิสัยส่วนตัวที่ชื่นชอบความท้าทายและตื่นตัวกับเรื่องราวแปลกใหม่อยู่เสมอ รวมถึงหลงใหลในงานอีเวนต์และงานจัดแสดงหลากรูปแบบตั้งแต่ศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย มร.กอร์นอท จึงตัดสินใจเข้าร่วมงานใน เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ กรุ๊ป ตั้งแต่ปี 2529 และจากนั้นเป็นต้นมา เขาไม่เคยเลิกล้มความตั้งใจ มุ่งพัฒนางานจัดแสดงสินค้าที่ได้รับมอบหมายให้ดีขึ้นในทุกๆ ปี และจุดเริ่มต้นของการได้รับความไว้วางใจจากสำนักงานใหญ่กับการย้ายมาประจำการในฐานะผู้จัดการทั่วไป ณ สำนักงาน เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย ประเทศสิงคโปร์ เมื่อปี 2538 ผลงานการวางรากฐานความเชื่อมั่นและการสานสัมพันธ์สร้างธุรกิจของ เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ ให้เป็นที่รู้จัก ได้รับการยอมรับ และเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระดับภูมิภาค เป็นผลให้ในปี 2543 มร.กอร์นอท ริงลิ่ง ได้ก้าวขึ้นสู่การเป็น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย จำกัด หนึ่งใน Top 5 คณะผู้บริหารระดับสูงของ เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ กรุ๊ป

MP25-3291-3 “เพราะจุดเด่นของประเทศไทยคือ “คุณภาพของประชากร” ที่มีทักษะทางภาษาที่ดีรวมถึงระบบการบริหารจัดการที่เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถเข้ามาจัดงานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นการมีพื้นที่จัดแสดงสินค้าที่สามารถตอบโจทย์รูปแบบและขนาดของงานได้อย่างหลากหลาย รวมถึงระบบคมนาคมขนส่งที่ดีทำให้ประเทศไทยไม่เพียงเป็นต่อด้านชัยภูมิที่ตั้งของประเทศแต่ยังมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการจัดแสดงสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ในภูมิภาคได้อย่างไร้ที่ติ”

การตัดสินใจเลือกและปักหมุดให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในพื้นที่จัดแสดงสินค้าสำคัญระดับภูมิภาคของ เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ โดยเนื้อแท้แล้วไม่ต่างจากการมองเห็นช่องทางโอกาสสำคัญในฐานะ “ตลาด” ของภูมิภาค ดังที่เคยปรากฏมาตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อน แต่เปลี่ยนบริบทจากการเคลื่อนย้ายและขนส่งสินค้าทางเรือ มาเป็นการนำองค์ความรู้ผ่านสินค้าและบุคลากรนำเสนอในงานแสดงสินค้าที่ดึงดูดผู้สนใจจากประเทศใกล้เคียงให้มาสัมผัสผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นในแต่ละปีพร้อมๆ กัน

[caption id="attachment_199507" align="aligncenter" width="503"] มร.กอร์นอท ริงลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย จำกัด มร.กอร์นอท ริงลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย จำกัด[/caption]

เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เรายกระดับให้งานจัดแสดงสินค้าเป็นมากกว่าเวทีนำเสนอผลิตภัณฑ์แต่คือการสร้างความร่วมมือ และการสร้างเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่ง เพราะฉะนั้นทุกกิจกรรมที่ เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย รังสรรค์ขึ้นตั้งแต่การวางแผนการประชาสัมพันธ์ การจัดสัมมนาภายในงาน และการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ต่างได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างความคุ้มค่าสูงสุดสำหรับผู้ร่วมงานทุกคน”

ความตั้งใจพัฒนางานจัดแสดงสินค้าให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการในระดับภูมิภาคได้อย่างตรงจุดผ่านการประยุกต์เทคโนโลยี นวัตกรรม โซลูชัน และความชำนาญใหม่ๆ ที่ผสานการยอมรับจากผู้ประกอบการในแต่ละอุตสาหกรรมอย่างมีคุณภาพ ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย ตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้าในระดับภูมิภาค ด้วยการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติถึง 4 งานด้วยกัน เริ่มต้นจาก งาน Medical Fair Thailand 2017 ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งในปีนี้ถือเป็นการจัดงานครั้งที่ 8 และนับเป็นความท้าทายครั้งสำคัญกับการยกระดับคุณภาพของงานในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น การขยายพื้นที่การจัดงานเพื่อรองรับผู้เข้าร่วมงานที่แสดงความจำนงมาแล้วกว่า 800 บริษัท จาก 60 ประเทศทั่วโลก รวมถึงการยกขบวนสินค้าและการบริการทางการแพทย์รูปแบบใหม่ที่ยังไม่เคยจัดแสดงที่ใดมาก่อนมาให้ชาวไทยได้สัมผัสถึงนวัตกรรมการรักษาและการดูแลสุขภาพจากทั่วทุกมุมโลก

MP25-3291-2 “การได้สัมผัสการจัดงานโดยตรงตั้งแต่กระบวนการแรก งาน Medical Fair ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จสูงสุดของการวางรากฐานการจัดงานอย่างมีคุณภาพของ เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย จากการจัดงานในปีแรกที่ผู้จัดแสดงส่วนใหญ่มาจากประเทศในสหภาพยุโรป แคนาดา อินเดีย รัสเซีย เนเธอร์แลนด์ และยังไม่มีลูกค้ามากนัก วันนี้เราสามารถพัฒนาจนงาน Medical Fair ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาค มีผู้จัดแสดงจากทวีปเอเชียอย่าง จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน และประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการมีผู้สนใจเข้าร่วมงานที่เดินทางมาจากประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี และในปีนี้คาดว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่อยู่ในแวดวงทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพเข้าร่วมงานมากกว่า 10,000 คน นับเป็นการจัดงานครั้งใหญ่ที่สุดที่เราจัดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

MP25-3291-4 นอกจากนั้นภายในเดือนเดียวกันยังมีงานแสดงสินค้าแห่งปีโดย เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย อีกถึง 3 งาน คือ งานแพ็ค พริ้นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล, งานไวเออร์ แอนด์ ทูป เซาธ์อีสต์เอเชีย และงาน T-PLAS หนึ่งในกุญแจสำคัญที่จะพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดในระดับภูมิภาค ทั้งยังเป็นต้นแบบสำคัญสำหรับการจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติในประเทศไทยต่อไป

“นิยามความสำเร็จของผมไม่ใช่เพียงแค่เราสามารถเดินหน้าจัดงานแสดงสินค้าได้ในทุกปี สามารถสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น แต่เราสามารถสร้างให้ทีมงานของเราทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข และที่สำคัญคือเมื่อผู้ร่วมจัดแสดงสินค้า (exhibitor) เดินมาบอกกับเราว่า “งานนี้เยี่ยมมาก และเราจะกลับมาอีกในปีหน้า” นี่คือสิ่งที่ผมเรียกว่าเป็นความสำเร็จของการจัดงานจริง”

MP25-3291-1 มากกว่า 22 ปี ในการย้ายจากประเทศบ้านเกิดมาทำงานในทวีปเอเชีย ซึ่งเต็มไปด้วยความหลากหลายทั้งภาษา วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิต ทำให้ มร.กอร์นอท สนุกกับการเรียนรู้ที่จะใช้ความแตกต่างมาปรับเข้ากับธุรกิจ ประสบการณ์ที่ได้รับจากการสร้างความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนในแต่ละประเทศ วันนี้นักธุรกิจอารมณ์ดีท่านนี้ไม่เพียงสนุกกับการเดินทางเพื่อผนึกความร่วมมือทางธุรกิจ แต่ยังรู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ได้ทานอาหารรสชาติใหม่ๆ อาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ รวมถึงการได้ท่องเที่ยวไปในดินแดนที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์อย่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เพราะความก้าวหน้าของธุรกิจคือการเปิดประตูต้อนรับโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ วันนี้ภารกิจของ มร.กอร์นอท ริงลิ่ง จึงไม่หยุดอยู่เพียงแค่การเสาะแสวงหานวัตกรรมและพันธมิตรใหม่ๆ แต่คือการทำให้งานแสดงสินค้าเป็น “ประตูแห่งโอกาส” ของทุกคนในทุกๆ กลุ่มอาชีพอย่างแท้จริง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,291 วันที่ 27 - 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560